ย้อนคดีฆ่าสยองสองแคว

จ่อยิงสาวคาวงหมูกระทะ

หนุ่มหึงโหดเผ่น-ฆ่าตัว!

คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ย้อนคดีฆ่าสยองสองแคว จ่อยิงสาวคาวงหมูกระทะ – คดีฆาตกรรมที่มีสาเหตุมาจากความผิดหวังในความรัก ล้วนสร้างความสะเทือนใจให้กับผู้คนมากกว่าสาเหตุอื่น เพราะผู้ก่อเหตุมักลงมืออย่างโหดเหี้ยมราวกับโกรธแค้นมาตั้งแต่ชาติปางก่อน

มือปืนฆ่าตัวตาย

ย้อนไปเมื่อสองทุ่มเศษคืนวันที่ 5 พ.ค. ร.ต.อ.ชรินทร์ พานทอง รอง สว.สอบสวน สภ.ไทรย้อย จ.พิษณุโลก นำกำลังพร้อมด้วยแพทย์เวร ร.พ.เนินมะปราง เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยบูรพาไปตรวจสอบเหตุมีผู้ถูกยิง เสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 22/2 หมู่ 6 บ้านโคก ต.ไทรย้อย อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก

ที่เกิดเหตุบริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว มีข้าวของกระจัดกระจายเกลื่อนกลาด ใกล้กันพบศพ น.ส.สุธิมนต์ หรือน้องหนึ่ง เมืองแพน อายุ 19 ปี สภาพนอนหงาย สวมเสื้อแขนสั้นสีดำ กางเกงขาสั้นสีน้ำตาล มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนยังไม่ทราบชนิด เข้าที่ศีรษะและบริเวณกลางใบหน้า เลือดไหลนองกองเต็มพื้น

น.ส.สุธิมนต์ หรือน้องหนึ่ง เมืองแพน

สอบสวน นายทองสุข ศุภวาร อายุ 50 ปี เจ้าของบ้านเกิดเหตุให้การว่า ลูกสาวของตนเป็นเพื่อนกับผู้ตาย ก่อนเกิดเหตุได้ชักชวนเพื่อนมานั่งกินหมูกระทะกันที่บ้าน กระทั่งเวลาประมาณสองทุ่ม มีชายวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า เอ็นแม็กซ์ สีน้ำเงิน ทะเบียน 3 กฉ 4230 ชลบุรี เข้ามาจอดที่หน้าบ้าน ลักษณะผอม ผิวคล้ำ สวมเสื้อสีดำ กางเกงขาสั้น มือถืออาวุธปืนลูกซองยาว 5 นัดบุกเข้ามาในบ้าน

เมื่อมาถึงไม่พูดพร่ำทำเพลง ใช้อาวุธปืนที่นำมาด้วยขึ้นมาจ่อยิง น.ส.สุทธิมนต์ ที่กำลังนั่งกินหมูกระทะอยู่จนเสียชีวิตคาที่ ก่อนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว มาทราบภายหลังว่าผู้ก่อเหตุคือ นายบรรณสร อนุสรณ์ หรือบอล อายุ 19 ปี เป็นอดีตแฟนเก่าของผู้ตาย

นายบรรณสร อนุสรณ์ หรือบอล

นายมงคล เมืองแพน อายุ 44 ปี พ่อของผู้ตายให้การว่า นายบรรณสรคบหาอยู่กับลูกสาวมานาน 2-3 ปีแล้ว และเคยมาอยู่ด้วยกันที่บ้าน แรกๆ เห็นรักกันดี มาระยะหลังลูกสาวจับได้ว่านายบรรณสรมีแฟนใหม่ทะเลาะจนถึงขั้นเลิกกันมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ภายหลังกลับมาคืนดีกันใหม่ จนสุดท้ายจับได้อีกครั้งว่านายบรรณสรไปมี ผู้หญิงใหม่อีกเลยบอกเลิกอีกครั้ง

ที่ผ่านมานายบรรณสรพยายามจะมาง้อขอคืนดี แต่ลูกสาวไม่ยอมใจอ่อน จนกระทั่งก่อนเกิดเหตุลูกสาวนั่งกินหมูกระทะกับเพื่อนที่บ้านหลังเกิดเหตุ ระหว่างนั้นนายบรรณสรขี่รถจักรยานยนต์มาหาเพื่อมาง้อขอคืนดีอีก แต่ลูกสาวไม่ยอม นายบรรณสรเลยขี่รถกลับไป จากนั้นไม่นานกลับมาใหม่พร้อมกับปืนลูกซองยาว 5 นัด ก่อนจะเข้ามาจ่อยิงลูกสาวจนเสียชีวิตดังกล่าว

ญาติร่ำไห้

คดีนี้ไม่ต้องเสียเวลาไล่ตามจับ เพราะเพียงไม่นานเจ้าหน้าที่ก็รับแจ้งว่านายบรรณสรคนร้ายที่ก่อเหตุใช้ปืนลูกซองกระบอกเดียวกัน จ่อยิงเข้าที่บริเวณหน้าผากของตนเองจนเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณถนนภายในหมู่บ้านนั่นเอง เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่คาดว่า กลัวความผิดที่เพิ่งลงมือก่อเหตุยิงแฟนสาวจนเสียชีวิต จึงตัดสินใจยิงตัวเองตายตาม

วันรุ่งขึ้นนายมงคล พร้อมด้วยนางสมจิต เมืองแพน อายุ 47 ปี พ่อและแม่ของ น.ส.สุธิมนต์ ผู้ตาย ติดต่อขอรับลูกสาวที่แผนกนิติเวช ร.พ.พุทธชินราช บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจ เนื่องจากนายมงคลนั้นทำงานเป็นอาสาสมัครกู้ภัยบูรพาอยู่ด้วย แต่ต้องมารับศพที่เป็นลูกสาวของตนเอง ที่ถูกยิงด้วยความโหดเหี้ยม

นายมงคลเปิดเผยว่า ผู้ตายเป็นลูกสาวคนโต ที่กำลังจะมีอนาคตเพราะเพิ่งสอบติดมหาวิทยาลัยนเรศวร คณะมนุษยศาสตร์ สาขาวิชาพม่าศึกษา มีความตั้งใจว่าอยากจะเป็นครู และเป็นความหวังของครอบครัวด้วย เนื่องจากเป็นเด็ก ที่เรียนเก่ง สอบได้คะแนนสูงมาตลอด ในเดือน ก.ค.ที่จะถึงนี้ก็จะเปิดเรียนเป็นเทอมแรกแล้ว รู้สึกเสียใจและยังทำใจยอมรับไม่ได้ที่ลูกสาวต้องมาจบชีวิตแบบนี้

ส่วนนางสมจิตกล่าวว่า ไม่ขออโหสิกรรมให้นายบรรณสร เพราะที่ผ่านมานายบรรณสรเคยมาพักอาศัยอยู่ที่บ้าน ทางครอบครัวดูแลและรักเหมือนลูกคนหนึ่ง แต่เขากลับนอกใจไปมีผู้หญิงคนอื่น จนลูกสาวจับได้ถึง 2 ครั้ง ตามปกตินายบรรณสรเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยพูด ไม่เคยทะเลาะกับลูกสาวให้เห็น สุดท้ายลูกสาวไล่ออกจากบ้านไปเพราะไปมีคนอื่น เมื่อพยายามกลับมาง้อขอคืนดีด้วย แต่ลูกสาวไม่สนใจเพราะไม่อยากกลับไปคบอีก เชื่อว่าน่าจะสร้างความเจ็บแค้นให้กับนายบรรณสร จนกระทั่งก่อเหตุดังกล่าวขึ้น

ปิดฉากไปอีกหนึ่งคดีสลด กับ คำว่า “รักต้องฆ่า”

โดย อนุชา แก้วคำมา

เรื่อง/ภาพ