ผ่าชนวนฆ่าหนุ่มน.ศ.

แทงดับคาแยกไฟแดง

มือมีดอ้างแค่มองหน้า

คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ผ่าชนวนฆ่าหนุ่มน.ศ. แทงดับคาแยกไฟแดง มือมีดอ้างแค่มองหน้า – หากข้อมูลที่ผู้ต้องหาแทงหนุ่มวัย 19 ปีเสียชีวิตคาถนนนิมิตรใหม่ ที่ยืนยันหนักแน่นว่าไม่ใช่ศึกระหว่างสถาบัน แต่แค่ขับรถผ่านมาจอดมองหน้ากันไปมาจนเป็นเรื่องเป็นจริงตามนั้น สังคมก็ควรฉุกคิดได้แล้วว่าเรามาถึงจุดนี้กันแล้วจริงหรือไม่

ผ่าชนวนฆ่าหนุ่มน.ศ. แทงดับคาแยกไฟแดง มือมีดอ้างแค่มองหน้า

แก๊งโจ๋โหด

ย้อนไปเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 6 มี.ค. พ.ต.ท.อำนาจ นาควิจิตร สว.(สอบสวน) สน.นิมิตรใหม่ รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกแทง เสียชีวิตบริเวณริมถนนนิมิตรใหม่ แขวงทรายกองดิน เขตคลองสามวา กทม.

จึงรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ถนัด นักธรรม ผกก.สส.บก.น.3 พ.ต.ท.สนอง แสงมณี รองผกก.ป.สน.นิมิตรใหม่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.นิมิตรใหม่ ฝ่ายสืบสวนบก.น.3 เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) แพทย์นิติเวช ร.พ.ตร. และมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณสี่แยกหทัยมิตร บนบาทวิถีฝั่งถนนนิมิตรใหม่มุ่งหน้าลำลูกกา พบร่างนายปิยพงษ์ หรือบาส ศรีนรจันทร์ อายุ 19 ปี นักเรียนช่างไฟฟ้ากำลัง วิทยาลัยเทคโนโลยีมีนบุรีโปลีเทคนิค ปี 4

ถูกแทงที่บริเวณหน้าอกซ้าย 1 แห่ง และซี่โครงขวาจนไส้ทะลัก นอนหายใจรวยรินก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา บริเวณกลางแยกพบรถจยย. ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จอดล้มคว่ำอยู่

จากการสอบถาม นายศร ศรีกรด อายุ 52 ปี พนักงานบริษัท แมทเวอร์ค จำกัด ผู้เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่าเห็นรถจยย.ของผู้ตายซ้อนกันมา 3 คน มาทางถนนนิมิตรใหม่จอดอยู่กลางสี่แยกเพื่อรอไฟแดง ก่อนจะพบเห็นรถจยย. 2 คัน ที่มาจากถนนหทัยราษฎร์ขับเลี้ยวมาและถีบรถจยย. ของผู้ตายล้มลง

ผ่าชนวนฆ่าหนุ่มน.ศ. แทงดับคาแยกไฟแดง มือมีดอ้างแค่มองหน้า

วงจรปิดขณะเกิดเหตุ

จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นลงจากรถจยย.ใช้มีดไล่ฟันกลุ่มผู้ตาย โดยมีรถจยย.อีกคนจอดรถคอยคุมเชิง ท่ามกลางสายตาประชาชนจำนวนมาก กระทั่งผู้ตายและเพื่อนอีก 2 คน วิ่งหนีมาล้มบนบาทวิถีก่อนเสียชีวิต ส่วนรถจยย. 2 คัน หลังก่อเหตุขับรถหลบหนีกลับไปทางถนนหทัยราษฎร์

นายเด่น โคตรมูล อายุ 50 ปี พ่อเลี้ยงของผู้ตาย กล่าวว่าตนมีอาชีพรับจ้างทั่วไปโดยปกติลูกชายจะออกไปเรียนตั้งแต่เวลา 09.00 น. และจะเดินทางกลับมาบ้านพักย่านลำลูกกา คลอง 7 ในช่วงเย็น ปกติแล้วลูกชายไม่เคยมีเรื่องราวทะเลาะอะไรกับใครมาก่อนและกำลังทำเรื่องขอจบการศึกษา อีกทั้งผู้ตายยังมีภรรยาที่กำลัง ตั้งครรภ์ 4 เดือน อีกด้วย

ผ่าชนวนฆ่าหนุ่มน.ศ. แทงดับคาแยกไฟแดง มือมีดอ้างแค่มองหน้า

ญาติร่ำไห้

ด้านนายอาร์ม (นามสมมติ) อายุ 17 ปี เพื่อนผู้ตายกล่าวว่าคนร้ายขับขี่รถจยย. ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นเอ็มสแลช สีดำ-ส้ม ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และรถจยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สวมเสื้อโปโลมีสัญลักษณ์วิทยาลัยเทคโนโลยีแห่งหนึ่ง

ขณะที่ภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกเหตุการณ์เอาไว้ได้ ทำให้เป็น หลักฐานชั้นดีในการติดตามคนร้าย

วันรุ่งขึ้นพ.ต.อ.นพรัตน์ สินมา รองผบก.น.3 พ.ต.อ.ถนัด นักธรรม ผกก.สส.บก.น.3 พร้อมชุดสืบสวน กก.สส.บก.น.3 และฝ่ายสืบสวนสน.นิมิตรใหม่ ร่วมกันนำกำลังเข้าจับกุม นายสุทธิชัย มอซอ อายุ 19 ปี ภายในบ้านพัก ซอยกรุงเทพกรีฑา แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. หลังเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า นายสุทธิชัย เป็น 1 ใน 5 ที่ร่วมกันรุมทำร้ายและใช้มีดแทง นายปิยพงษ์ เสียชีวิต

พ.ต.อ.นพรัตน์เปิดเผยว่า จากการสอบสวน นายสุทธิชัยให้การว่า สาเหตุไม่ได้มาจากความขัดแย้งระหว่างสถาบัน และไม่เคยมีเรื่องโกรธแค้นกันมาก่อน ก่อนเกิดเหตุขับขี่รถจักรยานยนต์มากับเพื่อนแล้วมาเจอกับกลุ่มผู้ตายโดยบังเอิญ

ผ่าชนวนฆ่าหนุ่มน.ศ. แทงดับคาแยกไฟแดง มือมีดอ้างแค่มองหน้า

จนมุมตร.รถไฟ

จากนั้นเกิดการมองหน้ากันขึ้นจนกลายเป็นเหตุทะเลาะวิวาท และใช้มีดแทงกันจนถึงแก่ความตาย เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพกพาอาวุธมีดไปในเมือง หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร”

ตำรวจสอบเค้นนายสุทธิชัย จนได้ข้อมูลแก๊งคนร้ายทั้งหมด พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานไป ขอศาลมีนบุรี ออกหมายจับ นายบุลากร กองปัท อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นมือแทง และนายวรเมธ ชัยเวทย์ อายุ 20 ปี ในข้อหาเดียวกัน และศาลได้อนุมัติหมายจับเลขที่ จ.203-204/2563 ลงวันที่ 7 มี.ค.2563

ส่วนอีก 2 คนที่ร่วมก่อเหตุอยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบว่าเป็นใคร ก่อนขอศาลออกหมายจับเพิ่มเติม

หลังรู้ว่าเพื่อนร่วมแก๊งเกมไปแล้ว และตัวเองก็ถูกออกหมายจับ ล่าสุดวันที่ 8 มี.ค. นายบุลากร กองปัท อายุ 20 ปี นายวรเมธ หรือโซต ชัยเวทย์ อายุ 20 ปี ก็โผล่เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สส.บก.น.3 และตำรวจฝายสืบสวน สน.นิมิตรใหม่

ผ่าชนวนฆ่าหนุ่มน.ศ. แทงดับคาแยกไฟแดง มือมีดอ้างแค่มองหน้า

2 คนร้ายมอบตัว

โดยนายบุลากร และนายวรเมธให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับนายสุทธิชัยใช้อาวุธมีดแทงนายปิยพงษ์ จนเสียชีวิตจริง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายพร้อมจะเร่งสืบสวนหาตัวผู้ร่วมก่อเหตุที่เหลือมาดำเนินคดีต่อไป

ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 มี.ค. พล.ต.ต.ปภัชเดช เกตุพันธ์ ผบก.รฟ. สั่งการให้พ.ต.อ.วสันต์ พวงน้อย ผกก.1 บก.รฟ. พ.ต.อ.กฤษฎาพร ปานโปร่ง ผกก.3 บก.รฟ. พ.ต.ท.สุรศักดิ์ สิทธิใหญ่ สวญ.ส.รฟ.นพวงศ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายกิตตินันท์ หรือกิต หมื่นหาญ อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาอีกรายได้ที่บริเวณสถานีรถไฟกรุงเทพฯ หลังหนีไปกบดานที่ภาคใต้

ไม่เคยมีเรื่องหรือรู้จักกันมาก่อน แค่มองหน้ากันตอนรถติดไฟแดงเนี่ยนะ จะหัวร้อนอะไรเบอร์นั้น

อดิษัยต์ พรวนพิมพ์

ณเดช โรจนประดิษฐ์

เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน