หลวงปู่สี ฉันทสิริ วัดเขาถ้ำบุญนาค

คอลัมน์ อริยะโลกที่ 6

หลวงปู่สี ฉันทสิริ วัดเขาถ้ำบุญนาค วันอาทิตย์ที่ 23 ก.พ.2563 น้อมรำลึกครบรอบ 43 ปี มรณกาล “หลวงปู่สี ฉันทสิริ” วัดเขาถ้ำบุญนาค ต.ตาคลี อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ พระเกจิชื่อดัง เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวนครสวรรค์และจังหวัดใกล้เคียง

วัตถุมงคลที่จัดสร้างแต่ละรุ่นล้วนแต่ได้รับความสนใจ โดยเฉพาะเหรียญ ปีพ.ศ.2519 ถือเป็นเหรียญใหม่ที่ได้รับความนิยม

เป็นชาวอำเภอรัตนบุรี จ.สุรินทร์ มีนามเดิม ลี เมื่อมีการใช้นามสกุล ใช้นามสกุลว่า ดำริ เกิดเมื่อปีจอ พ.ศ.2392 ตรงกับปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว

ชีวิตในวัยเด็กติดตามบิดาออกล่าสัตว์มาเป็นอาหารและเก็บของป่าไปขาย

อายุ 11 ขวบ บิดานำไปฝากกับพระอาจารย์อินทร์ พระธุดงค์ซึ่งเคยเป็นสหายเก่า จึงตามพระอาจารย์อินทร์ตระเวนธุดงค์ไปด้วยกัน จาก จ.สุรินทร์ จนกระทั่งมาถึงกรุงเทพฯ ในปีพ.ศ.2403 จากนั้นได้พามากราบนมัสการพระสหธรรมิก คือ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ซึ่งขณะนั้นดำรงสมณศักดิ์เป็นพระเทพกวี

สั่งสอนพระธรรมวินัยและถ่ายทอดวิชาการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอักขระขอม ไทย และวิทยาคม รวมทั้งการปฏิบัติสมาธิ

พ.ศ.2407 มีการบวชพระและเณรจำนวน 108 รูป เพื่อสมโภชสมณศักดิ์เป็นสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)

ขณะนั้นอายุ 15 ปี ได้บรรพชาด้วย โดยสมเด็จโตเป็นพระอุปัชฌาย์ และอยู่วัดระฆังฯ เพื่อศึกษาวิชาอาคมต่างๆ กับสมเด็จโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการทำผงวิเศษทั้งห้าอันศักดิ์สิทธิ์

กระทั่งปีพ.ศ.2411 กลับจากธุดงค์แวะเยี่ยมสมเด็จโต จึงขออนุญาตสมเด็จโตตาม พระอาจารย์อินทร์กลับไปเยี่ยมบิดา-มารดา เมื่อกลับไปเห็นสภาพครอบครัวซึ่งมีความยากลำบาก จึงขออนุญาตพระอาจารย์อินทร์ สึกออกมาช่วยเหลือครอบครัว

ใช้ชีวิตในวัยหนุ่มอย่างโชกโชน นอกจากช่วยบิดามารดาทำไร่ทำนาแล้ว ยังมีอาชีพรับจ้างคุมฝูงวัวไปขายข้ามจังหวัด

อายุ 29 ปี เข้ารับราชการเป็นทหารเรืออยู่หลายปี แล้วออกมาประกอบอาชีพค้าวัวค้าควายอยู่ระยะหนึ่ง

อายุ 39 ปี เกิดความเบื่อหน่ายทางโลก จึงตัดสินใจอุปสมบทที่วัดบ้านเส้า ซึ่งอยู่ใน อ.บ้านหมี่ ปัจจุบัน มีพระครูธรรมขันธ์สุนทร เป็นพระอุปัชฌาย์

จำพรรษาได้ระยะหนึ่งจึงออกธุดงค์มาจำพรรษาที่ถ้ำเขาไม้เสียบ ต.ช่องแค จ.นครสวรรค์ ฝึกวิปัสสนากัมมัฏฐานเป็นเวลา 3 ปี จากนั้นมาท่านก็ถือปฏิบัติในการออกธุดงค์ไปตามสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศไทย จากเหนือถึงใต้ ตะวันออกถึงตะวันตก รวมทั้งประเทศลาว ประเทศพม่า เลยไปประเทศอินเดีย เกือบตลอดระยะเวลาที่ท่านบวช ได้ไปสักการะสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนามากมาย

พบพานพระเกจิชื่อดังหลายต่อหลายรูป พระสหธรรมิกที่มีความสนิทสนม สนทนาข้อธรรมและแลกเปลี่ยนสรรพวิชาซึ่งกันและกัน อาทิ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า, หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ และหลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน

นอกจากนี้ ยังเป็นพระอาจารย์ของ พระเถระชื่อดังหลายรูป เช่น หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่, หลวงปู่บุดดา ถาวโร วัดกลางชูศรีเจริญสุข จ.ชัยนาท และหลวงปู่เย็น วัดสระเปรียญ จ.ชัยนาท เป็นต้น

อายุประมาณ 90 ปี สร้างวัดหนองลมพุก อ.โนนสังข์ จ.อุดรธานี และอยู่จำพรรษามาโดยตลอด จนถึงปีพ.ศ.2512 พระครูนิวิฐปริยัติคุณ (พระอาจารย์สมบูรณ์) อดีตเจ้าอาวาสวัดเขาถ้ำบุญนาค ไปนิมนต์ลงมาช่วยสร้างวัดเขาถ้ำบุญนาค ซึ่งตอนนั้นยังเป็นสำนักสงฆ์เล็กๆ จนเจริญรุ่งเรืองสืบมา

เป็นพระสมถะ ไม่ยึดติดความสะดวกสบาย จึงคงอยู่ที่กุฏิไม้เก่าๆ หลังเล็กๆ ไม่ยอมย้ายไปกุฏิหลังใหม่ที่อดีตเจ้าอาวาสตั้งใจสร้างให้

มรณภาพอย่างสงบ เมื่อวันที่ 23 ก.พ.2520

คณะศิษยานุศิษย์นำสังขารบรรจุในโลงแก้ว ประดิษฐานไว้ที่กุฏิหลังใหม่ เพื่อให้ไปกราบไหว้สักการะ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน