เว็บไซต์อาร์ไอเอ โนวอสตี และไลฟ์ของรัสเซียรายงานว่า เด็กหญิงวัย 10 ขวบ ที่ติดที่มีเชื้อเอชไอวี ซึ่งพ่อแม่ปฏิเสธการรักษา เสียชีวิตแล้วที่โรงพยาบาล ในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย

РИА Новости/Максим Богодвид

“เอดส์.เซ็นเตอร์” องค์การนอกภาครัฐที่ต่อสู้โรคเอดส์ ออกแถลงการณ์ในเว็บไซต์เมื่อวันที่ 28 ส.ค. ว่า “เมื่อวานนี้ (27 ส.ค.) เด็กที่มีเชื้อเอชไอวีเสียชีวิตแล้ว ซึ่งพ่อแม่ปฏิเสธให้ลูกสาวรับยาต้านรีโทรไวรัส ด้วยเหตุผลความเชื่อทางศาสนา

สำหรับกรณีดังกล่าว สื่อท้องถิ่นรายงานเมื่อปี 2559 เด็กมีผลเลือดเป็นบวกและได้รับการขึ้นทะเบียนกับศูนย์ต่อสู้โรคเอดส์ แต่พ่อแม่แถลงว่า ลูกสาวมีสุขภาพดี และไม่จำเป็นต้องรับยาต้านรีโทรไวรัส แต่จากการตรวจเลือดเด็กพบว่า จำนวนเชื้อไวรัสเอชไอวีที่สามารถตรวจจับได้จากเลือด 1 มิลลิลิตร หรือไวรัล โหลด (VL) เพิ่มขึ้นจนถึงค่าวิกฤต แต่พ่อแม่ยืนกรานปฏิเสธการรักษาลูกสาว

ต่อมา เด็กถูกนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลตามคำสั่งของศาลตามหลักกฎหมายว่าด้วย พื้นฐานการประกันสุขภาพพลเมือง ศาลยังมีคำสั่งให้พ่อแม่ให้ลูกสาวรับยาต้านรีโทรไวรัสตามใบสั่งแพทย์ด้วย แต่พ่อแม่ก็ไม่เริ่มรักษา

“เอดส์.เซ็นเตอร์” ระบุว่า ในช่วงเดือนมี.ค.-ส.ค. 2016 เด็กรักษาตัวในแผนกผู้ป่วยวิกฤต (ไอซียู) ด้วยอาการสาหัสอย่างร้ายแรง ซึ่งขัดความต้องการพ่อแม่ ภายหลังการรักษา เด็กกลับมาสู่ภาวะปกติ และกลับบ้านไปอยู่กับพ่อแม่ แต่พ่อแม่หยุดให้ลูกสาวรับยาต้านรีโทรไวรัสอีกครั้ง โดยอาศัยการอธิษฐาน ขณะที่กลุ่มนักเคลื่อนไหวยื่นอุทธรณ์ต่อสำนักอัยการแต่ไม่สามารถช่วยเหลือเด็กได้

ด้านคณะกรรมการสอบสวนแห่งชาติ ประจำนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก กำลังดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยจะนำเอกสารทางการแพทย์จากโรงพยาบาลดังกล่าว พร้อมตรวจศพทางนิติเวชศาสตร์เพื่อระบุสาเหตุการเสียชีวิต ความถูกต้องในการรักษา และประเมินการทำงานของแพทย์ด้วย

РИА Новости/Саид Царнаев

“เอดส์.เซ็นเตอร์” ระบุ พ่อแม่เด็กคนนี้มีแนวคิดคัดค้านเชื้อเอชไอวี ซึ่งปฏิเสธการมีอยู่ของเชื้อไวรัสเอชไอวีบนโลกนี้ จากข้อมูลสถิติกลุ่มพ่อแม่ที่มีแนวคิดคัดค้านเชื้อเอชไอวีและบุตรตั้งแต่ปี 2558 พบว่า มีคนเสียชีวิตจากแนวคิดนี้แล้วไม่ต่ำกว่า 67 ราย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน