พลิก 2 คดีรุนแรงต่อเด็ก
แม่แจ้งจับพ่อชำเราลูก
อีกเหตุ-3 ขวบตายเปลือย
ตร.เชื่อเป็นคนใกล้ตัว

คอลัมน์ แฟ้มคดี

แม่แจ้งจับพ่อชำเราลูก – เป็นปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไข สำหรับเรื่องความรุนแรงต่อเด็กและเยาวชน
แม้จะมีหน่วยงานมากมายขึ้นมาดูแล แต่ปัญหาก็ดูจะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่อาจเกิดจากความรุนแรงเหล่านี้เกิดขึ้นภายในครอบครัว

ผู้ที่ลงมือหรือผู้ต้องสงสัย ล้วนเป็นคนใกล้ชิด ที่บางครั้ง ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะก่อเหตุดังกล่าวได้ลงคอ อย่างกรณี อาจารย์หนุ่มที่ จ.นครราชสีมาที่ถูกภรรยาแจ้งจับ เพราะละเมิดลูกสาวและลูกชายตัวเอง
เมื่อสอบปากคำกลับพบว่านอกจากพ่อแล้วยังมีปู่ร่วมลงมือ

ซึ่งเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนจะต้องคลี่คลาย เบื้องต้นแจ้งข้อหาผู้ที่เป็นพ่อ ส่วนปู่นั้นยังไม่มีหลักฐานพาดพิงไปถึง

อีกคดีที่น่าสลดไม่แพ้กันก็คือน้องชมพู่ ที่หายตัวไป 4 วัน ก่อนพบศพเปลือยในป่าที่มุกดาหาร
ชันสูตรรอบ 2 จนพบบาดแผลที่ร่างกายและอวัยวะเพศ จนตำรวจต้องเร่งติดตามล่าคนร้าย
ซึ่งเชื่อว่าเกิดจากคนใกล้ตัว ไม่ใช่ใครที่ไหน
แม่แจ้งจับพ่อชำเราลูก
เริ่มที่เหตุสลดที่ จ.นครราชสีมา โดยปรากฏเป็นข่าวเมื่อวันที่ 12 พ.ค. โดยนางเอ (นามสมมติ) อายุ 37 ปี อาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ในจ.นครราชสีมา บุกเข้าพบพ.ต.อ.กฤตยา เลาประสพวัฒนา ผกก.สภ.เมือง จ.นครราชสีมา เพื่อสอบถามความคืบหน้าคดีที่แจ้งความไว้ตั้งแต่วันที่ 27 เม.ย.
โดยกล่าวหาว่านายบี (นามสมมติ) อายุ 47 ปี สามี ซึ่งเป็นอาจารย์สอนอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกัน กระทำอนาจารและ ล่วงละเมิดทางเพศลูกแท้ๆ 2 คน ประกอบด้วยลูกสาววัย 9 ขวบ และลูกชายวัย 7 ขวบ ก่อเหตุมาหลายเดือน โดยใช้บ้านพักของตัวเองเป็นที่กระทำความผิด

แม่แจ้งจับพ่อชำเราลูก

อาจารย์หนุ่ม

นางเอเผยว่า ลูกทั้ง 2 เล่าให้เพื่อนบ้านฟังว่าถูกพ่อบังเกิดเกล้าล่วงละเมิดทางเพศบ่อยครั้ง และถูกข่มขู่ไม่ให้บอกใคร ทำให้ทั้งคู่มีอาการซึมเศร้า หวาดกลัวพ่อตัวเองตลอดเวลา โดยตนผิดสังเกตตั้งแต่ช่วงปลายเดือนเม.ย. จึงสอบถามลูกทั้งสอง จนทราบว่าสามีฉวยจังหวะที่ตนไม่อยู่ หรือเวลาที่ตนพาลูกคนใดคนหนึ่งออกไปนอกบ้าน กระทำอนาจารล่วงละเมิดทางเพศลูกคน ที่อยู่บ้าน
ด้วยการสั่งให้ลูกขึ้นไปชั้น 2 ของบ้าน แล้วเปิดคลิปวิดีโอลามกในโทรศัพท์ให้ลูกดูก่อนลงมือ ซึ่งลงมือมาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมาแต่ลูกๆ ไม่กล้าบอก เพราะถูกพ่อข่มขู่ไว้ว่าหากเล่าให้คนอื่นฟังจะนำตัวส่งไปขายต่างประเทศ เมื่อทราบเรื่องจึงพาลูกมาอาศัยนอนบ้านเพื่อน แต่สามีก็ยังตามมาข่มขู่คุกคาม
นอกจากนี้ยังไปแจ้งความไว้ที่สภ.เมืองนครราชสีมา แล้วพาลูกไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา แต่หลังจากแจ้งความเรื่องก็ยังไม่คืบหน้าจึงต้องมาติดตามคดี
จึงต้องมาทวงถามความยุติธรรม
ช็อกคำให้การมี‘ปู่’ร่วมด้วย
ขณะที่ด.ญ.ซี (นามสมมติ) ลูกสาววัย 9 ขวบ ระบุว่าพ่อทำอนาจารด้วยการถอดกางเกง ใช้อวัยวะเพศมาสอดใส่บริเวณรูทวาร ตอนนั้นไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่รู้สึกไม่ชอบ และรังเกียจมาก โดยพ่อทำบ่อยครั้งจนไม่กล้าเข้าใกล้ และรู้สึกกลัวมาก
ด้านด.ช.ดี (นามสมมติ) ลูกชายวัย 7 ขวบ กล่าวว่า พ่อกระทำกับตนลักษณะเดียวกับพี่สาว รู้สึกเจ็บมาก พยายามจะบอกแม่หลายครั้ง แต่พ่อขู่ว่าถ้าไปบอกจะทำโทษ และพาไปขายให้คนอื่น
ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อมีหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอที่แม่คุยกับลูกทั้งสอง มีเนื้อหาขณะที่ ด.ญ.ซี ลูกสาว เล่าว่า ถูกพ่อ ปู่ และอีก 2 คนกระทำชำเราในบ้านพัก หรือบางครั้งจะถูกพาไปยังบ้านของปู่ ซึ่งทั้งตัวเองและน้องชายก็จะถูกกระทำชำเราด้วยกัน โดยได้ร้องไห้และพยายามร้องขอพ่อแล้ว แต่พ่อไม่ฟังและไม่พูดอะไรเลย
ลูกสาวยังเล่าด้วยว่า บางครั้งพ่อก็จะลงมือกระทำชำเราบนรถยนต์ โดยน้องชายก็อยู่ในรถและเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดด้วย ก่อนในคลิปแม่จะหันไปสอบถามด.ช.ดี ซึ่งลูกชายก็ยืนยันว่าเห็นพ่อขืนใจพี่สาวบนรถเช่นกัน และทุกครั้งที่ถูกพ่อและปู่กระทำชำเรา ทั้งคู่จะข่มขู่ว่าห้ามนำเรื่องทั้งหมดไปเล่าให้แม่ฟังไม่เช่นนั้นจะทำร้ายและนำไปขาย แม้จะพยายามร้องขอให้ปล่อยตัวเองและน้อง แต่ก็ไม่มีใครฟังและยอมปล่อย

แม่แจ้งจับพ่อชำเราลูก

สอบผู้เสียหาย

นอกจากนี้ทั้งลูกสาวและลูกชายยังเล่าด้วยว่า ถูกบังคับให้กินยาแคปซูลสีแดง คล้ายเม็ดรางจืด โดยจะให้กินคนละ 1 เม็ด ซึ่งเมื่อถามก็บอกว่าเป็นยาชูกำลัง ด้วยความกลัวก็ยอมกินไป แต่จะอมยาไว้และแอบคายทิ้งที่บ้าน
ด้านมหาวิทยาลัยต้นสังกัดของทั้งคู่ ได้สั่งให้ 2 สามีภรรยาหยุดสอนไปก่อน เพราะสภาพจิตใจไม่พร้อม และตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงหากพบว่ามีความผิดไม่ว่าในลักษณะใด ก็จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดทันที
ส่วนความคืบหน้าทางคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวเด็กทั้งคู่ให้สหวิชาชีพสอบปากคำเพิ่มเติม โดยแยกสอบเพื่อไม่ให้เด็กสับสน พร้อมเรียกตัวนายบี อาจารย์ชายที่ถูกกล่าวหามาแจ้งข้อหากระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี โดยเจ้าตัวให้การปฏิเสธ จากนั้นปล่อยตัวไป เพราะไม่มีพฤติการณ์หลบหนี
จากนี้จะต้องใช้เวลารวบรวมพยานหลักฐานส่งอัยการภายใน 2 สัปดาห์
อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.กฤตยาระบุว่า จากการรวบรวมพยานหลักฐานเบื้องต้น ยังไม่พบว่ามีปู่ของเด็ก หรือบุคคลอื่น เข้ามาเกี่ยวข้องแต่อย่างใด
รอพิสูจน์กันในชั้นศาลต่อไป
เร่งคลี่คดีน้องชมพู่ตายเปลือย
ส่วนอีกคดีที่เกิดขึ้นกับเด็กเช่นกัน ครั้งนี้เกิดขึ้นที่จ.มุกดาหาร เป็นเหตุการณ์ที่น้องชมพู่ (นามสมมติ) วัย 3 ขวบ ถูกแจ้งว่าหายไปปริศนาไปจากบ้านพักในต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ตั้งแต่เช้าวันที่ 11 พ.ค. โดยจากการสอบถามพี่สาว ระบุว่า ก่อนเกิดเหตุพ่อกับแม่ไปทำงานในสวน ปล่อยให้น้องอยู่กับตน
โดยตนนอนเฝ้าน้องนั่งเล่นที่เตียงหน้าบ้าน และน้องไปเล่นใต้ต้นมะม่วงบ้านป้าที่อยู่ติดกัน ก่อนที่ตนจะเผลอหลับไป ตื่นขึ้นมาอีกทีก็หาน้องไม่เจอ โทรศัพท์หาพ่อแม่ บอกให้ญาติพี่น้องช่วยตามหา พร้อมประกาศเสียงตามสาย ก็ไม่เจอ จากนั้นทั้งหมดออกตามหา ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ของวันที่ 11 พ.ค.
ทั้งนี้ชาวบ้านปูพรมค้นหาพื้นที่ป่ารอบๆ หมู่บ้านในรัศมี 10 กิโลเมตร แต่ก็ไม่พบ
จนกระทั่งช่วงบ่ายวันที่ 14 พ.ค. ยายวัย 70 ปี ที่เดินเข้าไปเก็บเห็ด หาของป่า ที่เทือกเขาภูพานน้อย ในเขตอุทยานแห่งชาติภูผายล กลับลงมาในหมู่บ้าน พอทราบว่ามีเด็กหาย ก็แจ้งว่าพบรองเท้าเด็กสีเขียวถอดทิ้งอยู่ เจ้าหน้าที่จึงระดมกำลังเข้าตรวจสอบจุดที่ยายวัย 70 ปี ระบุว่าพบรองเท้าแตะ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านที่น้องชมพู่หายตัวไปประมาณ 5 กิโลเมตร
เมื่อถึงจุดเกิดเหตุก็แยกย้ายกันตามหา ไม่นานก็พบร่างของน้องชมพู่ เสียชีวิตในสภาพเปลือยกาย ห่างออกไป 2-3 เมตร จากบริเวณที่พบศพ พบเสื้อแขนยาวสีขาว กางเกงขายาวสีชมพู และกางเกงใน
สภาพศพคล้ายถูกบีบคอก่อนเสียชีวิต นำศพส่งไปยังโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี เพื่อให้แพทย์นิติเวชผ่าพิสูจน์ โดยระบุว่าไม่ทราบสาเหตุการตาย พบร่องรอยถูกทำร้าย และไม่พบการล่วงละเมิดทางเพศ เพราะยังพบเยื่อพรหมจรรย์อยู่ตามปกติ
ขณะที่พ่อแม่ของน้องชมพู่ ยกเลิกพิธีฌาปนกิจ พร้อมนำศพส่งนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อขอให้ผ่าพิสูจน์อีกครั้ง
คาใจสาเหตุการตาย

แม่แจ้งจับพ่อชำเราลูก

งานศพน้องชมพู่

แม่แจ้งจับพ่อชำเราลูก

เผาศพสลด

รองผบ.ตร.ลุยคลี่ปริศนา
ภายหลังจากตรวจสอบ นายไชย์พล วิภา ลุงของน้องชมพู่ ระบุว่า รายงานของนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ระบุว่า พบบาดแผลที่อวัยวะเพศ และร่องรอยถูกทำร้ายร่างกาย ถือเป็นการกระทำที่โหดร้าย รับไม่ได้ที่มีคนมาทำกับหลานแบบนี้ จากนี้ต้องรอว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะช่วยทางคดีได้มากน้อยเพียงใด
ในใจลึกๆ ไม่อยากให้คนร้ายเป็นคนในชุมชน เพราะว่ามันน่ากลัว และตอนนี้ยังหาคนร้ายไม่ได้ ถ้าเป็นคนในพื้นที่และอยู่ใกล้ตัวก็ถือว่าอันตราย
พ.ต.อ.วาที อัศวุตมางกุร รองโฆษกโรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผยว่า แพทย์นิติเวช ร.พ.ตำรวจ เก็บตัวอย่างของเหลวในช่องคลอดไปตรวจหาอสุจิ ในห้องปฏิบัติการคาดอีก 1 เดือนจะทราบผลอย่างละเอียด ทั้งนี้ ซึ่งระยะการเสียชีวิตยังไม่นานเกินไป หากมีเชื้ออสุจิก็สามารถตรวจพบได้ ว่าถูกล่วงละเมิดทางเพศหรือไม่
ส่วนร่องรอยบาดแผลที่พบ แพทย์เก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อไปตรวจหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง เนื่องจากชิ้นเนื้อจะสามารถระบุได้ ว่าบาดแผลที่เกิดขึ้นเกิดจากการถูกทุบตี, กดทับ หรือมีการลากร่าง
ด้านบิ๊กปั๊ด-พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผบ.ตร. ลงพื้นที่ตรวจสอบคดีด้วยตัวเอง พร้อมนำตำรวจจากส่วนกลางเข้ามาร่วมคลี่คลายคดี
พร้อมทั้งได้ให้เจ้าหน้าที่ขยายพื้นที่การตรวจสอบเก็บพยานหลักฐานให้มากขึ้น ยืนยันคลี่คลายคดีได้แน่นอน

รอผลสรุปของคดีว่าจะออกมาเป็นอย่างไร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน