คอลัมน์ สดจากสนามข่าว : ย้อนอุบัติเหตุสลดมีนบุรี เก๋งซิ่งชนสาวตายทั้งกลม หนุ่มมอบตัว-อ้างยาง บึ้ม

ย้อนอุบัติเหตุสลดมีนบุรี – เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น ไม่ว่าจากความประมาทหรือสภาพร่างกายไม่เอื้ออำนวยในการควบคุมยวดยานพาหนะ ไม่ว่าจะเป็นเพราะโรคประจำตัว หรือดื่มแล้วขับ

ย้อนอุบัติเหตุสลดมีนบุรี เก๋งซิ่งชนสาวตายทั้งกลม หนุ่มมอบตัว-อ้างยางบึ้ม

นายกาวิน สาธร ผู้ก่อเหตุไหว้ขอโทษ

ตามกฎหมายผู้ก่อเหตุต้องอยู่ในที่เกิดเหตุให้ความช่วยเหลือคู่กรณี และรอแสดงตัวต่อพนักงานสอบสวน ตามพ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 78

ส่วนใหญ่ผู้ก่อเหตุมักจะอาศัยช่วงชุลมุนเผ่นหนีไปก่อน แทบทุกรายต่างอ้างว่าตกใจกับเหตุที่เกิดขึ้นเลยต้องหนีไปตั้งหลักก่อน บางรายจะเผ่นไปตั้งหลักเสียไกลหรือนานหลายปี

แต่หลายรายเลือกที่จะยอมรับผิดติดต่อเข้ามอบตัวต่อตำรวจ

เช่นคดีล่าสุดในท้องที่ สน.มีนบุรี เมื่อมีหนุ่มขับเก๋งวอลโว่ พุ่งชนท้ายรถจักรยานยนต์ของสามีภรรยาคู่หนึ่ง เป็นเหตุให้ฝ่ายภรรยาที่ตั้งครรภ์ถึง 5 เดือน ต้องตายทั้งกลมไปพร้อมลูกน้อยที่ยังไม่มีโอกาสลืมตามาดูโลก

ย้อนอุบัติเหตุสลดมีนบุรี เก๋งซิ่งชนสาวตายทั้งกลม หนุ่มมอบตัว-อ้างยางบึ้ม

จำลองเหตุตอนชน

ส่วนคนขับรถเก๋งคู่กรณีนอกจากจะไม่จอดให้ความช่วยเหลือแล้วยังขับหลบหนีจนเกือบจะคร่าชีวิตคนสามีไปอีกศพ แต่ก็ไปได้ไม่ไกลเพราะรถพังยับเยิน จึงต้องทิ้งหนีแล้วเผ่นหายเข้ากลีบเมฆไป

วันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายธนายุทธ พุฒเพ็ง พร้อมญาติไปพบพ.ต.อ.คมกฤษณ์ คำบุศย์ ผกก.สน.มีนบุรี ติดตามชนแล้วหนีเป็นเหตุให้น.ส.นาดียะห์ เดชะคำภู ภรรยาที่ท้อง 5 เดือนเสียชีวิต

นายธนายุทธเผยเหตุสลดของครอบครัวว่า เกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะขี่รถจักรยานยนต์โดยมีภรรยานั่งซ้อนท้าย กลับจากไปรับประทานอาหารที่บ้านพ่อตาแม่ยาย

ย้อนอุบัติเหตุสลดมีนบุรี เก๋งซิ่งชนสาวตายทั้งกลม หนุ่มมอบตัว-อ้างยางบึ้ม

พฐ.ตรวจหาร่องรอยคนขับรถ

เมื่อขี่รถไปถึงบริเวณซอยสุวินทวงศ์ 28 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ มีรถเก๋งวอลโว่ รุ่น 740 จีแอล สีดำ ทะเบียน กธ 6498 พระนครศรีอยุธยา ขับจี้ท้ายมาอย่างรวดเร็ว

จากนั้นทั้งนายธนายุทธและภรรยาต่างกระเด็นกระดอนไปคนละทิศละทาง เพราะรถเก๋งพุ่งเสยท้ายเต็มแรง

น.ส.นาดียะห์นั้นลอยไปตกบนฝากระโปรงหน้ารถคู่กรณี
แทนที่คนขับรถคู่กรณีจะจอดให้ความช่วยเหลือ แต่กลับขับรถพุ่งทับนายธนายุทธล้มคว่ำไปพร้อมมอเตอร์ไซค์คู่ชีพ โชคดีที่เขายังพอมีสติจึงกระโดดหลบเอาชีวิตรอดได้อย่างหวุดหวิด

แต่น.ส.นาดียะห์ผู้ภรรยาก็ถูกแรงสะบัดของรถจนกระเด็นตกบนพื้นถนน และยังถูกทับซ้ำจนบาดเจ็บสาหัส และไปเสียชีวิตที่ โรงพยาบาลเมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 22 มิ.ย.

พ.ต.อ.คมกฤษณ์ คำบุศย์ ผกก.สน.มีนบุรี เปิดเผยว่า ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดพบว่า ผู้ก่อเหตุเป็นชายมีอาการมึนเมา ได้จอดรถทิ้งไว้ที่ถนนรามคำแหงแล้วขึ้นแท็กซี่หนีไป โดยรถคัน ดังกล่าวเป็นรถที่ขายไปแล้วตั้งแต่ปี 2559 เจ้าของรถเดิมนำเอกสารการซื้อขายมายืนยันแล้วในวันนี้

ด้านพ.ต.อ.รัฐศักดิ์ รักสลาม รองผบก.น.3 กล่าวว่า วันนี้ผู้หญิงเจ้าของรถเข้ามาให้ปากคำกับตำรวจแล้ว โดยมีเอกสารการซื้อขายมายืนยันว่าขายรถให้นายไพศาล คินิมาน อายุ 62 ปี แบบโอนลอย ยืนยันว่าไม่รู้จักนายไพศาลเป็นการส่วนตัว

ตำรวจจึงติดต่อไปทางภรรยาของนายไพศาล บอกว่าสามีเพิ่ง เสียชีวิตไปเมื่อเดือนเม.ย.

ย้อนอุบัติเหตุสลดมีนบุรี เก๋งซิ่งชนสาวตายทั้งกลม หนุ่มมอบตัว-อ้างยางบึ้ม

นายธนายุทธ พุฒเพ็ง สามีผู้เสียชีวิต

ก่อนหน้านี้รถวอลโว่ถูกเพื่อนของสามียืมไปแล้วไม่นำมาคืนจนสามีต้องไปแจ้งความไว้ที่ สน.ยานนาวา เมื่อก.พ.ที่ผ่านมา

เพียงไม่นานเจ้าหน้าที่ก็สืบสวนจากการไล่ตรวจกล้องวงจรปิดตามเส้นทางรถแท็กซี่ที่คนร้ายใช้หลบหนีไปในซอยสวนสยาม จึงลงพื้นที่สืบสวนจนพบว่ารถยนต์วอลโว่เคยจอดอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งในซอยเสรีไทย 78 ได้หลักฐานแน่ชัดว่าผู้ก่อเหตุคือ นายกาวิน สาธร อายุ 48 ปี

วันที่ 24 มิ.ย. เพียงแค่วันเดียวหลังศาลจังหวัดมีนบุรีอนุมัติหมายจับ นายกาวินก็ติดต่อขอเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี รับสารภาพในสิ่งที่กระทำลงไป

นายกาวินให้การอ้างว่า ก่อนเกิดเหตุได้ไปบ้านเพื่อนย่านสุวินทวงศ์ หลังจากนั้นได้ขับรถกลับบ้านย่านสวนสยาม รถเกิดยางแตกแล้วเสียหลักไปชนท้ายรถจักรยานยนต์คู่กรณีด้วยความตกใจจึงรีบหลบหนีไป

สำหรับรถวอลโว่คันนี้ซื้อมาทางอินเตอร์เน็ตเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว หลังจากทราบข่าวว่าตำรวจนำรถวอลโว่ไปตรวจสอบจนออกหมายจับจึงตัดสินใจติดต่อญาติให้พาเข้ามอบตัว

พ.ต.อ.คมกฤษณ์ยืนยันว่า ผู้ต้องหาจะให้การอย่างไรก็ได้ถือเป็นสิทธิ แต่พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทั้งจากการสอบสวนพยานและภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง แจ้งข้อหา

“ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย” มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท

และข้อหาความผิดเกี่ยวกับพ.ร.บ.จราจร “หลบหนีไม่หยุดให้ความช่วยเหลือและไม่แสดงตัวแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ใกล้เคียงทันที” โทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 5,000-20,000 บาท

ธัญญลักษณ์ วรรณโคตร

พนม คงเจริญ / สุรัตน์ สรรพคุณ

เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน