ข่าวเด่นพระปี 62

สานสัมพันธ์2ศาสนาคริสต์-พุทธ

โป๊ปฟรานซิสเข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราช วันที่ 28 พ.ย.2562 สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จลงพระอุโบสถวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ทรงรับสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งคริสต์ศาสนานิกายโรมันคาทอลิก และนครรัฐวาติกัน ซึ่งเสด็จเยือนราชอาณาจักรไทยอย่างเป็นทางการ
เพื่อเป็นการกระชับแน่นสายสัมพันธ์ระหว่างผู้นำของทั้ง 2 ศาสนา ในประเทศไทย
โดยมีผู้แทนคณะสงฆ์ไทย ผู้แทนรัฐบาล พร้อมด้วยผู้บริหารสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เฝ้ารับเสด็จ
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส และคณะผู้ติดตาม ถอดรองเท้าก่อนเดินเข้าไปภายในพระอุโบสถ เพื่อแสดงความเคารพต่อศาสนสถาน โดยมีคริสต์ศาสนิกชนชาวไทยรอเฝ้ารับเสด็จ
โอกาสนี้ สมเด็จพระสังฆราช มีพระดำรัสรับเสด็จ สรุปความว่า นับเป็นเหตุการณ์สำคัญทาง
ประวัติศาสตร์อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งพึงจดจารึกไว้เป็นศุภนิมิตแห่งน้ำใจไมตรีที่ศาสนจักรโรมันคาทอลิกกับพุทธจักรไทย มีสืบเนื่องกันมาอย่างแน่นแฟ้น ราบรื่น และงดงาม เป็นเวลาเนิ่นนาน
จากนั้นสมเด็จพระสังฆราช ถวายของที่ระลึกแด่สมเด็จพระสันตะปาปาฯ ประกอบด้วยพระรูปสมเด็จพระสังฆราช กรอบลายไทยถมเงิน, เหรียญพระรูปสมเด็จพระสังฆราช และหนังสือธรรมะ วินัยมุข และพุทธประวัติ ที่มีการแปลเป็นภาษาอังกฤษ ขณะที่สมเด็จพระสันตะปาปาฟานซิส ถวายเหรียญที่ระลึกแด่สมเด็จพระสังฆราช

โปรดเกล้าฯแต่งตั้ง4สมเด็จพระราชาคณะ

เมื่อวันที่ 25 ก.ค. พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานสถาปนา เลื่อนและแต่งตั้งสมณศักดิ์พระสงฆ์ จำนวน 74 รูป เนื่องในโอกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2562
สมณศักดิ์ทั้ง 74 ราชทินนาม แบ่งเป็น สมเด็จพระราชาคณะชั้นสุพรรณบัฏ 4 รูป พระราชาคณะเจ้าคณะรองชั้นหิรัญบัฏ 5 รูป พระราชาคณะชั้นธรรม 6 รูป พระราชาคณะชั้นเทพ 18 รูป พระราชาคณะชั้นราช 18 รูป พระราชาคณะชั้นสามัญ 23 รูป
ทั้งนี้ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์ ความว่า
พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่ทรงพระราชดําริว่า พระสงฆ์ซึ่งดํารงในสมณคุณมีอุปการะยิ่งแก่การพระศาสนา สมควรจะได้เลื่อนอิสริยฐานันดรในสมณศักดิ์สูงขึ้น มีอยู่ บัดนี้ จวบกาลมหามงคลสมัยเฉลิมพระชนมพรรษา ควรจะสถาปนาอิสริยยศพระสงฆ์ขึ้นไว้ เพื่อจักได้บริหารพระศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองสถาพรสืบไป จึงทรงพระกรุณาโปรดสถาปนา
1.พระพรหมวชิรญาณ วัดยานนาวา เป็นสมเด็จพระมหาธีราจารย์ (ปสฤทธิ์ เขมังกโร) 2.พระสาสนโสภณ วัดโสมนัสวิหาร เป็น สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (พิจิตร ฐิตวัณโณ) 3.พระพรหมมุนี วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เป็น สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (สุชิน อัคคชิโน) 4.พระพรหมมังคลาจารย์ วัดไตรมิตรวิทยาราม เป็น สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธัมมธโช)

โปรดเกล้าฯแต่งตั้ง20กรรมการมหาเถรสมาคม

วันที่ 14 ต.ค.2562 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พระบรมราชโองการ ประกาศแต่งตั้งกรรมการมหาเถรสมาคม ความว่า พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2561 มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2561 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 ตรี มาตรา 12 และมาตรา 15 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.2505 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2561 และมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2561
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งกรรมการมหาเถรสมาคม จำนวน 20 รูป ดังนี้
1.สมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พรหมคุตโต) วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ 2.สมเด็จพระธีรญาณมุนี (สมชาย วรชาโย) วัดเทพศิรินทราวาส 3.สมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปัญโญ) วัดไตรมิตรวิทยาราม 4.สมเด็จพระมหาธีราจารย์ (ปสฤทธิ์ เขมังกโร) วัดยานนาวา 5.สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (สุชิน อัคคชิโน) วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
6.สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธัมมธโช) วัดไตรมิตรวิทยาราม 7.พระวิสุทธิวงศาจารย์ (วิเชียร อโนมคุโณ) วัดปากน้ำ 8.พระพรหมโมลี (สุชาติ ธัมมรตโน) วัดปากน้ำ 9.พระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธัมมจิตโต) วัดประยุรวงศาวาส 10.พระพรหมวิสุทธาจารย์ (มนตรี คณิสสโร) วัดเครือวัลย์
11.พระพรหมเสนาบดี (พิมพ์ ญาณวีโร) วัดปทุมคงคา 12.พระวิสุทธาธิบดี (เชิด จิตตคุตโต) วัดสุทัศนเทพวราราม 13.พระพรหมมุนี (บุญเรือง ปุญญโชโต) วัดพระศรีมหาธาตุ 14.พระธรรมไตรโลกาจารย์ (พูนศักดิ์ วรภัททโก) วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม 15.พระธรรมธัชมุนี (อมร ญาโณทโย) วัดปทุมวนาราม
16.พระธรรมบัณฑิต (อภิพล อภิพโล) วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก 17.พระธรรมปริยัติโมลี (อาทร อินทปัญโญ) วัดบพิตรพิมุข 18.พระธรรมปาโมกข์ (สุนทร สุนทราโภ) วัดราชผาติการาม 19.พระธรรมกิตติเมธี (เกษม สัญญโต) วัดราชาธิวาสวิหาร 20.พระธรรมรัตนดิลก (สมเกียรติ โกวิโท) วัดอรุณราชวราราม

คณะสงฆ์ช่วยน้ำท่วมพื้นที่ภาคอีสาน

ช่วงปลายเดือน ส.ค.2562 พายุโซนร้อนโพดุล เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย ทำให้เกิดฝนตกหนักทั่วทุกภาคของประเทศ เป็นเหตุให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ในหลายพื้นที่ภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งจังหวัดร้อยเอ็ด ขอนแก่น มหาสารคาม อุบลราชธานี ชัยภูมิ ยโสธร เพชรบูรณ์ รวมถึงพิษณุโลก
ส่งผลทำให้วัด และบ้านเรือนประชาชน โรงเรียน ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก
ประชาชนในพื้นที่ต่างเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และจิตอาสา ต่างระดมกำลังกัน ลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือชาวบ้านกันอย่างเต็มที่ ไม่เว้นแม้แต่พระสงฆ์ ซึ่งทุ่มเทแรงใจแรงกายช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างแข็งขัน ตั้งแต่เริ่มเกิดวิกฤตน้ำท่วม
สมเด็จพระมหาธีราจารย์ (ปสฤทธ์ เขมังกโร) เจ้าอาวาสวัดยานนาวา กรรมการมหาเถรสมาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ ของมหาเถรสมาคม เดินทางลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือประชาชนถึงพื้นที่ พร้อมทั้งวัดวาอารามต่างๆ ที่จัดข้าวของให้ความอนุเคราะห์ตั้งโรงทานให้ความช่วยเหลือประชาชนในเบื้องต้นบรรเทาความเดือดร้อน
ยังมีคณะสงฆ์พิษณุโลก จัดตั้งโรงครัววิทยาลัยพระพุทธชินราชพิษณุโลก พระภิกษุ-สามเณร แม่ครัวของวิทยาลัย ช่วยกันหุงข้าว ทำอาหารกล่อง จำนวน 2,000 กล่อง นำไปแจกจ่ายช่วยเหลือให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วม
นอกจากนี้ ยังมีหน่วยงานรัฐบาลและภาคเอกชน มูลนิธิต่างๆ ลงพื้นที่เข้าให้ความช่วยเหลืออีกด้วย

ดราม่าระอุ-พระพุทธรูปอุลตร้าแมน

เหตุเกิดจากภาพวาดผลงานศิลปะ พระพุทธรูปอุลตร้าแมน ของนักศึกษาหญิงปี 4 โปรแกรมวิชาศิลปศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ที่ถูกนำมาจัดแสดงที่ห้างเทอร์มินอล 21 จ.นครราชสีมา ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการลบหลู่ดูหมิ่นพระพุทธศาสนาไม่เหมาะสม
ขณะเดียวกัน ภาพวาดดังกล่าว มีการนำไปเปิดประมูล ปรากฏว่าได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เงินที่ประมูลภาพรวมกันได้ประมาณเกือบ 2 ล้านบาท
วันที่ 7 ก.ย.2562 ที่วัดบึง พระอารามหลวง นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา พร้อมด้วย ผู้บริหารมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา เดินทางเข้ากราบพระเทพสีมาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา โดยนำนักศึกษาหญิงเจ้าของภาพวาด และอาจารย์ผู้สอน เข้ากราบขอขมาต่อเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา ในความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ที่วาดภาพในลักษณะนี้ออกมา
ต่อมา กลุ่มชาวพุทธพลังแผ่นดิน เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนักศึกษา และผู้เกี่ยวข้องรวม 5 คน อ้างการกระทำดังกล่าวลบหลู่พระพุทธศาสนา
อย่างไรก็ตาม เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ ว่าการแจ้งความดำเนินคดีกับนักศึกษาหญิงเจ้าของภาพวาด เป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ ทั้งที่เจ้าตัวออกมายอมรับผิดแล้ว
ก่อนที่กลุ่มชาวพุทธฯ จะถอนแจ้งความในท้ายที่สุด !!! เรื่องจบลงด้วยดี

อดีตสมภารวัดสระเกศฯ-วัดสามพระยา

ได้ประกันตัว-คดีเงินทอนวัดจากคดีเงินทอนวัดสะเทือนวงการสงฆ์ เมื่อกลางปี พ.ศ.2561 พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (ในขณะนั้น) เดินทางไปร้องทุกข์กล่าวโทษคดีทุจริตในพื้นที่กรุงเทพฯ ต่อกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นข้อหาการทุจริตเกี่ยวกับการทุจริตงบการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา แผนกธรรม และแผนกบาลี และงบเผยแผ่พระพุทธศาสนา มีความเสียหายทั้งสิ้น 70 ล้านบาท
นำมาซึ่งปฏิบัติการตรวจค้นวัดดังมีชื่อเสียงและจับกุมพระชั้นผู้ใหญ่ 2 รูป ซึ่งเป็นกรรมการมหาเถรสมาคม
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 15 ส.ค.2562 ศาลอุทธรณ์ มีคำสั่งเรื่องการปล่อยชั่วคราว พระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขโข) ตีราคาหลักประกัน 2.5 ล้านบาท และวันที่ 26 ส.ค.2562 ศาลอุทธรณ์ มีคำสั่งเรื่องการปล่อยชั่วคราว พระพรหมดิลก (เอื้อน กลิ่นสาลี) ตีราคาหลักประกัน 2 ล้านบาท
ศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยไม่ปรากฏพฤติการณ์ใดที่ส่อว่าจะหลบหนี ประกอบกับโจทก์ไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ปล่อยจำเลยชั่วคราวในระหว่างพิจารณา และห้ามจำเลย เดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้น โดยให้ศาลชั้นต้น กำหนดเงื่อนไขให้จำเลย มารายงานตัวต่อศาลชั้นต้นทุก 1 เดือน ตามวันเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ไปจนกว่าศาลชั้นต้นจะมีคำพิพากษา

พ.ร.บ.การศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ.2562

วันที่ 16 เม.ย.2562 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พ.ร.บ.การศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ.2562
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรมีกฎหมายว่าด้วยการศึกษาพระปริยัติธรรม จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติทำหน้าที่รัฐสภา คือ พระราชบัญญัติการศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ.2562
สาระสำคัญของกฎหมายดังกล่าว กำหนดเทียบวุฒิการศึกษาให้ผู้ที่สำเร็จการศึกษานักธรรม-บาลี ดังต่อไปนี้ คือ แผนกธรรมสนามหลวง ชั้นนักธรรมเอก เป็นการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 2.แผนกบาลีสนามหลวง ชั้นเปรียญธรรม 3 ประโยค เป็นการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
มาตรา 23 ให้การศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ที่ได้จัดให้แก่พระภิกษุและสามเณร เป็นการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นหรือระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย แล้วแต่กรณี
และมาตรา 24 ให้ผู้สำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรพระปริยัติธรรม แผนกธรรมและแผนกบาลี สนามหลวง ชั้นเปรียญธรรม 9 ประโยค มีวิทยฐานะระดับปริญญาตรี

ชงมส.แก้ปัญหาแก๊งป่วนงานบวช

เกิดเหตุอุกอาจ ช่วงบ่ายวันที่ 24 ก.พ.2562 กลุ่มวัยรุ่นจัดงานบวชที่วัดสิงห์ มีการใช้วงดนตรี เครื่องเสียง ส่งเสียงดังไปถึงโรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ ซึ่งขณะนั้นกำลังจัดการสอบอยู่ แม้ว่าเจ้าอาวาสวัดสิงห์ จะออกมาเตือน อีกทั้ง ผอ.โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์
ขอความร่วมมือให้เบาเสียงลง แต่ผู้จัดงานบวชดังกล่าวส่วนหนึ่งกลับไม่พอใจ บุกไปที่โรงเรียน ทำร้ายครู เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
และนักเรียนที่กำลังสอบอยู่ จนได้รับบาดเจ็บ ถูกเจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง
ต่อมา แก๊งวัยรุ่นดังกล่าว เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ
โดยตำรวจแจ้งข้อหา 3 ข้อหา คือ บุกรุกสถานที่ราชการ, ทำลายทรัพย์สินในสถานที่ราชการ และทำร้ายร่างกาย
ร้อนถึงที่ประชุมมหาเถรสมาคม มีมติให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แจ้งกำชับไปยังเจ้าคณะผู้ปกครองทั่วประเทศ ให้ดำเนินการตามมติมหาเถรฯ ในเรื่อง การห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในบริเวณวัด การห้ามสูบบุหรี่ในบริเวณวัด และเรื่องการแสดงที่ไม่เหมาะสมภายในวัดของพระพุทธศาสนา ให้ทุกวัดปฏิบัติตามระเบียบมหาเถรสมาคม
ว่าด้วยการจัดงานวัด พ.ศ.2537 ข้อ 7 อย่างเคร่งครัด
เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2562 ที่ศาลอาญาธนบุรี นัดอ่านคำพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยทั้ง 16 คน โดยไม่รอลงอาญา ร่วมชดใช้โรงเรียน-นักเรียนกว่า 1.5 แสนบาท รอลงอาญา 5 ราย
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ควบคุมตัวจำเลยทั้ง 16 ไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษธนบุรีต่อไป

อัญเชิญหน่อต้นพระศรีมหาโพธิ์

เนื่องในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นอีกเหตุการณ์ที่สร้างความปีติยินดีแก่ชาวพุทธ!! เมื่อวันที่ 18 ก.พ.2562 เวลา 06.30 น. ที่ห้องรับรองพิเศษ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ผู้แทนคณะสงฆ์ไทย นำโดยพระโสภณวชิราภรณ์ (ไสว โชติโก) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และพระศากยวงศ์วิสุทธิ์ (อนิลมาน ธัมมสากิโย) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร
อัญเชิญหน่อต้นพระศรีมหาโพธิ์จากประเทศศรีลังกามาถึงประเทศไทย ตามที่รัฐบาลศรีลังกามีความประสงค์ที่จะมอบหน่อต้นพระศรีมหาโพธิ์ดังกล่าวให้กับรัฐบาลไทย เนื่องในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
โดยมหาเถรสมาคม มีมติคัดเลือกวัดวชิรธรรมาราม อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นสถานที่ปลูก
จากนั้น อัญเชิญหน่อต้นพระศรีมหาโพธิ์ ไปถึงยังวัดวชิรธรรมาราม พร้อมทั้งพิธีสมโภชหน่อต้นพระศรีมหาโพธิ์
เวลา 09.09 น. วันที่ 19 ก.พ. ซึ่งตรงกับวันมาฆบูชา ที่วัดวชิรธรรมาราม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมภริยา เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในการปลูกหน่อต้นพระศรีมหาโพธิ์ โดยมีสมเด็จพระวันรัต เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ผู้ปฏิบัติหน้าที่เจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต รักษาการเจ้าอาวาสวัดวชิรธรรมาราม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วย ปาเลกามะ สิรินิวาสะ นายะกะ เถโร เจ้าอาวาสวัดพระศรีมหาโพธิ์ ในฐานะผู้แทนจากรัฐบาลศรีลังกา ร่วมในพิธี
พร้อมกันนี้ เจ้าอาวาสวัดพระศรีมหาโพธิ์ ยังมอบเอกสารสิทธิ์ในการครอบครองหน่อต้นพระศรีมหาโพธิ์ให้กับสมเด็จพระวันรัตด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน