สดจากสนามข่าว : ย้อนคดีสลดเมืองอุดรพ่อสุดทนทุบหัวลูกขี้ยาเมาด่ากราดถือพร้าวิ่งใส่
ย้อนคดีสลดเมืองอุดรพ่อสุดทนทุบหัวลูกขี้ยาเมาด่ากราด : พลันที่เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งนำโดย พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.อ.ทรงพล บริบาลประสิทธิ์ รอง ผบก.ภ. จว.อุดรธานี พ.ต.อ.ฉกาจน์ เทียมวงศ์ ผกก.สภ.หนองวัวซอ พ.ต.ท.สิทธิพงษ์ ปัญจณะ รอง ผกก.สอบสวน สภ.หนองวัวซอ ร.ต.อ.ชวนสันติ จันทคัต รอง สว. สอบสวน สภ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี คุมตัว นายหัสดี ภูตรีปิด อายุ 62 ปี บ้านเลขที่ 47 ม.2 บ้านเลา ต.น้ำพ่น อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ผู้ต้องหาฆ่าคนตายลงมาจากรถ เพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
ชาวบ้านและญาติๆ ทั้งของนายหัสดีและผู้ตาย พร้อมใจกันตะโกนว่า “สู้ๆ นะ” เพื่อให้กำลังใจ ทำให้รู้ได้ในทันทีว่าคดีนี้ส่วนใหญ่อยู่ฝ่ายไหน
ย้อนไปเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 25 มี.ค. สภ.หนองวัวซอ เข้าตรวจสอบเหตุฆ่ากันตายที่บ้านพัก หมู่ 2 บ้านเลา ต.น้ำพ่น อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี โดยในที่เกิดเหตุพบศพนายวิฑูรย์ ภูตรีปิด อายุ 36 ปี สภาพถูกทุบศีรษะด้วยของแข็งจนกะโหลกแตก คว่ำหน้าเสียชีวิต ข้างศพพบมีดพร้าวางอยู่ ส่วนนายหัสดีเจ้าของบ้านและเป็นพ่อของผู้ตาย ยืนรอมอบตัวอยู่ เบื้องต้นตร. แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่น
จากการสอบสวนนายหัสดี ให้การรับสารภาพว่า ผู้ตายเป็นลูกชายคนโต มีอาชีพรับจ้างทั่วไป แต่งงานมีลูก 1 คน และแยกครอบครัวไปสร้างบ้านอยู่ห่างไปประมาณ 30 เมตร แต่ ผู้ตายชอบดื่มเหล้าและเสพยาบ้า เมื่อเมาก็จะอาละวาดกับลูกเมียเป็นประจำ เป็นที่เอือมระอาของญาติพี่น้อง ก่อนเกิดเหตุผู้ตายก็ไม่ยอมไปทำงาน ตกเย็นก็ตั้งวงดื่มเหล้าขาว ทำลาบเป็ดกินกับน้าชาย
ก่อนหน้าผู้ตายก็ยังมาขอเงินไปซื้อเหล้าขาวมา 1 ขวด หลังดื่มหมดไป 3 ขวด พอเหล้าหมดก็จะไปขอเงินเมีย 200 บาท ไปซื้อเหล้าและยาบ้า แต่เมียไม่ให้เพราะเห็นว่าเมามากแล้ว จึงได้อาละวาดจะทำร้ายเมีย พร้อมทั้งด่าพ่อและเมียต่างๆ นานา เช่นที่เคยทำมา
นายหัสดี ให้การต่อว่า ขนาดตนซึ่งเป็นพ่อก็เคยถูกขู่และด่าเป็นสุนัข แต่เมื่อเห็นลูกเมาเลยไม่โกรธคิดว่าหลังหายเมาคงคิดได้แต่ตนคิดผิด เพราะเมื่อตนพูดสั่งสอนห้ามปรามให้มีสติ เจ้าลูกชายตัวแสบไม่ยอมหยุด กลับหันมาไถเงินตนเพื่อไปซื้อเหล้าแทน พอตนไม่ยอมให้ก็ถูกด่าว่าแถมยังถือมีดพร้าจะเข้าไปทำร้าย ตนอีก
เห็นดังนั้นตนจึงหยิบเอาชะแลงเหล็กตัดครึ่งยาว 70 ซ.ม. ที่วางอยู่ข้างบ้าน ฟาดสวนไปบริเวณกกหูจนผู้ตายล้มลง ตอนนั้นก็กลัวว่าเดี๋ยวมันลุกขึ้นมาจะมาทำร้าย จึงทุบซ้ำไปที่ศีรษะอีก 2 ครั้ง จนศีรษะแตก มันสมองกระจายตายคาที่ เสร็จแล้วจึงเข้าไปบ้านอาบน้ำแต่งตัวรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
หลังเกิดเหตุสยอง พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.ฉกาจน์ เทียมวงศ์ ผกก.สภ.หนองวัวซอ ร่วมกันสอบสวนนายหัสดี โดยมี นางยุเรศ อายุ 43 ปี และนายสมพัตร อายุ 50 ปี ภรรยาและน้าชายของนายวิฑูรย์ให้การเป็นพยาน
“ผมรู้สึกเสียใจที่พลั้งมือฆ่าลูกชายตาย แต่มันก็สุดจะทน ทำอย่างนี้มาแล้วหลายครั้ง หากผมไม่ต่อสู้ผมก็ตาย หากผมตายมันก็จะตั้งตัวเป็นใหญ่ขายมรดกจนหมด ทำตัวเป็นใหญ่กว่าพ่อแม่ ที่ผ่านมาให้อภัยลูกมาตลอด วิ่งหนีคมมีดลูกมาหลายครั้งแล้ว ไม่เคยต่อสู้แม้แต่ครั้งเดียว คิดจะฆ่าตัวเองตายมาหลายครั้ง จริงๆ รักและหวังพึ่งพายามแก่เฒ่า เพราะเมียผมป่วยเสียชีวิตไปเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา จะมีเมียใหม่ก็ไม่กล้าเอา เพราะนิสัยลูกเป็นแบบนี้ มรดกที่นาที่อยู่ติดกันกับลูกสาวคนเล็ก ก็แบ่งให้จำนวน 6 ไร่ ไปแล้ว ขอชดใช้กรรมที่ก่อ ตอนนี้รู้สึกเหมือนหมดทุกข์ในสิ่งที่ทำลงไป”
ด้านญาติผู้ต้องหาและผู้ตาย เล่าว่า ผู้ต้องหาเป็นคนนิสัยดีมาก ชอบช่วยเหลือสังคม แต่ก็รู้สึกเสียใจในสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะเหตุการณ์แบบนี้ไม่ใช่เกิดครั้งแรก หากผู้ตายกินเหล้าจะอาละวาดลูกเมียและพ่อ เป็นประจำ พร้อมกับใช้อาวุธมีดพร้าข่มขู่จะทำร้ายนับครั้งไม่ถ้วน บางครั้งเพื่อนบ้านและตนก็มา ห้ามปราม แจ้งตำรวจมาระงับเหตุ หากผู้ตายไม่เสียชีวิต คาดว่าไม่พ่อก็เมียของผู้ตาย จะเป็นคนถูกฆ่าตาย เพราะผู้ตายกินเหล้า และยังเสพยาบ้าด้วย ไม่ใช่แต่คนในครอบครัวที่รู้ ชาวบ้านในหมู่บ้านก็รู้ว่าผู้ตายยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และเป็นนักเลงหัวไม้ และทำกับคนในหมู่บ้านเอา ไว้มาก
แม้ตำรวจจะเห็นใจแต่จากพฤติกรรมในการลงมือก่อเหตุนั้น เลยเถิดไปไกลกว่าคำว่าป้องกันตัว จึงจำเป็นต้องแจ้งข้อหา “ฆ่าโดยเจตนา”
วัฒนชัย จำนงค์ทอง
เรื่อง/ภาพ
