เปิดคำสารภาพผัวโหด เห็นคาตาเมียอยู่กับกิ๊ก ฟาดไม่ยั้งดับคาห้องเช่า : คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
เปิดคำสารภาพผัวโหด – “ก็ยอมรับว่ามีความสัมพันธ์กับผู้ตาย ทั้งเป็นแบบเพื่อนและแบบแฟนมานานกว่า 1 ปีแล้ว ผู้ตาย เป็นคนดี ใจดี ที่ผ่านมาสามีก็รู้ระแคะระคายอยู่แล้ว
แต่ไม่ว่าอะไร เรื่องแค่นี้คุยกันก็ได้ไม่น่าถึงกับต้องฆ่ากันตาย” นางหนึ่ง (นามสมมติ) อายุ 47 ปี ให้การกับตำรวจ ภายหลังเป็นต้นเหตุของเรื่องราวสยองเมืองโนนดินแดง
- ตามจับมือฆ่าที่บ้าน
ย้อนไปเมื่อวันที่ 21 พ.ค. พ.ต.ต.ประเสริฐ บุญเขื่อง สารวัตร (สอบสวน) สภ.โนนดินแดง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบคนถูกฆ่าตาย ภายในบ้านเช่า จึงประสานหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมจุด อ.โนนดินแดง เข้าร่วมตรวจสอบ
- ห้องเช่าที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเช่าชั้นเดียวปลูกติดกัน 7 ห้อง บริเวณหน้าห้องสุดท้าย พบรอยเลือดเป็นรอยเท้าคนแบบไม่สวมรองเท้ากว่า10 จุด มีชาวบ้านมามุงดูเป็นจำนวนมาก
ตำรวจตรวจสอบภายในห้องพบศพ นายชัย (นามสมมติ) อายุ 57 ปี สวมเสื้อยืดสีเขียว ท่อนล่างเปลือย เป็นเจ้าของบ้านเช่าหลังดังกล่าว เสียชีวิตในสภาพนอนหงาย ห้องเปื้อนไปด้วยคราบเลือดทั่วบริเวณ ข้าวของกระจัดกระจาย และพบขวดเหล้าขาวอยู่ในห้อง 1 ขวด
จากการสอบถามนางหนึ่ง (นามสมมติ) อายุ 47 ปี อาชีพหาของเก่า ผู้พบศพเป็นคนแรก ให้การว่า ช่วงเกิดเหตุประมาณ 19.00 น. เมื่อวานนี้ตนอยู่ในห้องกับผู้ตาย 2 คน ตนกำลังกอดจูบกับผู้ตาย ทันใดนั้นได้มีนายทองดี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 58 ปี เป็นสามีของตน เปิดห้องเข้ามาเห็นตนกับผู้ตายยังเปลือยกายอยู่ ก็โมโหไม่พูดพร่ำทำเพลงตรงเข้ามาใช้ไม้ไผ่ทุบผู้ตายแบบไม่ยั้ง
- พยานเล่าเหตุการณ์
ตอนนั้นตนตกใจมาก รีบหอบเสื้อผ้าวิ่งหนีไปนอนบ้านเพื่อน โดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นอีก พอรุ่งเช้ามาเปิดห้องก็พบว่านายชำนาญเสียชีวิตแล้ว ตนกับผู้ตายมีความสัมพันธ์กัน ทั้งเป็นแบบเพื่อนและแบบแฟนมานานกว่า 1 ปี ผู้ตายเป็นคนดี ใจดี ที่ผ่านมาสามีก็รู้อยู่แล้ว แต่ไม่ว่าอะไร เรื่องแค่นี้ก็ถึงกับฆ่าเขาตาย
- รอยเลือดหน้าห้อง
ต่อมา พ.ต.ต.สมยง แพรงงาม สารวัตร (สืบสวน) สภ.โนนดินแดง นำกำลังตำรวจไปตามจับผู้ก่อเหตุได้ที่บ้านพัก ซึ่งยังอยู่ในอาการมึนเมาสุรา พร้อมสารภาพกับตำรวจว่าเป็นคนลงมือใช้ไม้ทุบผู้ตายจริง
สาเหตุเพราะแค้นที่ผู้ตายแอบไปมีความสัมพันธ์กับภรรยาตนมานาน ยิ่งทำเป็นไม่รู้เหมือนยิ่งย่ามใจ ภรรยาก็แอบมานอนกับ ผู้ตายเป็นประจำ ทั้งที่อยู่กินกับตนมานานกว่า 10 ปี
ครั้งนี้เห็นกับตาในสภาพที่เปลือยกายอยู่ด้วยกันจึงรับไม่ได้ ทนไม่ไหวใช้ไม้ไผ่ที่ถือมาด้วยทุบแบบไม่ยั้ง ก่อนจะเดินกลับบ้านโดยไม่สนว่าจะตายหรือไม่ ครั้งนี้ยอมรับตนผิดคนเดียวภรรยาไม่เกี่ยว เพราะยังรักเมียอยู่
- นายทองดี (ขอสงวนนามสกุล) มือฆ่า
แม้นทั้งผู้ต้องหาและพยานจะให้การตรงกันว่าสาเหตุมาจากเรื่องความ หึงหวง แต่สำหรับญาติพี่น้องและอดีตภรรยาของผู้ตายนั้นอยากที่จะทำให้เชื่อได้ว่าสาเหตุมาจากเรื่องชู้สาว โดยเฉพาะอดีตภรรยาของผู้ตายที่รับไม่ได้กับเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น
เพราะนอกจากอดีตสามีจะถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยมทารุณแล้ว ยังถูกประณามแบบเสียหายว่าเป็นชู้กับเมียคนอื่นจนถูกฆ่าตาย ทั้งที่ไม่มีใครรู้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร และไม่นึกถึงสภาพจิตใจของครอบครัวคนตายเลย
- ญาติยังคาใจปมสังหาร
เธอให้ข้อมูลอีกด้านว่าที่อยู่กินกับสามีมาเจ้าตัวไม่เคยแสดงพฤติกรรมเจ้าชู้ ส่วนสาเหตุที่แยกทางกันเพราะรับไม่ได้ที่สามีชอบดื่มเหล้า แต่หลังจากแยกกันตนและลูกๆ ก็ยังแวะมาหาอยู่เรื่อยๆ ที่ผ่านมาก็ไม่เคยได้ยินว่าอดีตสามีไปคบหากับใคร แต่กลับมาถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยมแบบนี้
แล้วมาใส่ร้ายว่าไปเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน ตนก็รู้สึกว่าไม่เป็นธรรม เพราะคนตายไปแล้วไม่มีโอกาสได้ลุกขึ้นมาแก้ตัวได้ ก็อยากวอนสังคมและชาวบ้านให้ความเป็นธรรมให้กับอดีตสามี และเห็นใจครอบครัวญาติพี่น้องคนตายด้วย
ขณะที่พี่สาวคนตายบอกว่า น้องชายเป็นคนรักครอบครัว ที่แยกกับภรรยาก็เพราะเหตุผลส่วนตัว แต่ยืนยันว่าน้องชาย ไม่เคยมีพฤติกรรมเจ้าชู้ จึงไม่เชื่อว่าสาเหตุถูกทำร้ายแต่น่าจะ ถูกใส่ร้ายกล่าวหามากกว่า
เพราะโซเชี่ยลเผยแพร่ออกไปจะเป็นคำกล่าวอ้างของผู้ต้องหาและภรรยามากกว่า คนตายไม่มีโอกาสที่จะลุกขึ้นมาชี้แจงได้ ก็ไม่อยากให้ประณามกล่าวหาทั้งที่ไม่เป็นความจริง อยากให้นึกถึงความรู้สึกของครอบครัวญาติพี่น้อง คนตายด้วยว่าจะรู้สึกยังไง ที่ถูกกล่าวหาเสียหายแบบนี้ หากเป็นไปได้ก็อยากให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด
จะเชื่อเช่นไรก็ได้ แต่การดำเนินคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจย่อมต้องอาศัยการรวบรวมพยานหลักฐาน สาเหตุจะเกิดจากอะไรก็ว่ากันไปตามหลักฐาน