ย้อนนาทียิงสยองโชว์รูม
เซลส์แมนฉุน-แย่งลูกค้า
รัวยิงสนั่น!ตาย 1 เจ็บอีก 2
คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
ที่ไหนมีการแข่งขัน ก็ย่อมต้องมีทั้งผู้แพ้และผู้ชนะ จึงต้องมีกฎ กติกา มารยาทคอยกำกับเอาไว้ เพื่อไม่ให้มีการเอาเปรียบหรือแทงข้างหลังกัน มิฉะนั้นอาจกลายเป็นต้นเหตุของเรื่องสยองดังเช่นเหตุการณ์นี้
ย้อนไปเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 20 มี.ค. พล.ต.ต.คำรณ บุญเลิศ ผบก.ภ.จว.นครปฐม นำกำลังพร้อมด้วยพ.ต.อ.ไพบูลย์ แพรสีนวล ผกก.สภ.เมืองนครปฐม พ.ต.ท.ปาณย์สิริ ศรีสวัสดิ์ สารวัตร (สอบสวน) ชุดสืบสวน สภ.เมืองนครปฐม และเจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม ไปตรวจสอบเหตุยิงกันภายในศูนย์จำหน่ายรถยนต์แห่งหนึ่ง ในพื้นที่อ.เมือง จ.นครปฐม
ที่เกิดเหตุพบพนักงานขายยืนอยู่ในที่เกิดเหตุด้วยอาการตกใจ ภายในห้องประชุมพบรอยเลือดเปื้อน ทั่วบริเวณ กระจกห้องแตกจนเป็นรูโหว่ นอกจากนี้ ยังพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม. 6 ปลอก ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้บาดเจ็บถูกยิงมีจำนวน 3 คน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลกรุงเทพสนามจันทร์ ไปก่อนที่ตำรวจจะไปถึง
นายหฤษฏ์ คิดดี ผู้ตาย
สอบสวนทราบชื่อผู้บาดเจ็บประกอบด้วย นายหฤษฏ์ คิดดี อายุ 44 ปี ถูกยิงเข้าลำตัว 3 นัด ใบหน้าฟกช้ำบาดเจ็บสาหัส แพทย์ช่วยเหลือชีวิตแต่นายหฤษฏ์ถูกยิงเข้าที่อวัยวะสำคัญ สุดท้ายจึงเสียชีวิต ในเวลาต่อมา
ขณะที่ผู้บาดเจ็บอีก 2 ราย คือ นายสมชาย พงษ์ประพันธ์ อายุ 57 ปี ถูกยิงเข้าที่ขาขวา และนายธานินทร์ พิมพ์ศรีกล่ำ อายุ 43 ปี ถูกยิงเข้าที่ก้นกบ แพทย์ช่วยเหลือชีวิต โดยทั้งหมดทำงานอยู่ที่ศูนย์จำหน่ายรถยนต์ดังกล่าว ในตำแหน่งที่ปรึกษาการขาย
ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายสุพัตร์ สุขพันธ์ อายุ 43 ปี พนักงาน ตำแหน่งที่ปรึกษาการขายเช่นกัน หลังก่อเหตุได้ขับรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ 4 ประตู สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ก-5755 ราชบุรี มุ่งหน้าไปทางถนนเพชรเกษม มุ่งหน้าไปทาง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เจ้าหน้าที่จึงรีบแจ้งวิทยุสกัดจับ
นายสุพัตร์ สุขพันธ์ จนมุม
ใช้เวลาไม่นานเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ ที่หน้าวัดคงคาราม จ.ราชบุรี พร้อมอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. นอกจากนี้ ได้ตรวจค้นภายในรถยนต์ยังพบอาวุธปืนอีกหลายกระบอก
พล.ต.ต.คำรณกล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์นี้ทราบว่านายหฤษฏ์ และนายสุพัตร์ เป็นเพื่อนร่วมงานกันทำหน้าที่พนักงาน ตำแหน่งที่ปรึกษาการขายของศูนย์จำหน่ายรถยนต์ดังกล่าวด้วยกัน โดย 4 ปีที่ผ่านมาเคยมีเรื่องทะเลาะกันมาก่อนหน้านี้แล้ว ทำให้ผิดใจและไม่ถูกคอกัน ก่อนเกิดเหตุ 3 วัน ทั้งสองได้มีเรื่องบาดหมางกันอีก แต่ก็เป็นเรื่องงานการขายและแย่งลูกค้ากันในโชว์รูมรถยนต์
เจอปืนเพียบ
พล.ต.ต.คำรณกล่าวต่อว่า กระทั่งก่อนเกิดเหตุในช่วงเช้าวันนี้เป็นเวลาของการประชุมพนักงาน นายสุพัตร์ได้ขับรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า สีดำ ไม่ทราบทะเบียน มาทำงานตามปกติ พอเดินเข้ามาในห้องประชุม ก็เข้าไปพูดคุยกับเพื่อนร่วมทีมเดียวกันกับนายหฤษฏ์ผู้ตาย ก่อนที่จะมีปากเสียงกัน นายหฤษฏ์จึงเข้าไปห้ามจากนั้นผู้ก่อเหตุก็หันมาทะเลาะกับนายหฤษฏ์แทน ก่อนที่จะลงมือชกต่อยทำร้ายและใช้ อาวุธปืนที่พกติดตัวมายิงจนเสียชีวิตทำให้มีเพื่อนร่วมงานได้รับบาดเจ็บ 2 คน โดยขณะก่อเหตุได้ข่มขู่เพื่อนพนักงานคนอื่นๆ ไม่ให้เข้าช่วยเหลือ มิฉะนั้นจะยิงให้ตายจึงไม่มีใครกล้าเข้าห้าม ได้แต่ยืนดูด้วยความตกใจ
สอบพยาน
หลังเกิดเหตุนายสุพัตร์ได้ขับรถเก๋งหลบหนีออกมา มุ่งหน้าเข้าถนนเพชรเกษม กลับบ้านพักที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เพื่อไปเปลี่ยนรถกระบะยี่ห้อ อีซูซุ 4 ประตู สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ก-5755 ราชบุรี
ต่อมาพ.ต.อ.สุทธิพงษ์ พงษ์ประภาอำไพ ผกก.สภ.บ้านโป่ง ได้รับแจ้งสกัดจับวิทยุจึงสั่งการให้ตั้งจุดก้าวสกัดจับในพื้นที่อำเภอบ้านโป่ง กระทั่งเมื่อเวลา 10.00 น. ได้รับแจ้งจากร้อยเวร 20 บ้านโป่ง พบรถต้องสงสัยขับหลบหนีมุ่งหน้าเส้นเลียบ คลองชลประทานบ้านโป่ง-โพธาราม มุ่งหน้าไปยังวัดคงคาราม เขตอำเภอโพธาราม
ศูนย์วิทยุบ้านโป่งจึงประสาน พ.ต.อ. สมมาตร จันทรัตน์ ผกก.สภ.โพธาราม ให้ช่วยสกัดจับบริเวณหน้าวัดคงคาราม ต.คลองตาคต จนสามารถหยุดรถและจับกุมผู้ต้องหาพร้อมอาวุธปืนของกลางได้
สารภาพสิ้น
และจากการตรวจค้นภายในรถยนต์พบอาวุธปืนยาวและปืนสั้นมากถึง 7 กระบอก อาวุธปืนบีบีกันอีก 1 กระบอก รวมทั้งเครื่องกระสุนขนาดต่างๆ เกือบ 300 นัด โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุฆ่าผู้อื่นจริงและของกลางอาวุธปืนที่พบทั้งหมดนั้นเป็นของตนเองจริง จึงควบคุมตัวไปดำเนินคดีต่อไป
พฤติกรรมการพกอาวุธปืนเข้าที่ทำงาน เหมือนเป็นการเตรียมการมาเพื่อก่อเหตุ คดีนี้คงยากที่จะอ้างว่าบันดาลโทสะ
