ย้อนคดีสยองเวียงป่าเป้า
ผช.ผญบ.ฆ่า-หั่นศพแม่
ทะเลาะจับได้ขืนใจลูกสาว
คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
ย้อนคดีสยองเวียงป่าเป้า ผช.ผญบ.ฆ่า-หั่นศพแม่ ทะเลาะจับได้ขืนใจลูกสาว – ชาวบ้านใน ต.เวียง อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ต่างไม่อยากเชื่อว่าคนที่ชาวบ้านพากันไว้วางใจให้เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน จะเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุฆ่าหั่นศพมารดาตัวเอง ซ้ำร้ายยังข่มขืนใจลูกสาวแท้ๆ ของตัวเอง
แต่เมื่อหลักฐานทุกอย่างมัดแน่นจนยากจะปฏิเสธก็ได้แต่เศร้าใจ ไม่คิดว่าเหตุสลดเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับคนบ้านเดียวกัน
ย้อนไปเมื่อวันที่ 28 ก.พ. ร.ต.อ.ประเสริฐ พาดี รอง สว.(สอบสวน) สภ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย รับแจ้งเหตุคนถูกฆ่าแล้วนำศพไปทิ้งแยกส่วนอย่างน่าสยดสยอง ภายในบ้านแห่งหนึ่งใน ต.เวียง อ.เวียงป่าเป้า จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ประหยัด สิงสิน ผกก.สภ.เวียงป่าเป้า รับทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยชุดสืบสวน
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านคอนกรีตทรงหลังคาสูงชั้นเดียว มีอาณาเขตกว้างขวาง ที่ห้องเก็บของติดกับห้องครัวด้านหลังบ้าน พบถังพลาสติกสีฟ้าซึ่งใช้เก็บน้ำแข็งหรือของแช่เย็น มีชิ้นส่วนของมนุษย์ถูกหั่นเป็นชิ้นๆ เบื้องต้นเป็นส่วนขา หน้าแข้ง และแขน ไม่ต่ำกว่า 6 ชิ้น ถูกวางซ้อนกัน โดยมีน้ำแข็งใส่ไว้เพื่อป้องกันการเน่าเสียด้วย แต่ไม่พบส่วนศีรษะ คาดว่าถูกนำออกไปที่อื่นแล้ว
จากการตรวจสอบทราบว่าชิ้นส่วนมนุษย์ที่ถูกหั่นเป็นชิ้นๆ อย่างโหดเหี้ยมนั้นเป็นศพของนางอรุณี (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี เจ้าของบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมตัว นายภาคิน (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นบุตรชายของนางอรุณี และบิดาของ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ลูกสาวคนโต หลังได้รับแจ้งว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าโหดแม่ของตัวเอง
เมื่อจำนนต่อหลักฐานในที่สุดนายภาคินยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุฆ่าหั่นศพมารดาของตัวเอง จากนั้นจึงพาเจ้าหน้าที่ไปตรวจดูชิ้นส่วนของมารดาที่ตัวเองใช้มีดสับและหั่นใส่ถัง โดยส่วนศีรษะแม่ได้นำไปฝังไว้ที่ป่าข้างทางบนถนนสาย อ.เวียงป่าเป้า-อ.พร้าว เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวเพื่อให้พาไปขุดเอาส่วนศีรษะจนพบ
เบื้องต้นทราบว่า ภายหลังนายภาคินได้เลิกรากับภรรยาซึ่งเป็นมารดาของน.ส.เอไป จึงนำบุตรสาวมาอยู่อาศัยที่บ้านมารดาด้วยกัน แต่ต่อมาเมื่อเร็วๆ นี้นางอรุณีพบเรื่องน่าตกใจว่านายภาคินได้ข่มขืนน.ส.เอ ลูกสาวในไส้ ทำให้นางอรุณีออกมาต่อว่านายภาคินจนเกิดการทะเลาะมีปากเสียงกันขึ้น
ก่อนถูกฆ่านางอรุณีขู่ว่าจะไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้นายภาคินใช้มีดปลายแหลมในห้องครัวแทงแม่บังเกิดเกล้าจนถึงแก่ความตาย เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา จากนั้นเกรงกลัวความผิดจึงนำศพไปชำแหละใส่ถังแช่น้ำแข็ง ส่วนศีรษะนำไปฝังห่างจากบ้านไป 15 กิโลเมตร
หลังก่อเหตุแล้วก็ใช้ชีวิตตามปกติ ก่อนถูกจับกุมยังไปร่วมทำแนวกันไฟกับผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้าน ซึ่งหลังจากสอบปากคำและรวบรวมหลักฐานได้ระดับหนึ่งแล้ว เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายภาคินไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยมีการรักษา ความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ท่ามกลางญาติและประชาชนที่ไปดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก
ด้านชาวบ้านข้างเคียงคนหนึ่งเผยว่า ช่วงเช้ามืดวันที่ 27 ก.พ.ได้ยินเสียงร้องโหยหวนออกมาจากบ้านหลังดังกล่าว แต่ไม่มีผู้ใดสงสัย เพราะก่อนหน้านี้นายภาคินและมารดามีปากเสียงทะเลาะกันบ่อยครั้ง จากนั้นไม่มี ผู้ใดพบเห็นนางอรุณีอีกเลย เมื่อสอบถามนายภาคินก็ไม่ยอมตอบ
ตำรวจดำเนินคดีกับนายภาคินในข้อหา “ฆ่าบุพการีโดยกระทำทารุณโหดร้าย ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนใดของศพเพื่อปกปิดการตายหรือเหตุแห่งความตาย, ทำให้เสียหาย เคลื่อนย้าย ทำลายหรือทำ ให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งศพ ส่วนของศพ หรือเถ้าของศพ, พาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” ซึ่งนายภาคินให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
วันรุ่งขึ้นก่อนจะนำตัวไปฝากขัง ณ เรือนจำกลาง จ.เชียงราย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายภาคินไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพเพิ่มเติมที่บ้านที่ เกิดเหตุ โดยเฉพาะชี้จุดที่ไปซื้อน้ำแข็งมาแช่ชิ้นส่วนศพ ซึ่งพบว่าเจ้าตัวมีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด และเมื่อมีผู้สอบถามเพิ่มเติมก็บอกว่าไม่ขอพูดสิ่งใดๆ อีก
หลังทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เพิ่มเติมนายภาคินได้ขอขมาบ้านและมารดา ผู้เสียชีวิต ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้อนุญาตให้นั่งกราบไหว้ก่อนพาตัวผู้ต้องหาไปฝากขัง
จากการสอบถามชาวบ้านใกล้เคียงเล่าว่า ผู้ก่อเหตุเป็นคนดี ชอบช่วยเหลือชาวบ้าน มีธุรกิจสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว ได้หย่าร้างกับภรรยามานานหลายปีและเลี้ยงดูลูกสาวทั้งสามคน ชาวบ้านหลายคนไม่เชื่อว่าเป็นคน ก่อเหตุ ปกติเป็นคนนิ่งๆ เงียบๆ ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกับใครเลย ไม่กินเหล้า ไม่เสพยาเสพติดไม่เล่นการพนัน จนชาวบ้านไว้ใจเลือกให้เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน
เบื้องต้นจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า ผู้ก่อเหตุได้ลงมือฆ่ามารดาแท้ๆ ของตนเองในบริเวณบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งลูกสาวได้แอบเห็นและแอบเฝ้าดูพฤติกรรมอยู่ จนรุ่งเช้าผู้ก่อเหตุพาลูกสาวไปส่งโรงเรียนตามปกติ ลูกสาวจึงได้โทรศัพท์บอกญาติ จนนำไปสู่การที่ตำรวจบุกรวบตัวจับกุมทันที ก่อนที่นายภาคินจะรับสารภาพ เนื่องจากจำนนต่อหลักฐานทุกอย่าง
อีกหนึ่งคดีสยองที่จะคงอยู่ในความทรงจำของคนเวียงป่าเป้าไปอีกนาน
ชายชาญ ไชยมั่น
เกรียงไกร ปัญโญกาศ
เรื่อง/ภาพ