หยุดเผาป่า-รักษาต้นน้ำ’

พรจาก‘พระครูสถิตธรรมาภิรักษ์’

โดย…วิชัย ทาเปรียว

หยุดเผาป่า-รักษาต้นน้ำ’ พรจาก‘พระครูสถิตธรรมาภิรักษ์’ – เมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ที่ลานหน้าวัด ป่าไม้แดง พระเจ้าพรหมมหาราช บ้านป่าไม้แดง หมู่ที่ 9 .หนองบัว อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ พระครูสถิตธรรมาภิรักษ์ (ดวงคำ ฐานิสสโร) เจ้าคณะอำเภอไชยปราการ จ.เชียงใหม่

พร้อมผู้สูงอายุ ได้รับมอบน้ำเต้าสัญลักษณ์ของลาหู่ และเครื่องเซ่นประกอบพิธีกินวอ มีฟักแฟง พืชไร่บนที่สูง และป้ายไม้ประดู่ “สถิตโมกขธรรม” เพื่อเป็นเอกลักษณ์ของวัดอีกชิ้นหนึ่งที่พระครูสถิตธรรมาภิรักษ์ เมตตารับการคารวะในครั้งนี้ เพื่อความเป็นสิริมงคลและเป็นกำลังใจในการทำความดี

หยุดเผาป่า-รักษาต้นน้ำ’ พรจาก‘พระครูสถิตธรรมาภิรักษ์’

จากการที่พระครูสถิตธรรมมาภิรักษ์ ได้ช่วยให้ชาวบ้านชนเผ่าลาหู่และชนเผ่าลีซูให้รักสามัคคี โดยปลูกป่าร่วมกับชาวบ้านในหลายพื้นที่ เพื่อรักษาป่าต้นน้ำในเขตอุทยานแห่งชาติดอยเวียงผา

ทั้งนี้ พี่น้องชนเผ่าลาหู่และลีซู จำนวน 8 หมู่บ้าน ประกอบด้วย หมู่บ้านโป่งจ๊อกเก่าและใหม่ หมู่บ้านห้วยทราย หมู่บ้านปู่จา หมู่บ้านป่าหนา หมู่บ้านห้วยบง หมู่บ้านต้นตอง และหมู่บ้านห้วยโป่งพัฒนา บ้านห้วย เหมี้ยง ใน ต.แม่ทะลบ มีความกลมกลืนสามัคคีกัน ด้วยก่อนหน้านี้ได้ร่วมกันปลูกป่ารักษาต้นน้ำร่วมกัน

ขณะเดียวกัน วัฒนธรรมประเพณีของแต่ละชนเผ่าไม่เหมือนกัน ต่างฝ่ายต่างอยู่ แต่มาวันนี้เกิดความเชื่อมโยงเกิดสายสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เพราะร่วมกันเริ่มปลูกป่ารักษาป่าต้นน้ำมาตั้งแต่ พ..2547 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันหยุดเผาป่า-รักษาต้นน้ำ’ พรจาก‘พระครูสถิตธรรมาภิรักษ์’

หยุดเผาป่า-รักษาต้นน้ำ’ พรจาก‘พระครูสถิตธรรมาภิรักษ์’

หยุดเผาป่า-รักษาต้นน้ำ’ พรจาก‘พระครูสถิตธรรมาภิรักษ์’

หยุดเผาป่า-รักษาต้นน้ำ’ พรจาก‘พระครูสถิตธรรมาภิรักษ์’

หยุดเผาป่า-รักษาต้นน้ำ’ พรจาก‘พระครูสถิตธรรมาภิรักษ์’

หยุดเผาป่า-รักษาต้นน้ำ’ พรจาก‘พระครูสถิตธรรมาภิรักษ์’

หยุดเผาป่า-รักษาต้นน้ำ’ พรจาก‘พระครูสถิตธรรมาภิรักษ์’

หยุดเผาป่า-รักษาต้นน้ำ’ พรจาก‘พระครูสถิตธรรมาภิรักษ์’

ทุกปีในฤดูฝนทุกชนเผ่าร่วมกันปลูกป่าและนำอาหารมารับประทานด้วยกัน จนเกิด 2 ชนเผ่า ประกอบพิธีออกวอประจำปี และร่วมกันได้สำนึกในเมตตาธิคุณที่หลวงพ่อมีต่อผู้เฒ่าผู้แก่และเด็กเยาวชนตลอดจนผู้ด้อยโอกาสบนที่สูง จึงได้ร่วมใจกันถวายน้ำเต้าสัญญาลักษณ์ของลาหู่ และป้ายไม้ประดู่สถิตโมกขธรรมดังกล่าว

โดยมี พระครูพิพิธปุญโญภาส เจ้าคณะตำบลแม่ ทะลบ, พระพงษ์พันธ์ สุทธิจิตโต ที่พักสงฆ์สถิตโมกขธรรม สาขาวัดป่าไม้แดง, นายยุทธชัย บูทะ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 .แม่ทะลบ และ นายวัชนชัย ปัญบือ ผู้นำชนเผ่า, นายขจรศักดิ์ วงศ์สุข วัฒนธรรมอำเภอไชยปราการ ทหารกองกำลังผาเมือง ตำรวจภูธรไชยปราการ นำประชาชนจำนวน 8 หมู่บ้านของ 2 ชนเผ่าดังกล่าว คือ เผ่าลีซูและเผ่าลาหู่ใน ต.แม่ทะลบ หลังจากประเพณีกินวอประจำทุกปีที่จัดมาแล้ว 9 วัน และประเพณีจะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ ต่อเมื่อมีการคารวะดำหัวผู้หลักผู้ใหญ่ที่ชนเผ่าเคารพนับถือก่อน

หยุดเผาป่า-รักษาต้นน้ำ’ พรจาก‘พระครูสถิตธรรมาภิรักษ์’

หยุดเผาป่า-รักษาต้นน้ำ’ พรจาก‘พระครูสถิตธรรมาภิรักษ์’

ดังนั้น ชาวบ้านทั้ง 2 ชนเผ่าจึงมาคารวะดำหัวพระครูสถิตธรรมาภิรักษ์ และผู้สูงอายุ

กิจกรรมเริ่มต้นโดยชาวบ้าน 2 ชนเผ่า ตั้งขบวนหน้าวัด ผู้นำของ 2 ชนเผ่าถือธงชาติไทยและนำน้ำเต้าสัญลักษณ์ของลาหู่ และเครื่องเซ่นประกอบกินวอ ร่วมขบวน โดยมีชาวบ้านแต่งชุดชนเผาร่วมงานจำนวนกว่า 500 คน เข้ามาในลานกิจกรรมหน้าวัด จากนั้นนำน้ำเต้าและป้ายสถิตโมกขธรรม พร้อมเครื่องเซ่นกินวอ ถวายและรับพรจากพระครูสถิตธรรมาภิรักษ์

พระครูสถิตธรรมาภิรักษ์กล่าวให้พรว่า การที่ชาวบ้านดำหัวออกวอ ถือเป็นการสืบสานประเพณีของแต่ละชนเผ่าที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาในผืนแผ่นดินไทย และการที่เราจะตอบแทนแผ่นดินไทยก็ขอให้ทุกคนรักษาป่า เมื่อมีป่าก็จะมีน้ำมีเมฆที่ไปสร้างเป็นฝนตกลงมาให้ป่าสมบูรณ์ เมื่อป่าสมบูรณ์มีป่า มีน้ำ มีฝน จะสามารถมีชีวิตสร้างครอบครัวมีบุตรหลานสืบสกุลต่อไปได้ ขอให้ชาวบ้านไม่ตัดไม้ทำลายป่า และไม่เผาป่า เพราะการเผาป่าจะสร้างปัญหาและทำลายธรรมชาติหมดไปอย่างรวดเร็ว

สิ่งใดให้ประโยชน์กับเราก็ต้องอนุรักษ์รักษาไว้ คือป่าและน้ำ การทำกินในป่าทำได้แบบพอเพียง หากทำกินในป่ามากเกินไปก็จะเกิดความเสียหายได้ อย่างไรก็ตาม ขอให้ชาวบ้านไม่เผาป่าเพราะป่าเมื่อถูกไฟไหม้ทั้งหมดไม่มีสิ่งมีชีวิต ก็จะเกิดภัยแล้งขึ้นทันที ดังนั้นขอให้ชาวบ้านรักษาป่าและรักษาน้ำไว้ เพื่อให้ทุกชีวิตได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน และวันนี้ดีใจที่เห็น 2 ชนเผ่าทั้งชาวลาหู่และลีซูมาทำกิจกรรมที่ดีร่วมกัน เพื่อสืบสานแนวทางของในหลวงรัชกาลที่ 9 และในหลวงรัชกาลที่ 10 ร่วมกันรักษาป่าไม้และป่าต้นน้ำให้อยู่คู่ประเทศไทยสืบไป” พระครูสถิตธรรมาภิรักษ์กล่าว

จากชาวบ้านแสดงการละเล่นดนตรีชนเผ่าให้ชม และชาวบ้าน 2 ชนเผ่า รับประทานอาหารกลางวันร่วมกันเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีของ 2 ชนเผ่าเป็นอันเสร็จพิธี

อ่าน : ชนเผ่าลาหู่และลีซู : เปิดประวัติ’ริชชี่’นางเอกเชื้อสายชนเผ่าลาหู่ กับความภูมิใจของตระกูล’ไชยกอ’

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน