ปิดคดีฉกตู้เอทีเอ็มระยอง

ตระกูลโจรจนมุมยกแก๊ง

‘พ่อ-ลูก-เขย’รวม6คน!

คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ปิดคดีฉกตู้เอทีเอ็มระยอง – เมื่อกลางเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ. น้ำเป็น อ.เขาชะเมา จ.ระยอง ต้องอยู่ในความพิศวงงงงวย เพราะได้รับแจ้งจาก เจ้าหน้าที่ธนาคารออมสินว่ามีคนร้ายฉกตู้เอทีเอ็มไปจากที่ตั้งอยู่ริมถนนสายเขาดิน- น้ำเป็น

พ.ต.ต.พงศ์พล สินจังหรีด สารวัตรหัวหน้า สภ.น้ำเป็น รีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที แล้วก็ต้องอึ้งกับภาพที่เห็น เพราะจุดดังกล่าวเหลือเพียงห้องเปล่าที่กลวงโบ๋ ส่วนตัวตู้เอทีเอ็มหายไปไร้ร่องรอย

 

เจ้าหน้าที่ธนาคารให้ข้อมูลว่า ภายในตู้เอทีเอ็มดังกล่าวคาดว่าจะมีเงินสดอยู่ไม่ต่ำกว่า 5 แสนบาท

พ.ต.อ.วราวุธ เจริญชนม์ รอง ผบก.สส.ภาค 2 นำทีมนักสืบมือดีจากตำรวจภาค 2 สนธิกำลังร่วมชุดสืบสวน บก.ภ.จว.ระยอง ที่นำทีมโดย พ.ต.อ.ผดุงศักดิ์ ซื่อกําเนิด ผกก.สส.ภ.จว.ระยอง ตำรวจ สภ.เขาชะเมา และ สภ.น้ำเป็น

หลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุและข้างเคียง พบคนร้ายหลายคนร่วมกันลงมือก่อเหตุ โดยอาศัยช่วงปลอดผู้คนกลางดึกงัดแงะตู้เอทีเอ็มขนขึ้นใช้พาหนะเป็นรถกระบะตอนเดียว

เมื่อตรวจสอบกล้องตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายใช้หลบหนี ก็พบรถต้องสงสัยคันหนึ่งเป็นรถกระบะอีซูซุตอนเดียว สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บล 5572 ระยอง อยู่ในสวนผลไม้ห่างจากจุดเกิดเหตุไม่ไกลนัก

เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวนายนเรศ คณาพงศ์ อายุ 54 ปี เจ้าของรถไปสอบปากคำ แต่เจ้าตัวให้การปฏิเสธยืนยันว่าไม่มีส่วนรู้เห็นด้วย เมื่อยังไม่มีหลักฐานมัดตัวเจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องปล่อยตัวไป

รถแบ๊กโฮงมตู้เอทีเอ็มในสระน้ำ

 

แต่จากประสบการณ์ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนชุดนี้ต่างมีความเห็นตรงกันว่ามันต้องไม่เป็นไปตามคำให้การของผู้ต้องสงสัย จึงจัดกำลังคนตามประกบ รวมถึงแกะรอยเบื้องลึกคนในครอบครัวนายนเรศอย่างละเอียด

เซนส์ของนักสืบมากฝีมือก็เป็นความจริง เมื่อพบหลักฐานเป็นชิ้นส่วนหน้ากากและแป้นกดของตู้เอทีเอ็มที่ถูกโจรกรรมไป ถูกทิ้งไว้ภายในสวนยางพื้นที่ ม.7 ต.เขาวง อ.แก่งหางแมว ก่อนขยายผลการตรวจสอบเพิ่มขึ้นกระทั่งพบเบาะแสอื่นๆ อีกจำนวนมาก

พฐ.ตรวจหาหลักฐานในวันเกิดเหตุ

 

วันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เชิญตัวนายเอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ลูกเขยนายนเรศไปสอบปากคำที่ สภ.น้ำเป็น ซึ่งก็ปฏิเสธเสียงแข็ง

แต่มีหรือจะพ้นความสามารถของตำรวจที่ชักชวนพูดคุยทั้งขู่ทั้งปลอบ จนหนุ่มวัยโจ๋หลุดปากยอมรับสารภาพออกมาในที่สุด ซัดทอดถึงนายนเรศพ่อตา นายภูวนารถ คณาพงศ์ อายุ 25 ปี นายนครินทร์ คณาพงศ์ อายุ 29 ปี พี่เมีย นายสมพงษ์ เงินดี อายุ 40 ปี และนายชวนนท์ ทรัพย์เจริญ อายุ 25 ปี ที่เป็นเครือญาติของนายนเรศ

นายนเรศ คณาพงศ์ หัวหน้าแก๊ง

 

แต่ยืนยันว่าตัวเองเพียงนั่งอยู่ในรถที่ใช้ก่อเหตุโดยไม่ได้ร่วมลงมือด้วย เจ้าหน้าที่จึงกันตัวไว้เป็นพยาน

เมื่อได้คำให้การของโจ๋ 17 เจ้าหน้าที่ก็รวบรวมหลักฐานที่ตรวจหาได้ก่อนหน้านี้ขออนุมัติหมายจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด โดยจับนายภูวนารถและนายนครินทร์ได้ก่อน

ส่วนนายนเรศหัวโจกถูกล็อกตัวในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ส่วนนายสมพงษ์และนายชวนนท์ถูกรวบขณะหลบซ่อนในพื้นที่ อ.แก่งหางแมว

 

หลังจำนนด้วยหลักฐานและคำซัดทอด ทั้งหมดสารภาพว่า พองัดตู้เอทีเอ็มออกมาได้แล้ว ก็นำไปในที่เปลี่ยวใช้เครื่องตัดแก๊สตัดตู้ออก แบ่งเงินกันไปคนละ 50,000 บาท ส่วนเงินที่เหลือถูกไฟไหม้จนหมด

จากนั้นนำตู้เอทีเอ็มไปโยนทิ้งในสระน้ำสวนผู้การ ม.7 ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว เขตติดต่อกับพื้นที่ อ.เขาชะเมา ห่างจากบ้านผู้ต้องหาเพียงไม่กี่กิโลเมตร ก่อนแยกย้ายกันไปใช้ชีวิตปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ขนาดนายนเรศถูกตำรวจเชิญตัวไปสอบสวนเป็นคนแรกในฐานะเจ้าของรถต้องสงสัย ยังปากแข็งปฏิเสธลั่น แต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้นความสามารถของตำรวจไทยไปได้

ชยพล ปัญญาวิศิษฎ์กุล เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน