หลวงพ่อแม้น ธัมมสโวัดใหญ่โพหัก จ.ราชบุรี“พระครูธรรมสาทิศ” หรือ “หลวงพ่อแม้น ธัมมสโร” วัดใหญ่โพหัก ต.โพหัก อ.บางแพ จ.ราชบุรี เป็นพระเกจิอาจารย์ ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง วัตถุมงคลที่มากด้วยพุทธคุณและประสบการณ์

เกิดเมื่อวันที่ 23 เม.ย.2434 เป็นชาวตำบลโพธิ์หักมาแต่กำเนิด เป็นบุตรของนายทอง และนางโมง ทิมบุตร

ในช่วงวัยเยาว์ ศึกษาเล่าเรียนหนังสือไทยและบาลีกับหลวงพ่อกล่อม วัดใหญ่โพหัก

เมื่อเติบใหญ่จนอายุ 21 ปี ในปี พ.ศ.2455 เข้าพิธีอุปสมบท ที่พัทธสีมาวัดใหญ่โพหัก โดยมีหลวงพ่อแดง วัดทำนบ ต.วัดแก้ว อ.บางแพ จ.ราชบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอธิการดำ วัดจินดาราม ต.ตลาดจินดา อ.สามพราน จ.นครปฐม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการอ้น วัดใหญ่โพหัก เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา ธัมมสโร

จำพรรษาอยู่ที่วัดใหญ่โพหัก เพื่อร่ำเรียนวิชาจากพระอาจารย์หลายท่าน เริ่มตั้งแต่หลวงพ่อกล่อม วัดโพหัก, หลวงพ่อแดง วัดทำนบ, หลวงพ่อแช่ม วัดดอนเซ่ง, หลวงพ่อดำ วัดจินดาราม, หลวงพ่อรุ่ง วัดดอนยายหอม เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังเป็นสหธรรมิกหลวงพ่อเงินวัดดอนยายหอม และหลวงพ่อสาย วัดหนองสองห้อง

ปี พ.ศ.2460 เจ้าอาวาสวัดใหญ่โพหักว่างลงคณะสงฆ์จึงแต่งตั้งให้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาส ทำนุบูรณะวัดใหญ่โพหัก เดิมซึ่งทรุดโทรมให้ดีขึ้น

“วัดใหญ่โพหัก” เป็นวัดเก่าแก่โบราณวัดหนึ่งของราชบุรี

ความเป็นมาของวัดใหญ่โพหัก จากปากคำบอกเล่าของชาวบ้านกล่าวกันไว้หลายทาง ทางหนึ่งเป็นเรื่องเล่าที่เกี่ยวพันถึงพญากง พญาพาน ว่าพญาพานได้ยกทัพเพื่อจะไปรบกับพญากง ผู้เป็นบิดา ผ่านมาบริเวณบ้านโพหักนี้ เห็นว่ามีทำเลที่เหมาะสม จึงได้หยุดพักไพร่พล เหล่าไพร่พลที่มาในกองทัพได้เอาศาสตราวุธที่นำมาด้วยไปพิงไว้กับต้นโพ ทำให้ต้นโพหักลงอันเป็นอาเพศบอกเหตุว่า พญาพานจะกระทำปิตุฆาตฆ่าบิดาของตน ตำบลแห่งนี้จึงได้ชื่อว่า “ตำบลโพหัก”

อีกทางหนึ่งเล่าว่า ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย พม่าได้ยกกองทัพมาตีกรุงศรีอยุธยาได้มาหยุดพักพล ณ ตำบลนี้ ทหารพม่าได้ เอาปืนใหญ่ที่นำมาด้วยไปวางพิงไว้กับต้นโพทำให้ต้นโพหักจึงได้เรียกกันเป็นที่หมายของการพบปะกันบริเวณแห่งนี้ว่า ‘ตำบลโพหัก’

อีกทางหนึ่งเล่าว่า เมื่อกรุงศรีอยุธยาแตก ราษฎรจากกรุงศรีอยุธยา พากันอพยพหนีภัยสงคราม โดยมีการใช้เกวียนบรรทุกทรัพย์สมบัติต่างๆ หนีการปล้นสะดมของทหารพม่ามาถึงตำบลหนึ่ง วัวที่ใช้เทียมเกวียนเกิดเมื่อยล้า ไม่สามารถเดินทางต่อไปได้ ชาวบ้านจึงได้หยุดแล้วเอาทรัพย์สมบัติที่ขนมากองและแขวนไว้กับต้นโพ ทำให้ต้นโพหักลง จึงเรียกสถานที่ดังกล่าวว่า ‘บ้านโพหัก’ และมีการสร้างวัดขึ้น

ภายในวัดมีมณฑปและพระพุทธรูปเก่าแก่ วัดตั้งเมื่อปี พ.ศ.2277 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อปี พ.ศ.2493

ในปี พ.ศ.2463 หลวงพ่อแม้น ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลโพหัก ทั้งที่อายุพรรษายังน้อย

พ.ศ.2480 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระครูชั้นประทวน

พ.ศ.2492 ได้รับพระราชทานยศพระครูสัญญาบัตรที่ พระครูธรรมสาทิศ

ดูแลพระสงฆ์และทำนุบำรุงวัดใหญ่ โพหักเป็นอย่างดี ด้วยความที่ท่านเป็นพระที่มีเมตตาและมีวาจาสิทธิ์ หลวงพ่อแม้นจึงเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวบ้าน ทั้งยังส่งเสริมการศึกษาสร้างโรงเรียนประถมศึกษาให้ชาวตำบลโพหัก ต่อมาได้รับแต่งตั้งให้เป็น พระอุปปัชฌาย์

ด้วยความที่มีจิตใจดี ใครนิมนต์ให้ไปบวชให้ที่ไหน ก็จะขี่ม้าไปบวชให้ทุกที่ ไม่เคยปฏิเสธ อีกทั้งวิทยาคมทำให้ชาวบ้านได้รับรู้ได้เห็นกัน ยิ่งทำให้เคารพยิ่งขึ้นไป

มีเรื่องเล่ากันว่า เมื่อครั้งที่มีการขุดคลองป่าหลวงไปถึงช่วงหนึ่งแล้วต้องหยุด เพราะขุดต่อไปไม่ได้ หลวงพ่อแม้นบอกกับชาวบ้านว่าให้ทำพิธีขอขมา และเมื่อขุดต่อไป จึงได้พบโครงกระดูกคนโบราณมีความสูงถึง 8 ศอก เพราะเชื่อว่ากล่าวถึงสิ่งใดล้วนเป็นจริงดังว่า

ผู้คนจึงต่างเชื่อว่ามีวาจาสิทธิ์และล่วงรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า

มรณภาพเมื่อวันที่ 16 พ.ค.2498 สิริอายุ 65 ปี พรรษา 44

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน