ในยุคที่ภัยคุกคามทางไซเบอร์ทวีความซับซ้อนและแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว มิจฉาชีพใช้เทคโนโลยีในการหลอกลวงและโจมตีผู้บริโภค ส่งผลให้เกิดความเสียหายทั้งทางการเงินและความมั่นคง ด้วยเหตุนี้ เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2568 ทรู คอร์ปอเรชั่น ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (CCIB) หรือตำรวจไซเบอร์ และทรูมันนี่ ได้ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญเพื่อรับมือกับศึกไซเบอร์วอร์ ในงานแถลงข่าว ‘ความร่วมมือ ทรู x ตำรวจไซเบอร์ สู้ศึกไซเบอร์วอร์’ ณ อาคารประชุมสัมมนาและฝึกอบรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (บช.สอท. เมืองทองธานี)
ความร่วมมือครั้งนี้มุ่งเน้นการทำงานแบบบูรณาการ เชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับมิจฉาชีพแบบเรียลไทม์ เพื่อให้สามารถตรวจสอบและระงับภัยคุกคามได้อย่างทันท่วงที พร้อมพัฒนาช่องทาง SFTP (Secure File Transfer Protocol) สำหรับการรับส่งข้อมูลอย่างเป็นระบบและมีความปลอดภัยสูง ซึ่งจะช่วยให้การดำเนินการทางกฎหมายสามารถทำได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ตำรวจไซเบอร์ขานรับภารกิจสำคัญในยุคดิจิทัล
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) ได้กล่าวถึงความสำคัญของการร่วมมือในครั้งนี้ว่า ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว การติดต่อสื่อสารผ่านระบบดิจิทัลกลายเป็นส่วนสำคัญของชีวิตประจำวัน ขณะที่ภัยคุกคามทางไซเบอร์ส่งผลกระทบทั้งต่อประชาชน หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน โดยมีการฉ้อโกงทางออนไลน์ การโจรกรรมข้อมูล และการโจมตีทางไซเบอร์ที่สร้างความเสียหายมากมาย
“ตอนนี้เรามีตำรวจเฉพาะด้านไซเบอร์วอร์ เรามีนักรบเฉพาะด้านเป็นชุดปฏิบัติการพิเศษเพียง 1,400 คน เทียบไม่ได้เลยกับกลุ่มแก๊ง Call Center ที่ประเทศเพื่อนบ้าน เฉพาะนักรบของเราไม่พอ ในวันนี้ดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ True ได้มาร่วมกับเรา วันนี้เป็นวันสำคัญในการประกาศไซเบอร์วอร์ เพื่อให้พี่น้องประชาชนปลอดภัยจากภัยไซเบอร์” พล.ต.ท.ไตรรงค์กล่าว
เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยทางไซเบอร์ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ได้เน้นย้ำถึงแนวทางหลัก 3 ประการของความร่วมมือในครั้งนี้ ได้แก่:
- การร่วมสนับสนุนโครงการ True CyberSafe โดยเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนข้อมูล เพื่อตรวจสอบ สืบสวน และยกระดับการป้องกันภัยไซเบอร์อย่างมีประสิทธิภาพ
- การพัฒนาระบบหมายเรียกพยานเอกสารทางอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านช่องทาง SFTP ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานทางราชการ เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบในกระบวนการยุติธรรมของศาล
- การประสานงานในกรณีเร่งด่วน เพื่อให้การสืบสวนสอบสวนสามารถดำเนินการได้อย่างทันท่วงที
บริการ 9777 แจ้งบล็อกสายมิจฉาชีพ Scam Report
นายจักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกิจการองค์กร บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของทรูในการปกป้องลูกค้า โดยกล่าวว่า ทรู คอร์ปอเรชั่น ตระหนักถึงภัยไซเบอร์ที่ทวีความซับซ้อนมากขึ้นทุกวัน และเข้าใจดีว่าการปกป้องคนไทยจากภัยมิจฉาชีพจำเป็นต้องบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วน สร้างเครือข่ายพันธมิตรเพื่อร่วมกันสู้ศึกไซเบอร์วอร์
“ความร่วมมือกับตำรวจไซเบอร์ในครั้งนี้ จึงเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญเพื่อยกระดับการดูแลประชาชนคนไทยให้ปลอดภัยในการใช้บริการดิจิทัลมากขึ้น ด้วยการทำงานกับตำรวจไซเบอร์ เชื่อมโยงข้อมูลเหล่ามิจฉาชีพแบบเรียลไทม์ เพื่อตรวจสอบและระงับภัยได้อย่างรวดเร็วทันท่วงที เพิ่มศักยภาพบริการ True CyberSafe ในการป้องกันภัยให้แก่ลูกค้าทรูทั้งโมบายล์และออนไลน์กว่า 60 ล้านคนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ รวดเร็ว และแม่นยำ โดยเฉพาะ”
นอกจากนี้ยังเผยถึงทิศทางการร่วมมือเพิ่มเติมว่า ทรูรู้สึกขอบคุณตำรวจไซเบอร์ที่ให้ทรูเข้ามามีส่วนร่วมเป็น “ไซเบอร์วอริเออร์” เพื่อช่วยให้ไซเบอร์วอร์ครั้งนี้ประสบความสำเร็จ การดูแลลูกค้ากว่า 60 ล้านคนไม่ใช่เรื่องง่าย คำถามสำคัญคือ จะทำอย่างไรให้ลูกค้าและประชาชนปลอดภัย ดังนั้น ทรูจึงร่วมมือกับตำรวจไซเบอร์เพราะตระหนักถึงความซับซ้อนของอาชญากรรมทางไซเบอร์ในปัจจุบัน การแก้ไขปัญหาจึงต้องอาศัยการบูรณาการและความร่วมมือจากพันธมิตรหลายภาคส่วน
เพื่อสนับสนุนการป้องกันภัยไซเบอร์อย่างมีประสิทธิภาพ ทรูได้ยกระดับบริการ 9777 แจ้งบล็อกสายมิจฉาชีพ Scam Report ให้เป็นบริการครบวงจรแบบ One Stop Service ครอบคลุมการรับแจ้งเบอร์โทร SMS และเว็บลิงก์ต้องสงสัยผ่าน 3 ช่องทาง ได้แก่
1.กด *9777# โทรออก (แจ้งเบอร์ต้องสงสัยภายใน 5 นาที หลังรับสาย)
2.กด *9777# เบอร์ที่ต้องการแจ้ง# โทรออก
3.แคปหน้าจอส่ง MMS ที่เบอร์ 9777
โดยจะมีทีมงานพิเศษ และระบบ AI คอยตรวจสอบ คัดกรองข้อมูล พร้อมแจ้งผลอย่างรวดเร็วภายใน 24 ชั่วโมง หากเป็นมิจฉาชีพจริง จะบล็อกทันที และทีมตำรวจไซเบอร์สามารถดำเนินการทางกฎหมายได้อย่างรวดเร็ว
True CyberSafe เกราะป้องกันด้วยเทคโนโลยี AI ล้ำสมัย ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
นายฐานพล มานะวุฒิเวช หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการตลาด บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้เผยถึงผลงานที่ผ่านมาของระบบ True CyberSafe ว่า ตั้งแต่เริ่มให้บริการในวันที่ 3 ธ.ค. 2567 ถึง 18 มี.ค. 2568 True CyberSafe สามารถปกป้องลูกค้าจากการคลิกลิงก์แปลกปลอมได้ถึง 624 ล้านครั้ง เฉลี่ย 7.5 ล้านครั้งต่อวัน คิดเป็น 98.7% ที่ระบบสามารถปกป้องได้ โดยล่าสุด True CyberSafe ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ 2 ฟีเจอร์ที่สำคัญ ได้แก่
- Call AI Filter – ระบบกรองและแจ้งเตือนสายเรียกเข้าที่อาจเป็นมิจฉาชีพ โดยใช้ AI ในการประมวลผลข้อมูลที่รวบรวมจากพฤติกรรมการใช้งานมือถือของมิจฉาชีพ ร่วมกับฐานข้อมูลหมายเลขต้องสงสัยที่ได้รับจากตำรวจไซเบอร์ ซึ่งมีมากกว่า 300,000 หมายเลข ช่วยให้ระบบสามารถแจ้งเตือนลูกค้าได้อย่างแม่นยำและทันท่วงที ซึ่งจะเปิดให้บริการในเดือนเมษายนนี้
- SMS AI Filter – บริการที่จะเปิดให้บริการในเดือนพฤษภาคม 2568 ช่วยแจ้งเตือน SMS ที่อาจเข้าข่ายหลอกลวงจากมิจฉาชีพ โดยอาศัยเทคโนโลยี AI ในการวิเคราะห์และประมวลพฤติกรรมของมิจฉาชีพ
“มั่นใจว่า True CyberSafe จะเป็นบริการสำคัญที่จะขับเคลื่อนสังคมไทยให้ปลอดภัยจากมิจฉาชีพ ช่วยปกป้องคนไทย ยับยั้งความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ลดโอกาสและความเสี่ยงจากความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน เสมือนมีเกราะคุ้มกันภัยที่มั่นใจได้และมีประสิทธิภาพตลอดการใช้บริการของทรู โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม” นายฐานพล กล่าว
ทรูมันนี่ ยกระดับความปลอดภัยด้านการเงิน
นอกจากการป้องกันภัยไซเบอร์ในด้านการสื่อสารแล้ว ความร่วมมือครั้งนี้ยังครอบคลุมถึงความปลอดภัยทางการเงินด้วย โดยทรูมันนี่ได้พัฒนาระบบป้องกันการดูดเงิน 3 ชั้น ‘TrueMoney 3 x Protection’ ที่มีกระบวนการ “ตรวจ-จับ-หยุด” ธุรกรรมแปลกปลอม
นายอธิปัตย์ พลอยพรายแก้ว ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารความเสี่ยงและตรวจสอบทุจริต บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด กล่าวว่า “บริษัทฯ ให้ความสำคัญด้านระบบความปลอดภัยของผู้ใช้บริการแอป TrueMoney มาโดยตลอด เรามอบการปกป้องจากการหลอกลวงทางการเงิน ยกระดับการป้องกันภัยให้เข้มข้นมากขึ้น ด้วยระบบป้องกันการดูดเงิน 3 ชั้น ที่มั่นใจได้มากกว่าสำหรับลูกค้าทรู ดีแทค ทุกครั้งใช้จ่ายผ่านแอป TrueMoney”
ความร่วมมือระหว่างทรู, ตำรวจไซเบอร์ และทรูมันนี่ ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างเครือข่ายความปลอดภัยที่ครอบคลุมทั้งการสื่อสารและการเงิน ด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลแบบเรียลไทม์ ใช้ AI วิเคราะห์และป้องกันภัย พร้อมประสานงานระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อปกป้องผู้ใช้กว่า 60 ล้านคนจากภัยไซเบอร์ที่ซับซ้อน สร้างความเชื่อมั่นในการใช้บริการดิจิทัล และส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลไทยอย่างยั่งยืน
สำหรับผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการด้านความปลอดภัยไซเบอร์ของทรูสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.true.th/services/true-cyber-safe