หลวงพ่อเหลือ นันทสาโร – วันอังคารที่ 19 ม.ค.2564 น้อมรำลึกครบ 76 ปี มรณกาล “พระครูนันทธี ราจารย์” หรือ “หลวงพ่อเหลือ นันทสาโร” พระเกจิชื่อดังแห่งวัดสาวชะโงก อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ผู้สร้างเครื่องราง “ปลัดขิก” หนึ่งในเครื่องรางของขลังยอดนิยมของ คนไทยมาแต่โบร่ำโบราณ

กล่าวได้ว่า ปลัดขิก หลวงพ่อเหลือ วัดสาว ชะโงก เป็นหนึ่งในชุดเบญจภาคีเครื่องรางของขลังที่ได้รับความนิยมและแสวงหา

มีนามเดิม เหลือ รุ่งสะอาด เป็นชาวฉะเชิงเทราโดยกำเนิด เกิดเมื่อวันที่ 9 ก.ค.2405 ที่ ต.บางเล่า อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา บิดา-มารดา ชื่อ นายรุ่ง-นางเพชร รุ่งสะอาด

ในช่วงวัยเยาว์ เป็นคนขยันขันแข็ง ช่วยงานบิดามารดาและญาติพี่น้องจนเป็นที่รักใคร่ของทุกคน เมื่อถึงวัยอันควรในปี พ.ศ.2428 เข้าพิธีอุปสมบท ที่พัทธสีมาวัดสาวชะโงก อ.บางคล้า โดยมีพระอาจารย์คง วัดใหม่บางคล้า เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอธิการขิก วัดสาวชะโงก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์โต วัดสาวชะโงก เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา นันทสาโร

ศึกษาอักษรขอม-บาลี และวิปัสสนากัมมัฏฐาน จากพระอธิการขิก พระกรรม วาจาจารย์ ผู้มีวิทยาคมเข้มขลังจนแตกฉาน จากนั้นเดินทางไปฝากตัวเป็นศิษย์กับพระเกจิผู้ทรงคุณอีกหลายสำนัก อาทิ หลวงพ่อดำ วัดกุฎี จ.ปราจีนบุรี และหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว จ.กาญจนบุรี เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังเป็นสหธรรมิกกับพระเกจิชื่อดังอีกหลายรูป อาทิ หลวงพ่อเสือ วัดไผ่สามกอ ผู้เชี่ยวชาญด้านทำน้ำมนต์, หลวงพ่อนก วัดสังกะสี ศิษย์หลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน, หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา, หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก, หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม, หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ ฯลฯ

เคร่งครัดในพระธรรมวินัย รักสมถะ มีเมตตาธรรมสูงส่ง มุ่งทำนุบำรุงพระบวรพุทธศาสนา สร้างศาสนสถานและศาสนวัตถุต่างๆ ภายในวัดสาวชะโงกและวัดวาอารามอื่นๆ ใน จ.ฉะเชิงเทรา และใกล้เคียง ตั้งแต่ยังเป็นพระลูกวัด จนปี พ.ศ.2461 ได้รับแต่งตั้งเป็นรองเจ้าอาวาสวัดสาวชะโงก และในปี พ.ศ.2474 ได้เป็นเจ้าอาวาสวัดสาวชะโงก

ปกครองและพัฒนาวัดอย่างต่อเนื่อง จนวัดเจริญรุ่งเรืองเป็นที่เชิดหน้าชูตา ทั้งยังพัฒนาด้านการศึกษาแก่กุลบุตรกุลธิดา ได้สร้างโรงเรียนประชาบาลขึ้นที่วัดสาวชะโงก ชื่อ โรงเรียนวัดสาวชะโงก (นันทประชาสรรค์)

หลวงพ่อเหลือเป็นพระเกจิที่มีคุณวิเศษในหลายด้าน มักได้รับนิมนต์เข้าร่วมพิธีปลุกเสกใหญ่เสมอ นอกจากนี้ เมื่อครั้งสงครามอินโดจีน ก็เป็นหนึ่งในพระเกจิ ที่สร้างผ้ายันต์แดง แจกทหารในสงคราม แต่ที่โดดเด่นเป็นที่กล่าวถึงคือปลัดขิก

ด้วยสังขารไม่เที่ยง มรณภาพอย่างสงบ เมื่อวันศุกร์ที่ 19 ม.ค.2488 เวลา 04.00 น. ด้วยโรคประจำตัวและความชรา สร้างความเศร้าเสียใจแก่คณะศิษยานุศิษย์ และบรรดาญาติมิตรเป็นอย่างยิ่ง

การจัดงานปลงศพ เมื่อปี พ.ศ.2489 ได้รับพระราชทานเพลิง มีศิษยานุศิษย์และ ผู้เคารพนับถือเดินทางมาจากใกล้และไกลเป็นจำนวนมาก

ขณะเดียวกัน ทางวัดได้จัดสร้างพระเจดีย์ พระครูนันทีราจารย์ (หลวงพ่อเหลือ) แล้วเสร็จและได้บรรจุอัฐิไว้เมื่อปี พ.ศ.2490 เพื่อเป็นอนุสรณ์สืบไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน