คอลัมน์ สดจากสนามข่าว : ตามตร.ปิดคดีสุดสยอง ฆ่ายัดกระสอบ-ฝังดิน ที่แท้พ่อหวังเคลมสะใภ้
ตามตร.ปิดคดีสุดสยอง – เมื่อตำรวจนำหลักฐานต่างๆ ทั้งสร้อยคอ นาฬิกา และชุดที่สวมใส่ที่ได้จากจุดเกิดเหตุฆ่ายัดกระสอบฝังดินมาให้น.ส.กุ้งดู เจ้าตัวก็ถึงกับร่ำไห้จนเป็นลม ด้วยจำได้แม่นยำว่าเป็นของ นายชาญชัย ปลอดแก่นทอง อายุ 21 ปี สามีที่หายตัวไปตั้งแต่เช้าวันที่ 30 เม.ย.
แต่เรื่องราวที่เล่าจากปากของเจ้าตัวนั้น ยิ่งชวนตะลึงกว่า
ย้อนไปเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 22 พ.ค. ตำรวจ สภ.นาหม่อม พร้อมชุดพิสูจน์หลักฐาน 9 จ.สงขลา หน่วยกู้ภัยทุ่งขมิ้นและหน่วยกู้ภัยมัชฌิมา นำกำลังไปตรวจสอบหลุมดินต้องสงสัยบริเวณป่าละเมาะบนเนินเขาในพื้นที่ ม.9 ต.นาหม่อม อ.นาหม่อม ห่างจากรีสอร์ตภูพิชิต ประมาณ 1 ก.ม. หลังชาวบ้าน ได้กลิ่นเหม็นเน่าและมีปากกระสอบโผล่ยื่นออกมาจากหลุม ดังกล่าว
ป่าที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุค่อนข้างเป็นป่ารกทึบและทางสูงชัน พบหลุมดินลักษณะคล้ายกับเพิ่งขุดและฝังกลบใหม่ไม่นานขนาด 2 เมตร และมีปากกระสอบยื่นโผล่ออกมาจากดิน และเมื่อขุดลึกลงไปประมาณ 50 ซ.ม. พบกระสอบขนาดใหญ่ ส่งกลิ่นเหม็นเน่าโชยมาตลอด
ภายในพบศพเพศชาย อายุประมาณ 20 ปี น่าจะเสียชีวิตมา 15-30 วัน สภาพศพสวมเสื้อยืดแขนสั้น และกางเกงวอร์ม ที่ช่วงกลางลำตัวพบเชือกไนลอน ซึ่งคาดว่าน่าจะถูกใช้มัดมือเอาไว้
ส่วนที่บริเวณเสื้อช่วงอกซ้ายและขวาพบร่องรอยเป็นรู 2 รู คล้ายกับถูกแทง และที่ท้ายทอยมีรอยแตกเป็นทางยาวราว 2 นิ้ว คล้ายกับถูกทุบด้วยของแข็ง ในกระสอบยังพบทรัพย์สินผู้ตาย มีสร้อยคอ นาฬิกาข้อมือ ไฟแช็ก ยาดม และบุหรี่ 1 ซอง
ตํารวจสันนิษฐานว่าผู้ตายน่าจะมีเรื่องขัดแย้งกับคู่อริ และถูกอุ้มฆ่ามาจากที่อื่น แล้วนำศพใส่กระสอบมาขุดหลุมฝังเอาไว้ จากการตรวจสอบในเบื้องต้นทั้งในพื้นที่และใกล้เคียงยังไม่พบเบาะแสการแจ้งคนหาย หรือเหตุอาชญากรรมรุนแรง
หาหลักฐานที่บ้าน
วันรุ่งขึ้น พล.ต.ต.ทิวธวัช นครศรี ผบก.ภ.จว.สงขลา เดินทางลงพื้นที่เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี ก่อนจะเรียกประชุมร่วมกับตำรวจฝ่ายสืบสวนของ สภ.นาหม่อม, บก.สส.จ.สงขลา ตำรวจกองปราบปราม และเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน ภาค 9 เพื่อร่วมกันสืบสวนคลี่คลายคดี
จากการลงพื้นที่สอบปากคำพยานแวดล้อม เจ้าหน้าที่คาดว่าศพที่พบน่าจะเป็นนายชาญชัย ปลอดแก่นทอง อายุ 21 ปี ชาว จ.พัทลุง ที่มารับจ้างกรีดยางอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ โดยพาครอบครัวรวม 6 คน มีนายชาญชัย ภรรยาและลูกสาว พ่อกับแม่เลี้ยงและน้องชาย มาเช่าบ้านอยู่ห่างจากจุดที่พบศพไปประมาณ 1 กิโลเมตร
แต่เมื่อตำรวจไปตรวจสอบที่บ้านเช่าก็พบว่าไม่มีใครอยู่ โดยทราบว่าย้ายกลับไปอยู่พัทลุงแล้ว ชุดสืบสวนจึงตามไปสอบสวนพร้อมนำหลักฐานไปให้ดู แล้วก็ใช่จริงๆ เพราะเมื่อ น.ส.กุ้งเห็นหลักฐานสร้อยคอ นาฬิกา ที่พบในกระสอบ
รวมทั้งรูปภาพศพ เจ้าตัวก็ถึงกับร่ำไห้จนเป็นลม ด้วยจำได้แม่นยำว่าเป็นของนายชาญชัย สามีที่หายตัวไปตั้งแต่เช้าวันที่ 30 เม.ย.จริง
คุมนายอรุณ ปลอดแก่นทอง ทำแผนฯ
น.ส.กุ้งให้ข้อมูลชวนตะลึงว่า สงสัยว่าคนที่ฆ่าสามีน่าจะเป็นนายอรุณ ปลอดแก่นทอง อายุ 41 ปี พ่อแท้ๆ ของสามี จากปัญหาเรื่องชู้สาว เนื่องจากตัวเธอกับพ่อของสามีเคยมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกัน และสามีจับได้ ทำให้พ่อลูกคู่นี้ทะเลาะกันหลายครั้ง
วันสุดท้ายที่สามีหายตัวไปคือวันที่ 30 เม.ย. ซึ่งได้ออกไปกรีดยางกับพ่อเพียงสองคนที่สวนยางใกล้กับจุดที่พบศพถูกฝังอยู่ แต่พ่อกลับมาคนเดียว พอถามถึงสามีก็บอกแต่ว่ามันไปแล้ว จากนั้นจึงเดินทางกลับไปอยู่ที่ อ.ป่าบอน จ.พัทลุง กระทั่งมีคนไปพบศพ
เย็นวันนั้นเอง พล.ต.ต.ทิวธวัช พร้อมกำลังควบคุมตัวนายอรุณ ปลอดแก่นทอง อายุ 41 ปี ไปชี้จุดและทำแผนประกอบคำรับสารภาพในป่าสวนยาง ทั้งจุดที่ใช้มีดปาดคอ และจุดที่นำศพไปฝังอำพรางคดี และระหว่างการทำแผนฯ นายอรุณยังได้จุดธูปขอขมาลูกชายตัวเองตรงจุดที่ฝังศพลูกกับมือด้วย
พ่อโหดไหว้ขอขมา
พล.ต.ต.ทิวธวัชเปิดเผยว่า คดีนี้เป็นเหตุพ่อฆ่าลูกตัวเอง ซึ่งมีสาเหตุมาจากพ่อไปแอบมีสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับลูกสะใภ้ แต่ลูกสะใภ้ไม่ยินยอม รวมทั้งแม่เลี้ยงยังมาแอบบอกกับลูกสะใภ้ว่าให้ไปบอกสามีให้ระวังตัวให้ดีเพราะพ่อจะฆ่าเพื่อที่จะเอาลูกสะใภ้มาทำเมีย โดยก่อนเกิดเหตุผู้ตายยังโทรศัพท์ไปบอกแม่แท้ๆ ว่าพ่อจะฆ่าเพราะจะแย่งเมียตัวเอง แต่แม่ไม่เชื่อว่าพ่อจะทำจริง
เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาเอาไว้ก่อน และนำไปควบคุมตัวที่ สภ.นาหม่อม โดยมีตำรวจคอยดูแลอย่างใกล้ชิดเพราะผู้ต้องหายังเครียด
ด้านแม่ของนายชาญชัยเผยทั้งน้ำตาว่า ได้แยกทางกับอดีตสามีมา 20 ปีแล้ว ต่างฝ่ายต่างไปมีครอบครัวใหม่ โดยลูกชายมาอยู่กับพ่อ ก่อนเกิดเหตุลูกชายโทรศัพท์มาเล่าให้ฟังว่าทะเลาะกับพ่อ แต่ก็ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร และเคยกลับมาอยู่บ้านย่า 4-5 วัน ก่อนที่จะกลับไปอีก
“อยากจะถามว่าคนที่เป็นพ่อฆ่าลูกตัวเองเพราะเรื่องอะไร และลูกไปทำอะไร และคนเป็นพ่อไม่น่าที่จะไปฆ่าลูกยัดใส่กระสอบแบบนี้” คำถามที่อดีตภรรยาถามทั้งน้ำตา
