พระราชสารธรรมมุนี – วันอังคารที่ 12 ม.ค.2564 น้อมรำลึกครบรอบ 89 ปี ชาตกาล “พระราชสารธรรมมุนี” หรือ “หลวงปู่บัวพันธ์ ปัญญาวโร” อดีตเจ้าอาวาสวัดขวัญเมืองระบือธรรม (วัดป่า) อ.บรบือ จ.มหาสารคาม พระเถระชั้นผู้ใหญ่ที่พุทธศาสนิกชนในพื้นที่ให้ความเลื่อมใสศรัทธา

มีนามเดิม บัวพันธ์ อินทร์นอก เกิดเมื่อวันที่ 12 ม.ค.2475 ที่บ้านดอนงัว อ.บรบือ จ.มหาสารคาม บิดา-มารดา ชื่อนายสิงห์และนางหล่า อินทร์นอก หลังเรียนจบการศึกษาชั้น ป.4 ออกมาช่วยครอบครัวทำมาหากินอยู่นานหลายปี แต่ด้วยความที่เป็นคนใฝ่เรียนใฝ่รู้ เมื่ออายุ 16 ปี เข้าพิธีบรรพชาเป็นสามเณร ที่วัดบ้านหนองขาม จ.มหาสารคาม

อายุ 20 ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดบ้านดอนงัว ต.กำพี้ อ.บรบือมีหลวงพ่อพรมมี เจ้าอาวาสวัดบ้านหนองขาม เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์อ้วน เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์บุญมา เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ในปี พ.ศ.2497 เดินทางไปศึกษาต่อที่สำนักเรียนวัดธาตุ จ.ขอนแก่น สอบได้เปรียญธรรม 4 ประโยค และสอบได้มัธยมศึกษาตอนปลาย ก่อนเดินทางกลับมาจำพรรษาที่วัดบ้านดอนงัว

ลำดับงานปกครอง พ.ศ.2504 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดดอนงัว พ.ศ.2506 เป็นเจ้าคณะตำบลกำพี้ พ.ศ.2510 เป็น พระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2512 ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบรบือวราราม อ.บรบือ จ.มหาสารคาม

พ.ศ.2543 ได้รับแต่งตั้งเป็นรองเจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม

ต่อมาย้ายมาอยู่จำพรรษาที่วัดขวัญเมืองระบือธรรม (วัดป่า)

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2515 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะอำเภอชั้นเอก ในราชทินนามที่พระครูปทุมวรกิจ พ.ศ.2519 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นพิเศษ พ.ศ.2545 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่พระญาณนายก

พ.ศ.2552 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชสารธรรมมุนี

ตลอดเวลาที่ปฏิบัติงานด้านปกครองคณะสงฆ์ ยึดหลักเมตตาธรรมเป็นที่ตั้ง และปฏิบัติศาสนกิจตามหลักพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด วัตรปฏิบัติเสมอต้นเสมอปลาย คือการปฏิบัติกัมมัฏฐาน จึงได้รับการแต่งตั้ง เป็นพระวิปัสสนาจารย์ของกรมการศาสนา

นอกจากนี้ ยังให้การสนับสนุนการศึกษาพระภิกษุ-สามเณร เป็นผู้ริเริ่ม ก่อตั้งโรงเรียนปริยัติธรรมขึ้นที่วัดขวัญเมืองระบือธรรม เป็นสำนักเรียนใหญ่ของอำเภอบรบือ

เคยไปศึกษาวิทยาคมจากพระเกจิ อาจารย์ชื่อดังของภาคอีสานหลายรูป อาทิ หลวงปู่ทองมา ถาวโร วัดสว่างท่าสี จ.ร้อยเอ็ด, หลวงปู่บุญศรี ยโสธโร วัดดงเค็ง จ.มหาสารคาม เป็นต้น

ชื่นชอบความสงบ อนุรักษ์ธรรมชาติ ป่าไม้ ทุกปีภายในวัดขวัญเมืองระบือธรรม ซึ่งเป็นวัดป่าที่มีต้นไม้นานาพันธุ์ขึ้นอยู่ หนาแน่น ท่านจะนำพาพระภิกษุ-สามเณรและญาติโยมร่วมกันปลูกไม้ยืนต้น ไม้ประดับซ่อมเสริม ส่งผลให้บรรยากาศภายในวัดแห่งนี้มีแต่ความสงบวิเวกเหมาะสำหรับการปฏิบัติกิจของสงฆ์เป็นอย่างยิ่ง

สำหรับหลักธรรมคำสอนที่ท่านพร่ำสอนญาติโยมมาตลอด เพื่อใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตคือ การให้รักษาศีล 5 หากปฏิบัติตามได้จะทำให้ชีวิตของตนเองและครอบครัวพานพบแต่ความสงบสุข

หลังจากตรากตรำอุทิศตนรับใช้พระพุทธศาสนาอย่างยาวนาน ด้วยความ ไม่เที่ยงของสังขาร ท่านเจ็บป่วยบ่อยครั้ง

ละสังขารไปด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2559 สิริอายุ 84 ปีพรรษา 64

เชิด ขันตี ณ พล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน