คอลัมน์ สดจากสนามข่าว : ตามตร.ปิดคดีปล้นโหด แทงเชือดคอป้าร้านชำ ไหว้ขอชีวิตจึงรอดตาย

ตามตร.ปิดคดีปล้นโหด – ชาวบ้านบริเวณกลางซอยสุขุมวิทพัทยา 71 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี นับร้อยต่างแห่กันมารวมตัวที่หน้าร้านขายของชำของ นางวิรัตน์ วิจิตรสมบัติ อายุ 68 ปี

ด้วยความโกรธแค้น หลังมีข่าวว่าตำรวจจะนำตัวคนร้ายโหดที่ก่อเหตุปาดคอชิงทรัพย์ จนนางวิรัตน์เจ้าของร้านบาดเจ็บสาหัส มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

ตามตร.ปิดคดีปล้นโหด

วงจรปิดในร้าน

ย้อนกลับไปเมื่อ 21.30 น. วันที่ 17 มิ.ย. พ.ต.อ.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ ผกก.สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.ณัฐกร มงคลมหา รองผกก.ป.ฯ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา เข้าตรวจสอบเหตุคนร้ายก่อเหตุ ทำร้ายร่างกายแล้วชิงทรัพย์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ภายในร้านขายของชำ เลขที่ 323/36 ม.13 อยู่บริเวณกลางซอยสุขุมวิทพัทยา 71 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

ตามตร.ปิดคดีปล้นโหด

ตร.ตรวจที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุพบร่าง นางวิรัตน์ วิจิตรสมบัติ อายุ 68 ปี เจ้าของร้านนอนจมกองเลือด ที่บริเวณลำคอถูกของมีคมเป็นแผลฉกรรจ์ และบาดแผลอีกหลายจุดตามร่างกาย มีเลือดไหลอาบทั่วทั้งตัว เจ้าหน้าที่ช่วยกันปฐมพยาบาล ก่อนเคลื่อนย้ายส่งร.พ.กรุงเทพ-พัทยา ตรวจสอบภายในร้านเกิดเหตุ พบร่องรอยการต่อสู้มีกองเลือดและฟันปลอมตกอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

 

น.ส.อลิสา จันทร์ว่องกิจ อายุ 28 ปี ผู้ให้การช่วยเหลือ กล่าวว่า ผู้บาดเจ็บวิ่งประคองร่างเต็มไปด้วยเลือด มาขอความช่วยเหลือ บอกว่าถูกจี้ชิงทรัพย์ คนร้ายเข้ามาทำร้ายร่างกายแล้วชิงเอากระเป๋าเงินที่มีเงินอยู่ 2 หมื่นบาทไป

นางวิรัตน์เล่าว่า ที่รอดตายมาได้ เพราะยกมือไหว้อ้อนวอนร้องขอชีวิตจนโจรมันใจอ่อนยอมไว้ชีวิต ทั้งนี้ขณะเกิดเหตุไม่มีใครเห็นเหตุการณ์เพราะเข้าห้องนอนกันหมดแล้ว เนื่องจากมีฝนตกหนัก ขณะที่ชาวบ้านในละแวกดังกล่าวเล่าว่า สังเกตเห็นมีชายต้องสงสัยปั่นจักรยานมีรอยเลือดติดตามเสื้อ ตากฝนออกไปทางหน้าปากซอย แต่ก็ไม่ทราบว่าเกิดเหตุร้าย จนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบดังกล่าว

ตามตร.ปิดคดีปล้นโหด

นางวิรัตน์ วิจิตรสมบัติ อาการดีขึ้น

เจ้าหน้าที่ตำรวจรีบเช็กเบาะแสจากกล้องวงจรปิด จนกระทั่งรู้ตัวผู้ก่อเหตุคือ นายอู๋ อายุ 41 ปี คนงานก่อสร้างชาวจังหวัดสระบุรี ที่มารับจ้างทำงานอยู่ในพื้นที่ จึงได้วางกำลังปูพรมไล่ล่า ทั้งในที่พัก และแคมป์คนงานก่อสร้างที่ผู้ก่อเหตุเคยเข้าไปดื่มสุรา แต่ยังไม่พบตัว คาดว่าคนร้ายยังคงหลบหนีอยู่ในพื้นที่

คดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์ที่ตำรวจให้ความสนใจ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้ส่ง พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ภาค 2 และ พล.ต.ต.ประการ ประจง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี เดินทางไปที่โรงพยาบาลกรุงเทพ-พัทยา เพื่อเข้าเยี่ยมอาการของนางวิรัตน์ พร้อมพูดคุยกับทางครอบครัวเพื่อสร้างขวัญกำลังใจ ขณะที่อาการของนางวิรัตน์ แม้นจะสาหัสแต่แพทย์แจ้งว่าดีขึ้นตามลำดับ

กระทั่งวันที่ 20 มิ.ย. พล.ต.ต.ประการ ประจง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ ผกก.สภ.บางละมุง นำกำลังชุดตำรวจสืบสวนเข้าจับกุม นายสมศักดิ์ ทิพย์ประภาแย้ม หรือ อู๋ ปากเพรียว อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา พร้อมของกลางเงินสด 8,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง เสื้อผ้าที่ใส่หลบหนี 1 ชุด มีดปอกผลไม้ 1 เล่ม หลังสืบทราบว่าหลบหนีไปอยู่ที่รีสอร์ตในตัวเมือง จ.ระยอง

พล.ต.ต.ประการกล่าวว่า หลังเกิดเหตุกล้อง วงจรปิดสามารถบันทึกพฤติการณ์คนร้ายตอนก่อเหตุไว้ได้ทั้งหมด ซึ่งถือว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการลงมือก่อเหตุอย่างโหดเหี้ยม ซึ่งคดีนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้แสดงความห่วงใยส่งตัวแทนมาเยี่ยมผู้เสียหายยังโรงพยาบาลกรุงเทพ-พัทยา พร้อมเร่งรัดตำรวจชุดทำงานติดตามมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด

ตามตร.ปิดคดีปล้นโหด

ตร.ให้กำลังใจญาติเหยื่อ

สำหรับแนวทางการสืบสวน ตำรวจชุดทำงานลงพื้นที่สอบสวนพยานแวดล้อม และตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด จนทราบว่าหลังจากคนร้ายก่อเหตุได้เอารถจักรยานเพื่อนบ้านปั่นหนี ไปจอดทิ้งอยู่ที่บริเวณสถานีตำรวจทางหลวงพัทยา ก่อนนั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างไปซื้อเสื้อผ้าเปลี่ยนชุดหลังตลาด วัดชัยมงคล พัทยาใต้ จากนั้นว่าจ้างรถแท็กซี่เมืองพัทยาให้ไปส่งที่ตลาดในตัวเมืองระยองเพื่อจะหลบหนีต่อ แต่ปรากฏว่ารอบขนส่งหมดพอดีคนร้ายจึงไปเปิดห้องพักในรีสอร์ตใกล้เคียงจุดดังกล่าว ตำรวจที่เฝ้าติดตามอยู่จึงเข้าจับกุมทันที

ตามตร.ปิดคดีปล้นโหด

ชาวบ้านรอดูหน้า

จากการสอบสวนนายสมศักดิ์รับสารภาพว่า ก่อเหตุจริงชิงทรัพย์จริงเนื่องจากในวันเกิดเหตุเมาสุรา และต้องการเงินเพื่อมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน นอกจากนั้นยังเคยโต้เถียงกับผู้เสียหายกรณีซื้อขายสินค้า หลังสอบสวนเสร็จเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อกระทำความผิด เพื่อการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส

จากนั้นจึงควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพชี้จุดต่างๆ ท่ามกลางชาวบ้านกว่า 100 คน ที่มามุงดูหน้าตาคนร้ายโหดรายนี้

อุดมเกียรติ ทิพย์ศรีกุล เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน