จากกรณีที่มีผู้ใช้ เฟสบุ๊คชื่อ Pon-pon Thadtiem แชร์ภาพ พร้อมข้อความระบุว่า “คุณคิดว่าขับรถบนโทลเวย์ จะปลอดภัยจากมอเตอร์ไซต์สวนเลนไหม? …เหตุการณ์นี้เกิดเมื่อคืน 22/9/60 เวลา 19.45 น. ผมขับรถมาจากเส้นรังสิต-นครนายก ขึ้นโทลเวย์จะไปลงดอนเมือง ขณะที่ขับมาถึงบริเวณเลยหมู่บ้านเมืองเอกมานิดหน่อย มีรถมอเตอร์ไซต์ขับสวนเลนมาด้านขวา (เลนในสุด) ซึ่งตรงนั้นเป็นช่วงทางที่คดโค้ง เมื่อมอเตอร์ไซต์หลุดโค้งมา ผมเองก็มองไม่เห็นเพราะด้วยความมืดและเขามาเร็วมาก มารู้ตัวอีกทีได้ยินเสียงตูมบริเวณกระจกฝั่งผม หรือฝั่งคนขับ ซึ่งแตกละเอียด กระจกกระเด็นเข้ามาด้านในรถกระจัดกระจายไปทั่ว

ผมเองไม่เป็นไร (โชคดีมาก) ทั้งที่เศษกระจกเต็มตัวเลย จึงประครองรถเข้าชิดซ้าย และเดินกลับไปดู แม่งตายป่าวว่ะ สรุปหาไม่เจอ ก็พยายามก้มหน้าลงไปดูด้านล่าง คิดว่ามันจะกระเด็นตกลงไป แต่ก็ไม่มี และไม่ห่างจากที่ผมจอดรถมาก มีรถเก๋งอีกคันจอดตีไฟผ่าหมากอยู่ จึงเดินเข้าไปถามว่า “พี่เห็นมอเตอร์ไซต์สวนเลนมาไหม” เขาชี้ให้ดู กระจกหูช้างฝั่งคนขับก็หายเหมือนกัน คือเขาก็โดนไอ้เหี้ยมอเตอร์ไซต์คันนี้สอยต่อจากผม. ประกันภัยของผมกับพี่ร่วมชะตากรรมกับผมคนนี้ จึงพาไปแจ้งความไว้ที่ สน.คูคต …ช่วยผมคิดหน่อย คุณคิดว่าจะเป็นมอเตอร์ไซต์ใครที่กล้าขับขึ้นโทลเวย์ และกล้าขับย้อนศร นอกจาก… “

 

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 22 ก.ย. ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยัง นายเฉลิมพล ทัดเทียม อายุ 34 ปี อาชีพ ผจก.แผนกความปลอดภัย ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นคนโพสต์ข้อความดังกล่าว เพื่อสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น

โดยนายเฉลิมพล เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงหัวค่ำของวันก่อน (21 ก.ย.) ขณะนั้นตนเพิ่งเลิกงานจากคลอง 6 และขับรถเพื่อกลับบ้านที่ดอนเมือง ซึ่งปกติตนจะใช้เส้นทาง รังสิต-นครนายก และขึ้นโทลเวย์เพื่อที่จะไปลงดอนเมือง โดยระหว่างทาง ช่วงเมืองเอก ตนได้ขับรถวิ่งช่องขวาสุด จู่ๆ มีรถจยย.ลักษณะคล้ายรถบิ๊กไบค์แบบรถนำขบวน เพราะว่าตนสังเกตเห็นแฮนด์ของรถจยย. ที่มีลักษณะยาวกว่ารถจยย.แบบทั่วไป แต่ขณะนั้นตนเห็นไม่ชัดมาก เนื่องจากถนนค่อนข้างมืดและรถจยย. วิ่งย้อนศรมาในช่องขวาสุดด้วยความเร็ว ก่อนจะมาเฉี่ยวชนรถของตนและตามมาด้วยเสียงดังสนั่นจากแรงปะทะ และเศษกระจกรถก็กระเด็นเข้ามาในห้องโดยสาร ในตอนนั้นรู้สึกตกใจมาก แต่โชคดีที่ตนเองและภรรยาของตนที่กำลังท้องอ่อนๆอยู่ไม่ได้รับบาดเจ็บ จึงค่อยๆขับประคองรถมาจอดชิดเลนซ้ายก่อนจะลงมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น และตนได้เดินย้อนกลับไปประมาณ 500 เมตรเพื่อดูว่า รถจยย.คนนั้นยังอยู่หรือไม่

“ จากนั้นไม่นาน ก็มีรถเก๋ง ฮอนด้า ซีวิค อีกคันมาจอดต่อท้ายรถยนต์ของตน ตนจึงเดินไปถามพี่คนขับว่า เห็นรถจยย.วิ่งย้อนศร มาหรือเปล่า ซึ่งพี่คนขับเก๋งซีวิค ตอบกลับมาว่า เห็น และก็ถูกจยย.คันดังกล่าวเชี่ยวชนด้วยเช่นกัน โดยหลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ของบริษัทประกันภัย ได้ลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.คูคต ว่าถูกรถจยย.เชี่ยวชน และ รถยนต์ ยี่ห้อ โตโยต้า วีออส สีดำ ทะเบียน ญฉ2368 กทม. ได้รับความเสียหายบริเวณฝั่งขวาของรถ แต่ยังไม่ได้มีการแจ้งความ และสิ่งที่ตนได้นำมาแชร์ตนอยากฝากเตือนไว้เป็นอุทาหรณ์เนื่องจากเคสของตนยังนับว่าโชคดีที่ไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ถือว่าอันตรายมากเช่นกัน “ นายเฉลิมพล กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน