ผ่าชนวนสาวบ่มแค้น20ปี

สาดกรดพี่สาว-2หลาน

กระโดดชั้น14หนีตร.

คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ผ่าชนวนสาวบ่มแค้น20ปี สาดกรดพี่สาว 2หลาน กระโดดชั้น14หนีตร. – เรื่องราวความรุนแรงในครอบครัวเกิดขึ้นครั้งใด ก็สร้างความสะเทือนใจทุกครั้งไป ไม่เว้นแม้แต่เรื่องราวของนางศรี (นามสมมติ) ที่เปิดเผยขึ้นหลังเดินทางเข้าร้องทุกข์กับ มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ณ สำนักงาน ถนนรังสิต-นครนายก (คลอง 7) ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี

ย้อนไปเมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 7 มี.ค. นางศรี (นามสมมติ) (แม่) ได้เดินทางเข้าร้องทุกข์กับมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ขอให้ช่วยเหลือลูกสาว น.ส.บาย (นามสมมติ) อายุ 33 ปี พร้อม ด.ช.ที (นามสมมติ) อายุ 10 ขวบ และด.ญ.บี อายุ 6 ขวบ (นามสมมติ) ถูกน้าสาว ซึ่งเป็นบุตรสาวคนที่สองของตน สาดน้ำกรดเมื่อกลางดึกของวันที่ 4 มี.ค โดยที่ไม่รู้สาเหตุขณะนี้ทั้ง 3 คน เข้ารักษาอยู่ที่ ร.พ. อยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ส่วนตัวของผู้กระทำหลังเกิดเหตุได้หลบหนีไปแล้ว

ร้องปวีณา

นางศรีเล่าเรื่องราวด้วยน้ำเสียงหดหู่ว่า ตนมีลูก 3 คน คนโต คือ น.ส.บาย (นามสมมติ) อายุ 33 ปี (ผู้ถูกกระทำ) คนที่สอง น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 31 ปี คือผู้กระทำ และคนเล็กเป็นลูกชาย อายุ 25 ปี ในตอนเด็กๆ น.ส.บาย ซึ่งเป็นพี่คนโต มีหน้าที่ช่วยพ่อ แม่ เลี้ยงน้อง เวลาน้องดื้อก็มีดุบ้าง และเท่าที่จำได้ ตอนลูกสาวคนที่สอง (ซึ่งเป็นผู้กระทำ) อายุประมาณ 10 ขวบ ดื้อ น.ส.บาย จึงได้ใช้หม้อตีที่ศีรษะของผู้กระทำ และหลังจากนั้นทั้งสองคนก็ไม่คุยกันอีกเลย

จนปัจจุบันนี้ น.ส.เอ ประมาณ 18 ปี ก็ได้แยกออกไปอยู่ข้างนอก นานๆ ก็จะกลับมาบ้านที แล้วกลับมาหาตนตอนอายุ 21 ปี แล้วก็หายไปอีก จนล่าสุดเมื่อกลางเดือน ก.พ. น.ส.เอได้กลับมาขออาศัยอยู่ที่บ้านด้วยชั่วคราว รอได้งานทำแล้วจะย้ายออกไป และระหว่างนั้น น.ส.บาย ได้พาลูกมาอยู่กับตน เนื่องจาก น.ส.บาย ประสบอุบัติเหตุทางรถจักรยานยนต์ ทำให้ช่วยเหลือตัวเองได้ไม่สะดวก จึงให้ตนช่วยดูแลหลานสองคนให้ด้วย

ชี้ที่เกิดเหตุ

กระทั่งกลางดึกของวันที่ 3 มี.ค เวลาประมาณ 03.30 น. ขณะที่ตนนอนหลับอยู่ในห้องได้ยินเสียง น.ส.บาย และหลานทั้งสอง กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด จึงรีบลุกขึ้นมาดู น.ส.บายตะโกนบอกว่า แม่ระวังน้ำกรด จึงได้ถามว่าน้ำกรดจากไหน ใครสาด น.ส.บาย บอกว่า น.ส.เอ (น้องสาว) สาด หลังเกิดเหตุ น.ส.เอ (นามสมมติ) ได้หลบหนีไป จากนั้นเพื่อนบ้านที่ได้ยินเสียงร้องจึงเข้ามาช่วย และโทร.แจ้งรถมูลนิธิ นำตัวผู้บาดเจ็บทั้งสามคนส่ง ร.พ.ใกล้เคียง

นางศรียังกล่าวอีกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นรุนแรงเกินกว่าที่จะรับได้เพราะเป็นลูกทั้งสองคน และหลังจากลูกคนที่สองสาดน้ำกรด แล้วยังยืนมองดูอย่างสะใจ คุณหมอหลายโรงพยาบาลยังบอกกลัวเขากลับมาทำร้ายอีก จึงอยากให้มูลนิธิปวีณาฯ ประสานตำรวจ ติดตามตัวผู้กระทำ มาดำเนินคดีตามกฎหมาย และอยากถามว่าทำแบบนี้ทำไม คิดอย่างไรถึงได้ทำแบบนี้ แม้กระทั่งหลานอายุเพียง 10 ขวบ และ 6 ขวบ ก็ ไม่เว้น มีจิตใจที่โหดร้ายมาก

เล่าเหตุการณ์

หลังรับฟังเรื่องราวความรันทดของครอบครัวนางศรี นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี รีบประสาน พ.ต.อ.รัฐศักดิ์ รักสลาม รอง ผบก.น.3 พ.ต.อ.นันทภูมิ เรืองรุ่ง ผกก.สน.ร่มเกล้า เพื่อเร่งสอบปากคำน.ส.บาย (นามสมมติ) ติดตามตัว ผู้กระทำความผิด และให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บโดยประสาน พญ. คัชรินทร์ เจียมศรีพงษ์ ผู้อำนวยการ ร.พ.สิรินธร เข้าเยี่ยมอาการของ น.ส.บาย (นามสมมติ) ก่อนเผยว่ารู้สึกเป็นห่วงอาการของผู้บาดเจ็บทั้ง 3 และเห็นใจสภาพจิตใจของยาย ที่ต้องเผชิญปัญหารุนแรงในครอบครัว

วันอาทิตย์ที่ 8 มี.ค. นางปวีณา เดินทางไป ร.พ.สิรินธร พร้อม พ.ต.อ.รัฐศักดิ์ รักสลาม รอง ผบก.น.3 พนักงานสอบสวน สน.ร่มเกล้า และนางศรี (นามสมมติ) เข้าเยี่ยมอาการของ น.ส.บาย (นามสมมติ) ก่อนเผยว่าบาดแผลจากการถูกน้ำกรดสาดที่หน้ายังแฉะอยู่ คงต้องรักษาตัวสักระยะ โดยที่ตาข้างซ้ายนั้นปิด ส่วนหลานชายอาการดีขึ้นแล้วและพักรักษาตัวที่ร.พ.จุฬาลงกรณ์ แต่ทางหลานสาวนั้นอาการยังสาหัส ตาสองข้างอาจมีปัญหา พักรักษาตัวที่ร.พ.เด็ก

นำน.ส.เอส่งร.พ.

ตอนนี้เราห่วงใยสภาพจิตใจของผู้บาดเจ็บและจะใช้เวลารักษานานเพียงใด ตนจะประสานกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์มาดูแลเรื่องนี้ พร้อมประสานทางกระทรวงยุติธรรมให้มาดูเรื่องสิทธิของผู้บาดเจ็บ

ด้านพ.ต.อ.รัฐศักดิ์ สั่งการให้พนักงานสอบสวนเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน จนสามารถขอศาลจังหวัดมีนบุรี อนุมัติหมายจับเลขที่ จ. 209/63 ลงวันที่ 10 มี.ค. 2563 ในข้อหาพยายามฆ่า

ต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ร่มเกล้า ก็ลงพื้นที่สืบสวนหา ข่าวกระทั่งทราบว่า น.ส.เอ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับหลบหนีมาซ่อนตัวอยู่ที่บริเวณห้องพักชั้น 14 อาคาร C5 ป๊อปปูลาร์คอนโด เมืองทองธานี จ.นนทบุรี เขตพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

ผ้าใบที่น.ส.เอ ตกใส่

ค่ำวันที่ 11 มี.ค. ตำรวจนำกำลังไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงบริเวณหน้าห้องพักดังกล่าว พบว่าประตูห้องถูกล็อกจากด้านใน เจ้าหน้าที่จึงได้เคาะประตูห้องเพื่อแจ้งให้ น.ส.เอ ออกมามอบตัว แต่ปรากฏว่า น.ส.เอ ไม่ยอมเปิดประตูห้อง แต่กลับกระโดดหนีออกทางบริเวณหน้าต่างห้องพักดังกล่าว ตกลงมาจากห้องที่อยู่ชั้น 14 ลงมาใส่เพิงหลังคาด้านล่างได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงรีบนำส่งรักษาตัวที่ ร.พ.ชลประทาน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

ไม่มีใครรู้ว่าตลอด 20 ปีที่ผ่านมา น.ส.เอจะบ่มเพาะความแค้น ที่มีต่อพี่สาวเอาไว้ตลอดไม่ละวาง จนกลายเป็นชนวนเหตุชวนสลด ครั้งนี้

สันติ ประหร่ำภากรณ์/นพรัตน์ คุ้มศรี

พิชัย ศรีรุ่งเรือง/ภัทรพล แก้วสกุณี

วสันต์ ทิพย์ประโภชน์

เรื่อง/ภาพ