จับโจรผัว-เมีย

ลักบัตรคนจนยายอุดร

แฉประวัติก่อเหตุเพียบ

คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

โจรผัว-เมีย ลักบัตรคนจนยายอุดร แฉประวัติก่อเหตุเพียบ – วันที่ 17 เม.ย. พ.ต.ต.ธนนท์ ศรีกงพาน สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังชุดสืบสวน เข้าจับกุม นายพีรวิชญ์ สุวรรณประดิษฐ์ อายุ 18 ปี ชาว ต.ในเมือง อ.เมือง จ.หนองคาย และ น.ส.ปัณณพร มิ่งขวัญ อายุ 21 ปี ชาว ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี สองผัวเมียที่ห้องพักในโรงแรมแห่งหนึ่ง ในซอยประชาสันติ เขตเทศบาลนครอุดรธานี

จับคาโรงแรม

หลังจากทั้งคู่ร่วมกันก่อเหตุซ้ำเติมคนชรา โดยลักทรัพย์ นางจันทร์สี มีคำแสน อายุ 79 ปี ชาว ต.หนองบัว อ.เมือง จ.อุดรธานี ขณะไปเบิกถอนเงินที่ธนาคารออมสิน สาขาตลาดอุดรเมืองทองเจริญศรี เขตเทศบาลนครอุดรธานี ได้โทรศัพท์มือถือ บัตรประชาชน และบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจนไป เหตุเกิดเมื่อเมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา

ย้อนไปในวันเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ธนาคารออมสิน สาขาตลาดอุดรเมืองทองเจริญศรี พานางจันทร์สี และนำหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิด เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ธนพล สิริโชคปัญญากุล รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี และตำรวจชุดสืบสวน ว่า ถูกคนร้ายขโมยเอาโทรศัพท์และบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของนางจันทร์สี ขณะอยู่ในธนาคาร

ยายจันทร์สี มีคำแสน เข้าแจ้งความ

นางจันทร์สีให้การว่า ตนหิ้วตะกร้าหมากนั่งรถเมล์มาเบิกเงินที่ธนาคารออมสิน มาคนเดียวเพราะลูกหลานไปทำงานหมด หลังจากเบิกเงินเสร็จ ได้เอาเงินใส่ในกระเป๋าเสื้อ และได้หันมานั่งพูดคุยกับเพื่อนที่มาเบิกเงินเหมือนกัน โดยวางตะกร้าหมากไว้ที่พื้น หลังจากพูดคุยกับเพื่อนเสร็จ จึงหันมาหยิบเอาโทรศัพท์มือถือในตะกร้า

ปรากฏว่าซองผ้าสีแดงที่ใส่มือถือและบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้หายไป ตนจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ธนาคาร จากการตรวจกล้องวงจร ปิด พบว่าคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น สวมกางเกงขาสั้น นั่งอยู่บนเก้าอี้ด้านหน้า และอยู่ใกล้ตะกร้า ขณะที่ตนเผลอได้ลักมือถือและบัตรตนไป

“ยายไม่เสียดายโทรศัพท์มือถือ เพราะราคาเพียง 450 บาท ลูกหลานซื้อให้มาหลายปีแล้ว แต่ยายเสียดายบัตรประชารัฐ ที่รัฐโอนเงินให้เดือนละ 300 บาท จะได้นำไปซื้อสิ่งของมาใช้ในครัวเรือน ยายไม่อยากไปทำใหม่ ยายรู้สึกโมโหมาก หากตำรวจ จับตัวได้ ยายจะให้โทรศัพท์คนร้ายไป แต่จะขอบัตรประชารัฐคืน และจะขอตบหัว 1 ที” นางจันทร์สีพูดด้วยความแค้น

สอบสวนสองผัวเมีย

แม้นจะเป็นคดีเล็กๆ ทรัพย์สินที่ได้ไปก็ไม่มากมาย ซ้ำบัตรประชารัฐที่คนร้ายได้ไปก็สามารถอายัดแล้วทำใหม่ได้ทันที แต่พ.ต.ต.ธนนท์ ศรีกงพาน สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี และผู้บังคับบัญชาก็ไม่ปล่อยให้ผ่านเลยไปเพราะความเดือดร้อนของประชาชนแม้จะเล็กน้อย ก็ถือเป็นหน้าที่ของตำรวจที่ต้องช่วยขจัดปัดเป่า

ผู้บังคับบัญชากำชับให้เร่งติดตามตัวคนร้ายมาให้ได้ พ.ต.ต.ธนนท์จึงนำกำลังชุดสืบสวน แกะรอยสืบหาตัวโดยใช้หลักฐานสำคัญคือภาพจากกล้องวงจรปิดในธนาคารจนสืบทราบว่า คนร้ายทั้งคู่ไปถอนเงินที่แบงก์ออมสิน พอเห็นสบโอกาสจึงลงมือฉกทรัพย์ก่อนหนีไป ซึ่งจากการสืบสวนยังพบอีกว่าทั้ง 2 สามีภรรยา ไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง มักก่อเหตุตระเวนลักทรัพย์ตามบ้านเรือน และงัดตู้บริจาคภายในวัดหลายครั้ง หลังก่อเหตุทั้งสองคนก็ไม่ได้กลับบ้าน ได้หลบหนีไปอยู่ต่างจังหวัด

กระทั่งผ่านมาเกือบ 1 เดือน สายข่าวแจ้งว่าสองผัวเมียย้อนกลับกลับเข้ามาในพื้นที่ โดยมาพักอยู่ที่โรงแรมดังกล่าว พ.ต.ต.ธนนท์จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวไว้ได้ดังกล่าว

นายพีรวิชญ์ สุวรรณประดิษฐ์

จากการสอบสวน นายพีรวิชญ์ให้การรับสารภาพว่า ตนเรียนไม่จบ ม.3 เพราะเกเรและเสพยาบ้า ได้ตระเวนลักทรัพย์ตามบ้านเรือน และงัดตู้บริจาคตามวัดใน จ.หนองคาย จากนั้นได้หนีมาอยู่ที่ จ.อุดรธานี และอยู่กินกับน.ส.ปัณณพร ไปอาศัยอยู่กับพ่อตาแม่ยาย แล้วได้ออกไปทำงานรับจ้างซ่อมแอร์

แต่เพราะยังติดยาอยู่เงินจึงไม่พอใช้ จึงตระเวนลักทรัพย์ตามบ้านเรือน เน้นคนแก่ที่อยู่บ้านคนเดียว และงัดตู้บริจาคในวัด สุดท้ายก่อนหลบหนีได้ก่อเหตุลักกระเป๋าเงินในตะกร้าหมากยายในแบงก์ออมสิน เพราะนึกว่ามีเงิน แต่พบแค่บัตรคนจนและโทรศัพท์ จึงโยนบัตรคนจนทิ้ง และหนีไปอยู่ จ.นนทบุรี

วงจรปิดหลักฐาน

นายพีรวิชญ์ให้การต่อว่า ตนหนีไปทำงานช่างแอร์ แต่พอเจอวิกฤตโควิด-19 ระบาดเลยอยู่ไม่ได้ ประกอบกับคิดว่าเรื่องเงียบแล้วตำรวจคงไม่มาติดตามเลยย้อนกลับมาอุดรธานี จนมาถูกจับกุมดังกล่าว ส่วนสาเหตุที่ลักของในตะกร้ายาย ก็เพราะมันบังเอิญเห็นและเพราะเป็นนิสัยของตนเอง

หลังสอบสวนตำรวจยังพบว่าทั้งสองคนเสพยาเสพติด จึงแจ้งข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) เพิ่มเติมก่อนนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ยังไม่มีรายงานว่านางจันทร์สี ได้ตบหัวโจรแสบตามที่ตั้งใจไว้หรือยัง

เรื่อง/ภาพ โดย วัฒนชัย จำนงค์ทอง, อุดม ปิดตาทานัง