วันที่ 9 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 ก.พ. เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานครเข้ารื้อบ้านเลขที่ 99 บริเวณกลางชุมชนป้อมมหากาฬ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร บ้านเก่าแก่ มีลักษณะเป็นไม้โบราณอายุ 100 ปี ตั้งอยู่กลางลานชุมชน ซึ่งเป็นพื้นที่กิจกรรมและเป็นจุดศูนย์กลางของพิพิธภัณฑ์มีชีวิตของชุมชนที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ ทั้งนี้การรื้อบ้านหลังดังกล่าวทำให้ชาวบ้านบางคนนั่งร้องไห้อยู่เงียบๆ เนื่องจากเสียใจ และเจ็บปวดที่ต้องสูญเสียพื้นที่ศูนย์รวมของชุมชนไป

ด้าน นางภารนี สวัสดิรักษ์ นักวิชาการอิสระด้านผังเมือง กล่าวว่า การรื้อบ้านเลขที่ 99 ถือเป็นสัญญาณที่ชี้ให้เห็นว่าบ้านหลังอื่นที่เหลืออยู่ ไม่มีอนาคตแล้ว ตอนนี้คงไม่ต้องพูดถึงเรื่องการรื้อ หรือไม่รื้อบ้าน แต่ต้องมองประเด็นการบริหารจัดการและดูแลชาวบ้านที่ต้องย้ายออกไปจากชุมชน

“การจัดการแบบนี้ทำให้เมืองไม่มีราก นี่ไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาของชุมชนคนจนในพื้นที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์และพื้นที่อื่นๆ กทม. ไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย ถามว่าก่อนรื้อได้มองกลไกการตั้งรับหรือช่วยชาวบ้านหรือไม่ ตอนนี้เป็นห่วงชะตากรรมของชาวบ้านที่ย้ายออกไปแล้ว อยากทราบว่าจะมีกลไกการช่วยเหลืออย่างไรที่เป็นไปได้อีกหรือไม่ นอกเหนือจากการเป็นไปตามยถากรรม หรือบ้านมั่นคงซึ่งชาวบ้านบางกลุ่มอาจยังรับไม่ได้ มันไม่มีทางเลือกใหม่ เป็นไปได้หรือไม่ว่าภาครัฐกับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) จะร่วมมือกันหากลไกที่ยืดหยุ่น” นางภารนี กล่าว

ทั้งนี้การรื้อถอนชุมชนป้อมมหากาฬ เพื่อสร้างสวนสาธารณะตามโครงการของกรุงเทพมหานคร โดยเป็นปัญหายื้ดเยื้อที่ถกเถียงกันมาอย่างยาวนาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน