จากกรณีเกมการแข่งขันฟุตซอลแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ฟุตซอล แชมเปี้ยนชิพ 2017” ที่สนามฟูโถ สเตเดี้ยม เมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยก่อนที่เกมการแข่งขันจะเริ่มขึ้น โดยก่อนที่เกมการแข่งขันจะเริ่มขึ้น คณะทีมฟุตซอลไทยร่วมกันก้มลงกราบพระบรมฉายาลักษณ์ และยืนสงบนิ่ง เพื่อแสดงความอาลัยและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ส่งเสด็จพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร สู่สวรรคาลัย
จากภาพขณะที่นักกีฬาฟุตซอลไทยกำลังก้มกราบพระบรมฉายาลักษ์อยู่ที่บริเวณกลางสนาม โดยนายณัฐวุฒิ หมัดยะลาน รับหน้าที่เป็นกัปตันทีมชาติไทยของนักกีฬาชุดนี้ เป็นผู้ถือพระบรมฉายาลักษณ์โดยชูขึ้นเหนือศีรษะและนั่งอยู่บริเวณกลางสนาม โดยมีผู้นักกีฬาคนอื่นๆ ล้อมรอบและก้มกราบ แต่กลายเป็นกระแสดราม่าขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อผู้ที่พบเห็นภาพดังกล่าว ในการตั้งคำถามว่าทำไมนักกีฬา 2 คนในภาพถึงไม่ยอมก้มกราบ เหมือนกับนักกีฬาคนอื่น ๆ คือ คือ นายวรุฒ หวังสะมะแอล และนายมูฮัมหมัด อุสมานมูซา โดยนักกีฬา 2 รายนี้ นั่งอยู่ในท่าพับเพียบด้วยอาการสำรวมและสงบนิ่งเท่านั้น
โดยแฟนเพจเฟซบุ๊กชื่อ Drama-addict ได้แชร์ข้อความอธิบายเกี่ยวกับกระแสดราม่าที่เกิดขึ้นของสมาชิกผู้ใช้เฟสบุ๊กชื่อ Muhammad Masor ใจความว่า สำหรับเหตุผลที่นักกีฬาทั้ง 2 คน ไม่ได้ก้มกราบพระบรมฉายาลักษณ์ เพราะเข้าทั้ง 2 คน นับถือศาสนาอิสลาม และตามหลักศาสนาอิสลามแล้ว การหมอบหรือก้มกราบเป็นสิ่งที่กระทำไม่ได้ จะทำได้กับอัลลอฮฺเท่านั้น ดังนั้น การที่เขาไม่ได้ทำเหมือนคนอื่นๆ ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่จงรักภักดี หรือไม่แสดงความอาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของในหลวงรัชกาลที่ 9 เพียงแต่เหตุผลด้านศาสนาที่ไม่สามารถฝ่าฝืนบทบัญญัตินี้ได้
ขอบคุณที่มาจาก Drama-addict และ Muhammad Masor
