ตามตร.ปิดคดีตำรวจเก๊บุกวัดอ้างเป็นกองปราบฯยัดข้อหา-รีดเงินสมภาร : คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ตามตร.ปิดคดีตำรวจเก๊บุกวัดอ้างเป็นกองปราบฯ : แม้นพระอธิการศักดิ์ วิสุทธสีโล อายุ 63 ปี เจ้าอาวาสวัดกมลาวาส ต.บ้านดู่ อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ จะรู้อยู่แล้วว่าตนเองไม่ได้ทำผิดตามข้อหาที่ชายซึ่งอ้างตัวว่าคือ “ผู้กองณัฐ” พยายามยัดเยียดให้ แต่เพราะพฤติกรรมที่โชว์อาวุธปืนที่พกมาเป็นการข่มขู่ ทำให้ทางเจ้าอาวาสเลือกที่จะยอมจ่ายเงินให้ไปตามที่ถูกรีดไถ

ตามตร.ปิดคดีตำรวจเก๊บุกวัดอ้างเป็นกองปราบฯ

วงจรปิดขณะก่อเหตุ

แล้วความจริงก็ปรากฏว่าข้อหาที่พระอธิการศักดิ์ถูกกล่าวหานั้นไม่เป็นความจริง แถมไอ้ผู้กองณัฐตัวแสบ ยังไม่ใช่ตำรวจตามที่กล่าวอ้าง แต่เป็นมิจฉาชีพที่ก่อเหตุหลอกลวงด้วยวิธีดังกล่าวมานักต่อนักแล้ว

ย้อนไปเมื่อวันที่ 29 พ.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ท.วิวัฒน์ จิตโสภากุล รอง ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ต.เอนก บุญตา สว.กก.3 บก.ป.

แถลงจับกุม นายอรรฆเดช ขันน้อย อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ข้อหากรรโชกทรัพย์ พร้อมของกลางอาวุธปืนพก พร้อมเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง เสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ และรถจยย. 1 คัน หลังติดตามจับกุมตัวได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม

ตามตร.ปิดคดีตำรวจเก๊บุกวัดอ้างเป็นกองปราบฯ

พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป.แถลง

พ.ต.อ.บุญลือเผยเบื้องหลังการจับกุมครั้งนี้ว่า เมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา นายอรรฆเดชขี่รถ จยย.บิ๊กไบก์ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน พกอาวุธปืน บุกเข้าไปหา พระอธิการศักดิ์ วิสุทธสีโล อายุ 63 ปี เจ้าอาวาสวัดกมลาวาส ต.บ้านดู่ อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์

โดยอ้างตัวว่าเป็น “ผู้กองณัฐ” สังกัดกองปราบฯ ก่อนข่มขู่กรรโชกเรียกเอาเงินจากพระอธิการศักดิ์ จำนวน 250,000 บาท ไม่เช่นนั้นจะถูกจับดำเนินคดี ข้อหาขับรถเร็วชนคนจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ดื่มสุรา ทุจริตเงินวัด

แต่เมื่อเจ้าอาวาสปฏิเสธ ยืนยันว่าไม่เคยกระทำตามที่กล่าวหา นายอรรฆเดชก็แสดงท่าทีข่มขู่รุนแรงขึ้น จนญาติของเจ้าอาวาสที่พยายามเข้ามาช่วยเจรจาต้องยอมถอดสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท และเงินสดอีก 5,000 บาทให้ไป เพราะกลัวความไม่ปลอดภัยของเจ้าอาวาส

ตามตร.ปิดคดีตำรวจเก๊บุกวัดอ้างเป็นกองปราบฯ

พระอธิการศักดิ์ วิสุทธสีโส

หลังจากได้ทองคำและเงินสดส่วนหนึ่งไปแล้ว นายอรรฆเดชก็รีบขี่รถหลบหนีออกนอกพื้นที่ จากนั้น พระอธิการศักดิ์ และญาติ จึงเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.นาโพธิ์ ก่อนจะมีการออกหมายจับดังกล่าว กระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่า

หลังก่อเหตุนายอรรฆเดชได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ภูมิลำเนาเดิม แต่เนื่องจากเส้นทางค่อนข้างไกล ระหว่างทางจึงแวะพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม เจ้าหน้าที่จึงติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว

นายอรรฆเดชให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้มีอาชีพขายเป็ดส่งออกประเทศเพื่อนบ้าน แต่มาระยะหลังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ไม่สามารถส่งออกเป็ดไปขายได้ เนื่องจากชายแดนปิด จึงทำให้ขาดรายได้ไม่มีเงิน ก็เลยมาก่อเหตุเพื่อหาเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และเลี้ยงดูครอบครัว รวมทั้งใช้เที่ยวเตร่ดื่มสุรา เลี้ยงสาว ทั้งนี้ ยังขอยืนยันว่าเรื่องที่พระบอกว่าไม่ได้ดื่มสุรานั้นเป็นเรื่องโกหก ซึ่งตนมีพยานหลักฐานเป็นคลิปเสียง ที่พระยอมรับกับตนว่าดื่มสุราจริง

ตามตร.ปิดคดีตำรวจเก๊บุกวัดอ้างเป็นกองปราบฯ

นายอรรฆเดช ขันน้อย ตร.เก๊

พ.ต.อ.บุญลือกล่าวต่ออีกว่า ที่นายอรรฆเดชจะอ้างว่าพระพูดโกหกนั้นก็เป็นการพูดเพียงฝ่ายเดียวเพื่อเอาตัวรอด แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่จะไปกรรโชกเงินจากพระแบบนั้น เพราะการกระทำของพระหากทำจริงก็เป็นเรื่องของวินัยสงฆ์ เขามีกฎเกณฑ์การตรวจสอบอยู่แล้ว

นอกจากนี้จากการตรวจสอบประวัตินายอรรฆเดช พบว่าเคยถูกจับติดคุกมากมายหลายคดี ทั้งคดีลักทรัพย์ พรากผู้เยาว์ ยักยอกทรัพย์ ก่อนจะพ้นโทษออกมาก่อเหตุดังกล่าว

ส่วนทองรูปพรรณและเงินของ ผู้เสียหายนั้น เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่าภายหลังก่อเหตุได้นำไปขายแลกเป็นเงิน ก่อนจะมีการโอนต่อไปให้กับหญิงสาว 2 ราย ที่ไม่ใช่ญาติพี่น้องของตน ซึ่งยังอยู่ระหว่างตรวจสอบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดด้วยหรือไม่

อีกทั้งยังพบว่านอกจากคดีดังกล่าวแล้วก่อนหน้านี้นายอรรฆเดชยังเคยก่อเหตุขู่กรรโชกทรัพย์กับผู้เสียหายอีก 2 ราย เพียงแต่ผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความ หลังจากนี้จะส่งตัวให้ สภ.นาโพธิ์ดำเนินคดี ต่อไป

ตามตร.ปิดคดีตำรวจเก๊บุกวัดอ้างเป็นกองปราบฯ

อาวุธปืนของกลาง

“ตั้งแต่อาตมาบวชจนถึงทุกวันนี้ ยังไม่เคยกินเหล้า ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด อยากจะท้าให้ผู้กองณัฐ เอาคลิปเสียงที่มีอยู่เอามาเปิดให้ฟังหน่อย และอยากจะฝากถึงผู้กองณัฐด้วยว่าทำผิดแล้วต้อง รับผิด อย่าใส่ร้ายคนอื่นเพื่อให้ตัวเองดูดีขึ้น โจรก็คือโจร และอยากให้หยุดการกระทำดังกล่าว การทำดีไม่มีคำว่าสาย ยังกลับตัวทัน” พระอธิการศักดิ์ฝากถึง ตร.เก๊หลังทราบข่าวการจับกุม

ขณะที่หญิงเจ้าของร้านชำรายหนึ่งก็ออกมาเผยว่าถูก ตร.เก๊รายนี้ข่มขู่ยัดเยียดข้อหาขายสุราให้ จนต้องสูญเงินไปนับหมื่นบาทพร้อมเหล้าอีก 2 ขวดอีกด้วย

เรืองรุจ วังแจ่ม
ธานี ทวีเกิด

เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน