ตามตร.จับโจรปล้นเซเว่น

อ้างตกงานไม่มีเงินค่าห้อง

อีกคดีเพิ่งพ้นคุกบุกชิงทอง

คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ตามตร.จับโจรปล้นเซเว่นอ้างตกงานไม่มีเงินค่าห้องอีกคดีเพิ่งพ้นคุกบุกชิงทอง – วันที่ 20 มี.ค. พล.ต.ต.สมนึก น้อยคง ผบก.น.3 พ.ต.อ.นพรัตน์ สินมา รอง ผบก.น.3 พ.ต.อ.ถนัด นักธรรม ผกก.สส.บก.น.3 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศักยะ แสงวรรณ ผกก.สน.ลำผักชี, เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนบก.น.3 และฝ่ายสืบสวนสน.ลำผักชี ร่วมกันจับกุม นายสุทธิพันธ์ รัตนเหลี่ยม อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อเซเว่น-อีเลฟเว่น หน้าหมู่บ้านเค.ซี.สุวินทวงศ์ ถนนสุวินทวงศ์ แขวงลำผักชี เขตหนองจอก กทม.

รถใช้ก่อเหตุ

ตร.แถลงจับ

พ.ต.อ.ศักยะเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 05.38 น. วันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนร้ายเข้าไปชิงทรัพย์ภายในร้านสะดวกซื้อเซเว่น-อีเลฟเว่น หน้าหมู่บ้านเค.ซี.สุวินทวงศ์ จึงได้ออกสืบสวนและจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี

ชุดสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเรื่อยมาจนสามารถขอศาลจังหวัดมีนบุรี อนุมัติหมายจับ ที่ จ.233/2563 ลงวันที่ 18 มี.ค. 2563 ข้อหาชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน “ใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” “พกอาวุธ (มีด) ไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร”

โจรหนุ่มสารภาพ

กระทั่งต่อมาสืบทราบว่าผู้ต้องหาหนีไปซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี จุดจับกุมตัวติดตามไป จนเมื่อวันที่ 20 มี.ค. เวลาประมาณ 06.00 น. เจ้าหน้าที่พบตัวนายสุทธิพันธ์ผู้ต้องหาตามหมายจับ ที่สวนไม้เมือง ถนนสถิตนิมานกาล ตำบลท่าช้าง อำเภอสว่างวีระวงศ์ จังหวัดอุบลราชธานี จึงแสดงตัวเพื่อจับกุม

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ทำงานรับจ้างทั่วไปแต่ช่วงนี้ตกงาน จึงออกไปปล้นเซเว่นฯ เพื่อนำเงินไปจ่ายค่าห้องพัก และใช้จ่ายส่วนตัว เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวส่งให้พนักงานสอบสวน สน.ลำผักชีดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขณะที่อีกคดีย้อนไปเมื่อวันที่ 13 มี.ค. พ.ต.อ.ชนิน จิตรแจ้ง ผกก.สภ.เมืองบึงกาฬ พ.ต.ท.จรูญศักดิ์ ลำพุทธา รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.อดุลย์ ฉิมทับ รองผกก.ป. พ.ต.ท.เสกสรร บาอุ้ย สวป. พ.ต.ท.ยิ่งภิญโญ หล้าคำภา สารวัตร (สอบสวน) พร้อมกำลังสายตรวจ ฝ่ายสืบสวน รีบนำกำลังไปตรวจสอบ เหตุคนร้ายชิงทรัพย์ร้านทองเปาโล เทศบาลบึงกาฬ ต.บึงกาฬ อ.เมือง จ.บึงกาฬ โดยคนร้ายวิ่งหลบหนีเข้าไปในตลาดเทศบาลบึงกาฬ ก่อนถูกพลเมืองดีจับกุมตัวเอาไว้ได้

ทำแผนฯจี้ร้านทอง

วงจรปิดนาทีลงมือ

เมื่อไปถึงพบนายเอกลักษณ์ (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นพลเมืองดี พร้อมตำรวจจราจร และตำรวจสายตรวจช่วยกันควบคุมตัวชายคนร้ายไว้ได้ พร้อมรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีดำ-แดง ทะเบียน 1กฌ 9635 บึงกาฬ ทราบชื่อต่อมาคือ นายชานน พลเยี่ยม อายุ 20 ปี ชาว ต.โป่งเปือย อ.เมือง จ.บึงกาฬ โดยมี น.ส.แจ่มใส อายุ 38 ปี เจ้าของร้านทองชี้ตัวยืนยัน โดยพบสร้อยทอง 2 เส้นของกลาง ซุกซ่อนไว้ใต้ถังพลาสติกใส่น้ำแข็งสีน้ำเงินที่วางอยู่ใกล้ร่องน้

น.ส.แจ่มใสให้การว่า ขณะขายทองอยู่ในร้าน คนร้ายเดินเข้ามาถามหา สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 2 บาท ตนจึงยกถาดทองลงมาให้เลือกดูลาย ไม่ถึง 1 นาทีลูกค้าก็กลายเป็นโจรคว้าเอาทองกว่า 5 เส้นพยายามจะหนีตนซึ่งระวังตัวอยู่แล้วจึงคว้าเอาถาดทองไว้และแย่งคืนมาได้บางส่วน แต่ก็ยังติดมือคนร้ายไป 2 เส้นวิ่งหนีออกจากร้านไปโชคดีมีพลเมืองดีในตลาดช่วยจับตัวไว้ แล้วเรียกตำรวจหน้าตลาดมาช่วยจับ

คุมทำแผนฯจี้เซเว่นฯ

ด้านพ.ต.อ.ชนินกล่าวว่า จากการสอบปากคำเบื้องต้นทราบว่า คนร้ายพ้นโทษคดีเสพยาบ้าออกมาได้ 3 เดือน เมื่อพ้นโทษออกมาแล้วไม่มีงานทำจึงตัดสินใจมาชิงทองที่ร้าน โดยขี่รถจักรยานยนต์วนเวียนมาดูลาดเลาเมื่อคืนวันที่ 12 มี.ค.ผ่านมา เห็นมีผู้หญิงเฝ้าร้านอยู่คนเดียวจึงตัดสินใจชิงทองร้านนี้ หวังจะนำไปขายหาเงินมาใช้จ่าย ซึ่งเจ้าหน้าที่นำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพแล้วแจ้งข้อหาส่งดำเนินคดีต่อไป

คดีชิงทรัพย์ 2 คดี ผู้ต้องหาอ้างสาเหตุเดียวกันคือไม่มีงาน ไม่มีเงิน ไม่อยากนึกเลยว่าถ้าทุกคนคิดเช่นเดียวกับ 2 คนร้ายนี้ บ้านเมืองจะวุ่นวายแค่ไหน

พุฒิสรรค์ แก้วบัวดี

ธิดารัตน์ เศรษฐแสงศรี

เรื่อง/ภาพ