จับตาคดียิงดับหนุ่มไชยา ญาติคาใจ-ไม่ยอมเผาศพ เผยปมพิรุธมือปืนวัย14ปี : คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

จับตาคดียิงดับหนุ่มไชยา – เย็นวันที่ 4 มิ.ย. ที่วัดสโมสร หมู่ 4 ต.เลม็ด อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ญาติพี่น้องและกลุ่มเพื่อนได้ประกอบพิธีเผาศพ นายโอภาส ชูคง อายุ 47 ปี ที่ถูกคนร้ายยิงบาดเจ็บสาหัสก่อนเสียชีวิตที่ร.พ.ไชยา เมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา

แต่ที่แปลกไปคือญาติมิได้นำร่างของนายโอภาสมาทำพิธีเผาเช่นทั่วไป แต่เป็นการเผาศพจำลอง เนื่องเพราะยังติดใจเกี่ยวกับการตายและชนวนเหตุหลายอย่าง รวมไปถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

จับตาคดียิงดับหนุ่มไชยา

ตำรวจไปสอบที่ร.พ.ไชยา

คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. วันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.อรุณพงษ์ ภารพบ ผกก.สภ.ไชยา นำกำลังชุดสืบสวนรุดไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลไชยา หลังรับแจ้งเหตุมีผู้ถูกอาวุธปืนยิงบาดเจ็บสาหัสถูกส่งตัวมารักษา แต่เมื่อไปถึงพบว่าผู้บาดเจ็บได้เสียชีวิตแล้ว

จากการสอบสวนทราบว่าผู้ตายชื่อนายโอภาส ชูคง อายุ 47 ปี ถูกยิงเข้าแก้มขวาทะลุท้ายทอย โดยเหตุเกิดบริเวณหน้าบ้านเลขที่ 114/8 หมู่ 4 ต.ตะกรบ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี จึงติดตามไปตรวจสอบ

ตำรวจสอบสวนอดีตภรรยาของผู้ตายซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน ให้การว่า มือปืนเป็นหลานชาย อายุ 14 ปี สาเหตุเนื่องจากโกรธแค้นผู้ตายที่เคยมีเหตุทะเลาะวิวาทกันมาก่อน และเคยถูกผู้ตายทำร้าย หลังเข้ามาห้ามไม่ให้ทำร้ายตน

กระทั่งเช้าวันที่ 3 มิ.ย. ญาติได้นำตัว ด.ช.โอ๋ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ผู้ต้องหา ซึ่งเป็นหลานอดีตภรรยาของผู้ตาย มามอบตัวที่ สภ.ไชยา เบื้องต้นเจ้าตัวรับสารภาพ ตำรวจจึงแจ้งข้อหาฆ่าคนตาย พร้อมส่งควบคุมตัวที่สถานพินิจ

จับตาคดียิงดับหนุ่มไชยา

น้องสาวเผยปมพิรุธ

ที่งานเผาศพ นางชวพร ปลื้มใจ อายุ 44 ปี น้องสาวของผู้ตาย เปิดเผยว่า ผู้ตายทำงานเป็นพนักงานขับรถส่งของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง จดทะเบียนหย่ากับอดีตภรรยาเพียงแต่ในนาม เพื่อทำธุรกรรมทางการเงินเท่านั้น แต่ยังมีการไปมาหาสู่กันปกติ และมีลูกกับภรรยา 2 คน ในวันเกิดเหตุทราบว่าขณะที่ผู้ตายพักอยู่ในบ้านเช่าในตลาดไชยา อดีตภรรยาโทร.และไลน์ตามให้ไปหาที่บ้านที่เกิดเหตุ ที่อยู่ห่างกันประมาณ 20 ก.ม. กระทั่งถูกยิงเสียชีวิต

ทราบว่าอดีตภรรยาให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ขณะเกิดเหตุอยู่บ้านกับหลานชายซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ โดยยืนพูดคุยกับผู้ตายหน้าบ้าน ได้มีคนร้ายยิงใส่ผู้ตาย ส่วนหลานชายหายไป ซึ่งขัดกับพยานแวดล้อม ที่บอกว่าขณะเกิดเหตุมีผู้ชายอยู่ที่บ้านประมาณ 3-4 คน และได้ยินเสียงผู้หญิงกรีดร้องขึ้นก่อนจะมีเสียงปืน และมีรถเก๋งขับออกจากบ้านเกิดเหตุ อีกทั้งพบว่าโทรศัพท์ผู้ตายมีการลบข้อความไลน์และเบอร์โทร.ติดต่อทิ้ง

นอกจากนั้นกล้องวงจรปิดหน้าบ้านเกิดเหตุไม่สามารถดูได้ ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่สนใจติดตามดูกล้องวงจรปิดจากบริเวณใกล้เคียงหรือสอบพยานแวดล้อมเพิ่ม แม้กระทั่งทางฝ่ายญาติอดีตภรรยานำตัวด.ช.โอ๋ ที่รับอ้างว่าเป็นคนร้ายเข้ามอบตัว แต่ไม่มีอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุแต่อย่างใด ไม่มีการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เมื่อมามอบตัวตำรวจก็ไม่แจ้งให้ญาติผู้ตายทราบ

ตนและญาติไม่เชื่อในกระบวนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ไชยา และไม่เชื่อว่าด.ช.โอ๋จะเป็นคนร้ายตัวจริง เชื่อว่าน่าจะมีผู้ร่วมก่อเหตุครั้งนี้ไม่น้อยกว่า 2-3 คน ส่วนด.ช.โอ๋น่าจะเป็นแพะที่ออกมารับผิดแทนผู้ก่อเหตุตัวจริง จึงอยากเรียกร้องความยุติธรรมให้กับคนตาย และให้มีการรื้อคดีสอบสวนใหม่ทั้งหมด เพราะเชื่อว่าจะต้องมีการวางแผนกันมาก่อน

จับตาคดียิงดับหนุ่มไชยา

กล้องวงจรปิดที่เกิดเหตุ

เนื่องจากช่วงเวลาตั้งแต่พี่ชายขับรถจากบ้านตัวเองไปจนถึงบ้านอดีตภรรยา จนคนร้ายลงมือก่อเหตุมันรวดเร็วเกินไป และหลังจากนี้จะนำศพของพี่ชายไปเก็บไว้ และจะไม่เผาจนกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะจับกุมคนร้ายตัวจริงได้ และจะดำเนินการร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรม

ด้าน พ.ต.อ.อรุณพงษ์ ภารพบ ผกก.สภ.ไชยา กล่าวว่า สำหรับคดีดังกล่าวได้มีการพูดคุยกับญาติผู้ตายแล้ว และทราบว่ายังติดใจในเรื่องคดี ทั้งนี้ ได้สั่งดำเนินการทางพนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ทั้งในเรื่องของสำนวนและหาพยานหลักฐานเกี่ยวกับคดี เพื่อให้ทางญาติผู้ตายสบายใจ ไม่ว่าจะเป็นด้านคดี สาเหตุ รวมถึงคนร้ายที่ก่อเหตุ

ผกก.สภ.ไชยายืนยันหนักแน่นว่า จะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย และดำเนินการอย่างโปร่งใส่ตรงไปตรงมา

ความจริงอาจไม่เป็นที่ถูกใจของใครหลายคน แต่ความจริงเท่านั้นที่ทำให้ทุกอย่างยุติอย่างเป็นธรรม

ธนภัทร ชีระจินต์

เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน