บิ๊กป้อม ห่วงใยผลประโยชน์ของชาติทางทะเล สั่งทุกหน่วยบูรณาการ ดึงประชาชนมีส่วนร่วม

บิ๊กป้อม / เมื่อวันที่ 11 ก.ย. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (นปท.) ครั้งที่ 1/256 ซึ่งถือเป็นการประชุมครั้งแรกของคณะกรรมการฯ ภายหลังจากพระราชบัญญัติการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล พ.ศ.2562 มีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา โดมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมอาทิ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม. กระทรวงกลาโหม

ที่ประชุมมีมติเห็นชอบ ดังนี้ 1.เห็นชอบร่างประกาศคณะกรรมการนโยบายการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เรื่อง การกำหนดจำนวน คุณสมบัติ หลักเกณฑ์ วิธีการแต่งตั้ง วิธีการได้มา วาระการดำรงตำแหน่ง และการพ้นจากตำแหน่งของคณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้อง และร่างคำสั่งคณะกรรมการนโยบายการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลเพื่อแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ จำนวน 3 คณะ ได้แก่

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

1.คณะอนุกรรมการพิจารณาสถานการณ์ที่ส่งผลต่อการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล 2.คณะอนุกรรมการประสานแผน และติดตามผลการปฏิบัติตามแผนความมั่นคงแห่งชาติทางทะเล และ 3.คณะอนุกรรมการประเมินผลการปฏิบัติงานตามแผนความมั่นคงแห่งชาติทางทะเล ทั้งนี้ มอบให้ฝ่ายเลขานุการฯ นำข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของกรรมการไปปรับปรุงแก้ไข และตรวจสอบความถูกต้องและเหมาะสมเพื่อดำเนินการต่อไป

2.เห็นชอบให้แต่งตั้ง ศาสตราจารย์ เผดิมศักดิ์ จารยะพันธุ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน นปท. ด้านกิจกรรมทางทะเล เป็นประธานอนุกรรมการที่ปรึกษาและจัดการความรู้เพื่อผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (อจชล.) และมอบให้ประธาน อจชล. หารือร่วมกับ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อดำเนินการจัดทำร่างคำสั่งคณะกรรมการนโยบายการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เรื่อง แต่งตั้งคณะอนุกรรมการที่ปรึกษาและจัดการความรู้เพื่อผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เสนอให้ นปท. พิจารณาต่อไป

นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร กล่าวในที่ประชุมว่า ปัจจุบันทะลมีความสำคัญต่อความมั่นคงของชาติและความมั่นคงทางพลังงาน ความมั่งคงทางอาหารและความมั่นคงทางสิ่งแวดล้อม ประเทศไทยได้รับผลประโยชน์จากทางทะเลมีมูลค่ามหาศาล ทั้งจากแก๊สธรรมชาติ การประมง การพานิชนาวี และการท่องเที่ยว รองนายกฯ ยังเน้นย้ำ ให้ ทุกหน่วยงานขอรัฐร่วมกันบูรณาการในการทำงานรักษาผลประโยชน์ของชาติ และให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วรร่วมในการดูแลผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และช่วยกันดูแลนักท่องเที่ยว

หากเกิดปัญหาในทะล จนไม่สามารถจนไม่สามารถดำเนินกิจการทางทะเลได้ จะเกิดผลกระทบต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจของประเทศอย่างมาก ซึ่งการดำเนินการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล จึงเป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง และได้มีการบรรจุไว้ในนโยบายของรัฐบาล การทำหน้าที่พิทักษ์ปกป้องการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล จะเป็นต้องมีระบบการบริหารจัดการที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพ

พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่าหากหน่วยงานรัฐร่วมกันดำเนินการ บูรณาการภายใต้ พรบ.ศรชล.2562 จะส่มารถพิทักษ์รักษาผลประโยชน์และรักษาความมั่นคงของชาติทางทะเลอย่างยั่งยืนตลอดไป ขอให้ทุกหน่วยให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการ และสร้างความรับรู้เกี่ยวกับความสำคัญทางทะเลรวมถึงการดำเนินการของหน่วยเสริมสร้างความเข้าใจและเข้ามามีส่วนร่วมในการปกป้องรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน