หลังมีผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Wipas Toon Wimonsate โพสต์ข้อความเกี่ยวกับอุบัติเหตุถูกรถแท็กซี่ชน บนทางม้าลาย โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 13 ก.พ. เวลา 19.30 น. ผู้โพสต์อธิบายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า

วันดีๆ เสียเพราะแทกซี่เลวๆ หนึ่งคน

ขณะกำลังข้ามถนนกับเพื่อนเพื่อไปกินข้าวเย็นเวลา 19.30 น. เดินบนทางม้าลายข้ามมาได้สองเลนแล้ว รถจอดให้ทั้งสองเลน มาถึงเลนสุดท้ายซ้ายสุด แทกซี่วัยน่าจะประมาณ 30 พุ่งมาแบบไม่คิดจะจอด เราผงกหัวให้ขอให้จอด ดูเหมือนมันจะชลอลง เรากับเพื่อนก็ก้าวต่อ แทกซี่ดันพุ่งต่อเข้ามาใส่ เราตกใจใช้เท้ายันด้านข้างของหน้ารถมันเพื่อโดดถอยกลับ แทกซี่เลยเบรคจอด เพื่อนกระโดดหนีขึ้นฟุตบาทไปได้ (ไม่งั้นเพื่อนคงโดนชน) แทกซี่เปิดประตูมา ดันกระแทกใส่ขาเราอีก เราก็ดันประตูกลับ ก็เจ็บนี่หว่า มันดันตัวออกมาแล้วต่อยเรารัวๆ เราได้แต่ป้องกันตัว โชคดีที่พี่วินสองสามคนเข้ามาช่วยเราไว้และขู่แทกซี่ มันเลยหยุดแล้วขับหนีไปดื้อๆ

ก็แจ้งตำรวจไป พี่วินเรียกปอเต็กตึ๊งเอารถพยาบาลมารับไปหาหมอ เย็บ 4 เข็มที่คิ้วข้างซ้าย (พี่วินบอกว่าแทกซี่น่าจะใส่แหวน) กระดูกจมูกร้าว หน้าด้านซ้ายช้ำ จบจากหมอก็ไปหาตำรวจ (สามีของเพื่อนมารับ) แจ้งความไป ตำรวจบอกจะเอาเรื่องให้หนัก กำลังตามจับตัวอยู่ แต่ยังติดต่อศูนย์แทกซี่สุวรรณภูมิไม่ได้

#ข้ามถนนเมืองกรุงยังยากเหมือนสมัยสรพงษ์ยังหนุ่ม #เลือดสาด #เพาว์เวอร์แบงค์กระเด็นหาย #สร้อยคอขาดกระเด็นหาย #กรุงเทพชีวิตดี๊ดี

เป็นที่น่าแปลกใจว่ารหัสแท็กซี่ข้างรถที่ผู้เสียหายถ่ายไว้ได้ ตรงกับลักษณะของแท็กซี่ที่เคยเป็นข่าวถูกยิง และเป็นข่าว เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 2559

วันที่ 14 ก.พ. จากนั้นทางข่าวสดออนไลน์ได้ติดต่อไปที่นายวิภาส วิมลเศรษฐ อายุ 45 ปี ผู้เสียหายและเจ้าของเฟซบุ๊กที่โพสต์เรื่องดังกล่าว เพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

เบื้องต้นนายวิภาส เปิดเผยว่า ขณะที่ตนและเพื่อนกำลังจะข้ามถนน ซึ่งตอนนั้นเดินข้ามถนนมายืนอยู่บนเกาะกลางแล้ว พอรถว่างเพื่อนก็เดินนำไปก่อน ตนเห็นแท็กซี่ขับมาก็พยักหน้า เป็นสัญญาณว่าจะขอข้าม แต่แท็กซี่กลับเร่งเครื่องและพุ่งชน แต่ตนสามารถใช้เท้ายันหน้ารถไว้ได้ จนเกือบล้มลง แท็กซี่ก็เปิดประตูมา กระแทกอย่างแรง เพราะตนอยู่ในตำแหน่งที่เป็นฝั่งประตูคนขับพอดี คาดว่าคงไม่มีเจตนา จากนั้นคนขับแท็กซี่ก็เข้ามาหาเรื่องตน พร้อมพูดว่า “มึงจะต่อยกูหรอ” จนเกิดเรื่องชุลมุน ซึ่งวินมอเตอร์ไซค์ที่อยูระแวกนั้นเข้ามาช่วยห้าม พร้อมอธิบายว่า แท็กซี่เป็นฝ่ายผิด จากนั้นคนขับแท็กซี่ก็ขึ้นรถ และขับออกไป

หลังเกิดเหตุได้แจ้งความไว้ที่ สน.ทองหล่อ และเมื่อสักครู่ได้เดินทางไปที่สน.ทองหล่อ เพื่อสอบถามถึงความคืบหน้า ก็สัมผัสได้ว่า ตำรวจไม่ได้เร่งดำเนินการ จึงค่อนข้างเกรงว่า เรื่องจะเงียบหายไป ตอนนี้อาการทรงๆ ปวดๆ มึนๆ นิดหน่อย หมอบอกว่าแตก 2 แผล กระดูกจมูกแตกแต่ไม่เคลื่อน มีรอยช้ำที่หน้า แขน และเอว

“ตนอยากจะให้เป็นตัวอย่างว่า การเดินข้ามถนนบนทางม้าลาย เป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย และตามกฎจราจร เมื่อรถที่เห็นคนรอข้ามถนน ก็ควรจะปฎิบัติตามกฎ คือจอดรถให้คนข้ามก่อน รู้สึกว่าหลายคนอาจจะลืมว่ามีกฎหมายข้อนี้ไป ตนจึงไม่อยากให้เรื่องนี้เงียบไป”

จากนั้นไม่นานหลังจากนายวิภาส โพสต์เฟซบุ๊ก ด้วยพลังโซเชียลจึงสามารถตามหาตัวชายคนขับแท็กซี่คนดังกล่าว ผ่านทางเฟซบุ๊ก เมื่อเข้าไปตรวจสอบพบว่า เจ้าของเฟซบุ๊กคนนี้ ขับรถแท็กซี่คันเดียวกับคันที่ก่อเหตุ และยังทราบว่าคบขับแท็กซี่ เคยเกิดเหตุถูกยิงมาแล้ว หลังจากเข้าไปเคาะกระจกหาเรื่องรถเบนซ์ของนาวาโทคนหนึ่ง โดยเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 ส.ค. 2559
อ่านข่าวเก่า : ฉุนเจอเคาะกระจก! น.ท.เลือดขึ้นหน้า-คว้าปืนยิงใส่แท็กซี่กลางกรุง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน