พระราชวัชรรังษี
เจ้าตำรับ‘มนต์พิธี’

มงคลข่าวสด

วันที่ 21 มิ.ย.2564 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระบรมราชโองการโปรดพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์ พระครูอรุณธรรมรังษี เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชวัชรรังษี พุทธมนต์พิธี ธุราทร มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี สถิต ณ วัดอรุณราชวราราม

มีฐานานุศักดิ์ตั้งฐานานุกรมได้ 4 รูป

ตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย.2564 ประกาศ ณ วันที่ 21 มิ.ย.2564 เป็นปีที่ 6 ในรัชกาลปัจจุบัน

พระราชวัชรรังษี (เอี่ยม สิริวัณโณ) ต้นตำรับหนังสือ “มนต์พิธี” เล่มสีเหลือง ซึ่งรวบรวมและเรียบเรียงบทสวดมนต์สำคัญ ต่างๆ อย่างครบถ้วน

กล่าวได้ว่า เป็นตำราที่ทุกวัดในประเทศไทย ล้วนต้องมีไว้ กุลบุตรใดจะบวช ต้องศึกษาจากหนังสือนี้ทั้งสิ้น

ปัจจุบัน สิริอายุ 88 ปี พรรษา 68 ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ

มีนามเดิมว่า เอี่ยม สุภราช เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 1 ก.ย.2476 เกิดที่บ้านพังตรุ หมู่ที่ 1 ต.พังตรุ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี บิดา-มารดา ชื่อ นายกรุย และ นางแคล้ว สุภราช (ศรีสุข) ครอบครัวประกอบอาชีพทำนา

ช่วงปฐมวัย เรียนหนังสือที่โรงเรียนวัดพังตรุ เมื่อจบชั้น ป.2 บิดาถึงแก่กรรม อยู่กับมารดา เมื่อป่วยหนัก มารดาถึงจุดธูปเทียนบนว่า ถ้าหายจะให้บวชเณร 7 วัน ปรากฏว่าหายป่วย ต่อมา เรียนหนังสือจนจบชั้น ป.4 ไม่ทันได้บวช แก้บน มารดาก็ถึงแก่กรรม จึงต้องอยู่กับยายและน้าสาว กระทั่งป่วยหนักอีก จึงเล่าเรื่องแม่บนให้ยายฟัง ยายจึงบนต่อ เพิ่มให้อีก 7 วัน รวม 14 วัน ไม่ช้าก็หายป่วย

วันที่ 31 ส.ค.2493 จึงบวชแก้บน ที่วัดสาลวนาราม (ดอนตาเพชร) และฝากไว้กับ หลวงพ่อซ้ง เจ้าอาวาสวัดสาลวนาราม และเจ้าคณะตำบลพนมทวน เป็นพระอุปัชฌาย์

หลังบรรพชา พระอาจารย์เหลือ รอง เจ้าอาวาสและครูสอนนักธรรม เกณฑ์ให้ท่องสวดมนต์ เจ็ดตำนาน สิบสองตำนาน ทำวัตรเช้า-เย็นแปล ให้ท่องนวโกวาท คู่มือพระพุทธประวัติ (บางตอน) ฯลฯ

อยู่จำพรรษาที่วัดสาลวนาราม ร่วมสำนักเรียนพระปริยัติธรรม แผนกธรรม กับพระเทพเมธากร วัดราษฎร์ประชุมชนาราม และพระธรรมคุณาภรณ์ วัดไชยชุมพลชนะสงคราม

พ.ศ.2496 สอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ตามลำดับ จากสำนักเรียนวัดบ้านทวน อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี

อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันศุกร์ที่ 1 พ.ค.2496 ที่วัดเบญพาด (ใกล้ญาติพังตรุ) อ.พนมทวน โดยมีพระปลัดซ้ง วัดสาลวนาราม เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอธิการเพิ่ม วัดดอนงิ้ว เป็นพระกรรม วาจาจารย์ และพระอาจารย์เหลือ วัดสาลวนาราม เป็นพระอนุสาวนาจารย์

พำนักอยู่วัดสาลวนาราม จากนั้นย้ายไปวัดไชยชุมพลชนะสงคราม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี

พ.ศ.2499 ย้ายมาอยู่จำพรรษาวัดคูหาสวรรค์ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี รับหน้าที่เป็นครูสอน นักธรรม

จากนั้น พ.ศ.2500 มาอยู่วัดช่องลม (วัดสุทธิวาตวราราม) ต.ท่าฉลอม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โดยหลวงพ่อทองดี เจ้าอาวาสวัดคูหาสวรรค์ เป็นผู้ฝากฝังกับหลวงพ่อแก้ว วัดช่องลม คอยช่วยงานคณะสงฆ์ ด้วยหลวงพ่อ แก้ว เป็นเจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาคร ทำให้มีโอกาสเรียนรู้งานของคณะสงฆ์

ต่อมา พ.ศ.2507 ย้ายอยู่วัดอรุณราชวราราม ช่วยงานพิมพ์หนังสือของคณะสงฆ์

พ.ศ.2511 ย้ายไปเป็นเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดชลบุรี ที่วัดราษฎร์บำรุง และเรียบเรียงหนังสือมนต์พิธี โดยรวมคำสองคำ คือ สวดมนต์ และศาสนพิธี เป็นคำย่อว่า “มนต์พิธี” ซึ่งต่อมาได้รับความนิยมอย่างมาก รวมทั้งเริ่มจำหน่ายเพื่อหาทุนมาจัดพิมพ์ได้อย่างต่อเนื่อง

ต่อมา กลับไปที่วัดอรุณราชวรารามอีกครั้ง เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.2528

ลำดับงานปกครอง พ.ศ.2511 เป็นเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดชลบุรี พ.ศ.2528 เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม

พ.ศ.2529 เป็นรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดประดู่ในทรงธรรม

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2534 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโทที่ พระครูอรุณธรรมรังษี พ.ศ.2549 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นเอก ในราชทินนามเดิม

ล่าสุด วันที่ 20 มิ.ย.2564 เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชวัชรรังษี

พระราชวัชรรังษี กล่าวปรารภถึงหนังสือ มนต์พิธี ว่า “ได้รวบรวมเรียบเรียงไว้นั้น ก็เป็นที่ชื่นชอบอยู่ด้วย หนังสือเล่มนี้ รวบรวมบทสวดมนต์ พระมหาคาถา ทั่วแผ่นดินสยามที่ครบถ้วนสมบูรณ์ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับพระภิกษุ-สามเณร ผู้เตรียมตัวบวช ตลอดจนพุทธศาสนิกชนทั่วไปที่สนใจในพระศาสนา เปรียบเสมือนเป็นมรดกทางธรรม เพื่อสืบทอดหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาต่อไป”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน