มงคลข่าวสด : พระพรหมวชิรโมลีวัดศาลาลอย จ.สุรินทร์

พระพรหมวชิรโมลี : วันที่ 6 มิ.ย.2564 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระบรมราชโองการโปรดสถาปนา พระธรรมโมลี ขึ้นเป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรอง มีราชทินนามตามที่จารึกในหิรัญบัฏว่า พระพรหมวชิรโมลี สถิต ณ วัดศาลาลอย พระอารามหลวง จังหวัดสุรินทร์ มีฐานานุศักดิ์ตั้งฐานานุกรมได้ 8 รูป

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 5 มิ.ย.2564 ประกาศ ณ วันที่ 6 มิ.ย.2564

พระพรหมวชิรโมลี (ทองอยู่ ญาณวิสุทโธ) อดีตเจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ พระเถระแห่งอีสานใต้ ซึ่งเป็นที่เคารพกราบไหว้ ชาวบ้านเรียกขานว่า “หลวงพ่อพระมหาทองอยู่” อีกทั้งได้รับการยกย่องเกียรติคุณให้เป็นยอดพระนักการศึกษา

ปัจจุบัน สิริอายุ 87 ปี พรรษา 67 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดศาลาลอย อ.เมือง จ.สุรินทร์ และที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 11

มีนามเดิมว่า ทองอยู่ พิศลืม เกิดเมื่อวันอังคารที่ 25 ก.ค.2476 ที่บ้านตะตึงโถง ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ บิดา-มารดาชื่อ นายเคล็มและนางแคน พิศลืม

ช่วงวัยเยาว์ สำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนบ้านตะตึงไถง อ.เมือง จ.สุรินทร์

อายุ 16 ปี ย่างเข้าสู่วัยรุ่น เบนเข็มมุ่งสู่ร่มกาสาวพัสตร์ บรรพชาเมื่อวันที่ 17 พ.ค.2492 ที่วัดกลางสุรินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ โดยมีพระประภากรคณาจารย์ (เดื่อ ปภากโร) เจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ เป็นพระอุปัชฌาย์

ครั้นอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบทเมื่อวันที่ 10 พ.ค.2497 ที่พัทธสีมาวัดกลางสุรินทร์ มีพระประภากรคณาจารย์ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูวิภัชกัลยาณธรรม (จันทร์) เจ้าอาวาสวัดศาลาลอย จ.สุรินทร์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูสิทธิการโกศล (เทพ นันโท) วัดกลางสุรินทร์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมอย่างมุ่งมั่น พ.ศ.2497 สามารถสอบไล่ได้นักธรรมชั้นเอก จากสำนักศาสนศึกษาวัดศาลาลอย

พ.ศ.2511 สำเร็จการศึกษาระดับปริญ ญาตรีพุทธศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย กรุงเทพฯ พ.ศ.2513 สอบไล่ได้เปรียญธรรม 9 ประโยค สำนักศาสนศึกษาวัดบุญวาทย์วิหาร ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ลำปาง

พ.ศ.2517 สำเร็จการศึกษาระดับปริญ ญาโท อักษรศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยมัทราส ประเทศอินเดีย

พ.ศ.2552 สำเร็จปริญญาพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาพระพุทธศาสนา (พธ.ด.) มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ

แม้จะโดดเด่นในด้านการศึกษา แต่งานด้านปกครองหาได้ย่อหย่อน ด้วยเอาใจใส่กิจการคณะสงฆ์

ลำดับงานปกครอง พ.ศ.2523 เป็นเจ้าอาวาสวัดศาลาลอย พ.ศ.2529 เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2535 เป็นเจ้าอาวาสวัดศาลาลอย พระอารามหลวง พ.ศ.2540 เป็นเจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์
พ.ศ.2556 เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ พ.ศ.2558 เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 11

ส่วนงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา เป็นรองประธานกลุ่มเผยแผ่พระพุทธศาสนา จ.สุรินทร์ และเป็นประธานจัดบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนเฉพาะส่วนของวัดศาลาลอย ในแต่ละปีมีเยาวชนเข้าบรรพชาเป็นสามเณรไม่ต่ำกว่า 100 รูป และมีเยาวชนสตรีร่วมปฏิบัติธรรมไม่ต่ำกว่า 150 คน

นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมเผยแผ่พระพุทธศาสนาประจำปี ในเทศกาลวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา มีการจัดปฏิบัติธรรม จัดวิธีเวียนเทียน มีคณะครูอาจารย์จากสถานศึกษาต่างๆ ร่วมกิจกรรมแต่ละปี ร่วมพันคน

ส่วนภายนอกวัด มอบหมายให้พระภิกษุสามเณรผู้มีภูมิความรู้เปรียญธรรม ออกปฏิบัติงานร่วมกับพระธรรมทูตของอำเภอเมืองสุรินทร์ พร้อมทั้งสอนศีลธรรมในโรงเรียน ตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย

ด้านการศึกษาสงเคราะห์ ท่านได้เป็นประธานศูนย์การศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ วัดศาลาลอย และได้จัดตั้งเป็นศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์ในวัด ปัจจุบันมีเด็กในความอุปถัมภ์จำนวนกว่า 150 คน รวมทั้ง ยังได้จัดตั้งศูนย์วัฒนธรรมไทยแผนกดนตรีไทยเพื่อสืบสานความเป็นไทยให้คงอยู่ชั่วลูกหลาน

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2524 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญเปรียญที่พระศรีธีรพงศ์ พ.ศ.2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช ที่พระราชวิสุทธิเมธี พ.ศ.2542 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพปัญญาเมธี

พ.ศ.2548 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมโมลี

ล่าสุด พระบรมราชโองการโปรดสถาปนาขึ้นเป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรอง มีราชทินนามตามที่จารึกในหิรัญบัฏว่า พระพรหมวชิรโมลี

แม้ทุกวันนี้ จะสูงด้วยตำแหน่งหน้าที่งานปกครองและสมณศักดิ์ แต่วัตรปฏิบัติของท่านยังคงเดิมทุกประการ

เน้นสมถะเรียบง่าย ดุจเดิมไม่เปลี่ยน เป็นพระเถระผู้ใหญ่ที่น่าเลื่อมใสศรัทธา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน