เปิดคำสารภาพแม่พิการ

จนหนทางหาเงินเลี้ยงลูก

ก่อเหตุวิ่งราวในร้านทอง

คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

เปิดคำสารภาพแม่พิการ จนหนทางหาเงินเลี้ยงลูก ก่อเหตุวิ่งราวในร้านทอง – “หนูไม่มีให้ลูกกินค่ะ หนูหาไม่พอให้ลูกกินค่ะ คิดว่าถ้าได้ทองไปซักสลึง หนูจะเอาไปประกอบอาชีพขายผักเลี้ยงลูกค่ะ” คำให้การด้วยน้ำเสียงซื่อๆ ของหญิงสาวพิการที่ต้องตกเป็นผู้ต้องหาวิ่งราวสร้อยทอง จากร้านทองแห่งหนึ่งภายในตัวเมืองพิษณุโลก

ย้อนไปเมื่อช่วงสายวันที่ 1 เม.ย. พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก พร้อมด้วย ร.ต.อ.นิพนธ์ สุทธหลวง ร้อยเวร และกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ รุดไปควบคุมตัว นางวิไลลักษณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี หญิงสภาพร่างกายพิการข้อมือแขนขวาด้วน พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 สลึง จำนวน 1 เส้น ที่บริเวณห้างทองจงลักษณ์ เลขที่ 57/3-4 ถนนนเรศวร ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก หลังนางวิไลลักษณ์ถูกเจ้าของร้านและพลเมืองดีช่วยกันจับกุมตัวเอาไว้ได้

เปิดคำสารภาพแม่พิการ จนหนทางหาเงินเลี้ยงลูก ก่อเหตุวิ่งราวในร้านทอง

ตร.คุมตัวทำแผน

 

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 08.10 น. วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศูนย์วิทยุได้รับแจ้งเหตุวิ่งราวทรัพย์ที่ห้างทองจงลักษณ์ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจรุดไปที่เกิดเหตุ พบมีการควบคุมตัวผู้ต้องหาได้เรียบร้อยแล้ว จึงควบคุมตัวไปสอบสวนที่สถานีตำรวจ

สอบสวนเบื้องต้นนางวิไลลักษณ์ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพ ว่าเป็นชาว อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ ตนเป็นคนพิการไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง ซึ่งยังมีลูกอีก 2 ชีวิตที่ต้องเลี้ยงดู ปกติก็จะขอทานจากผู้ใจบุญช่วยหยิบยื่นเงินให้ต่อ 3 ชีวิตแม่ลูก แต่ตั้งแต่มีโรคระบาดโควิด ต่างคนก็ต้องช่วยเหลือตัวเอง ตนยิ่งลำบากหนักไม่มีเงินทองติดตัวจึงตัดสินใจก่อเหตุ

เปิดคำสารภาพแม่พิการ จนหนทางหาเงินเลี้ยงลูก ก่อเหตุวิ่งราวในร้านทอง

ร้านทองที่เกิดเหตุ

 

นางวิไลลักษณ์ให้การว่าเดินทางด้วยรถไฟฟรีจาก จ.นครสวรรค์ ตั้งแต่สี่ทุ่มคืนที่ผ่านมา พร้อมกับลูก 2 คน อายุ 15 ปี และ 12 ปี คิดว่าถ้าได้ทองไปขาย จะเอาไปลงทุนประกอบอาชีพขายผัก แทนการขอทานเลี้ยงลูก กระทั่งเช้าก็ออกเดินไปเรื่อยๆ จนมาถึงหน้าร้านทองจงลักษณ์ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟมากนัก เห็นว่าเจ้าของร้านเป็นหญิงสูงอายุอยู่คนเดียว ปลอดลูกค้าคนอื่นๆ จึงตัดสินใจเข้าไปลงมือ

ตนเข้าไปขอดูสร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึง ระหว่างที่เจ้าของร้านนำทองออกมาให้ดู จึงอาศัยจังหวะคว้าติดมือวิ่งออกจากร้านไปทันที แต่ด้วยความรีบประกอบกับความพิการ พอวิ่งไปไม่ไกลก็หกล้ม กระทั่งถูกชาวบ้านคนในละแวกช่วยกันจับกุมเอาไว้ได้

ขณะที่นางจุฑาทิพย์ อัศวชัยวัฒน์ อายุ 61 ปี เจ้าของห้างทองจงลักษณ์ เปิดเผยว่า ระหว่างขายทองอยู่ในร้าน ได้มีหญิงสาวหรือผู้ต้องหาคนดังกล่าว เดินเข้ามาขอดูสร้อยทองหนัก 1 สลึง ตนเองก็เริ่มสงสัยตั้งแต่แรกแล้วจากการแต่งตัว แต่ที่ไม่กังวลเพราะราคาทองที่ขอดูไม่มากเท่าไหร่จึงน่าจะตั้งใจมาซื้อจริงๆ ก็เลยหยิบออกมาให้ดู 1 เส้น แต่ก็คอยจับตาดูระมัดระวังตัวตลอดเวลา

เปิดคำสารภาพแม่พิการ จนหนทางหาเงินเลี้ยงลูก ก่อเหตุวิ่งราวในร้านทอง

คุมตัวไปดำเนินคดี

 

ระหว่างนั้นหญิงคนดังกล่าวพูดว่าเอาเส้นนี้แหละ แต่แทนที่จะควักเงินออกมาจ่าย เจ้าตัวกลับคว้าสร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึงที่ดูอยู่ วิ่งออกจากร้านไปทันที

ตนรีบตะโกนบอกคนในละแวกให้ทราบว่ามีคนชิงสร้อยทองคำ โดยมีคนที่เห็นเหตุการณ์วิ่งไล่ตาม จนกระทั่งควบคุมตัวไว้ได้ พร้อมสร้อยคอทองคำที่อมไว้ในปาก จากนั้นได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาควบคุมไปดำเนินคดี

ด้าน พ.ต.อ.ภาคภูมิกล่าวว่า ผู้ต้องหาเป็นคนพิการแขนด้วน น่าจะก่อเหตุด้วยความจำเป็นเรื่องค่าใช้จ่ายครอบครัว เนื่องจากไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง แต่กระทำผิดวิธี ทั้งนี้จากการตรวจสอบไม่พบประวัติว่าเคยถูกดำเนินคดีมาก่อน

เบื้องต้นเจ้าตัวให้การว่าเดินทางมาจาก จ.นครสวรรค์ พร้อมลูกอีก 2 คน ซึ่งทางตำรวจได้ประสานเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.พิษณุโลก เพื่อติดต่อกับพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.นครสวรรค์ มารับตัวลูกผู้ต้องหาไปดูแลอีกที ส่วนผู้ต้องหาก็ต้องถูกดำเนินคดีข้อหาวิ่งราวทรัพย์ตามกฎหมายต่อไป

เปิดคำสารภาพแม่พิการ จนหนทางหาเงินเลี้ยงลูก ก่อเหตุวิ่งราวในร้านทอง

วิ่งหนีก่อนหกล้ม

ถูกจับทันควัน

 

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวนางวิไลลักษณ์ กลับมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังร้านทองที่เกิดเหตุ ท่ามกลางความสนใจของชาวบ้านร้านตลาด เมื่อสอบถามว่าทำไมถึงตัดสินใจก่อเหตุ เจ้าตัวก็ตอบด้วยน้ำเสียงซื่อๆ ว่า “หนูไม่มีให้ลูกกินค่ะ หนูหาไม่พอให้ลูกกินค่ะ คิดว่าถ้าได้ทองไปซักสลึง หนูจะเอาไปประกอบอาชีพขายผักเลี้ยงลูกค่ะ”

ด้วยสัญชาตญาณความเป็นแม่ ย่อมทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกได้อิ่มท้อง แต่เมื่อลูกยังหิวอยู่ แม้รู้ว่าเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายบ้านเมืองก็ต้องจำยอม

เรื่อง/ภาพ โดย อนุชา แก้วคำมา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน