มอบพระบัญชาแต่งตั้งเจ้าคณะภาค-หนกลาง – เมื่อเร็วๆ นี้ สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธัมมธโช) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม กรรมการมหาเถรสมาคมในฐานะเจ้าคณะใหญ่หนกลาง เป็นประธานมอบพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช แต่งตั้งเจ้าคณะภาค ในเขตปกครองคณะสงฆ์ หนกลาง ประกอบด้วย พระธรรมวชิรเมธี (มีชัย วีรปัญโญ) วัดหงส์รัตนาราม เป็นเจ้าคณะภาค 1, พระธรรมโพธิมงคล (สมควร ปิยสีโล) วัดนิมมานรดี เป็นเจ้าคณะภาค 2, พระพรหมกวี (ประกอบ ธัมมเสฏโฐ) วัดกัลยาณมิตร เป็นเจ้าคณะภาค 3, พระเทพคุณาภรณ์ (โสภณ โสภณจิตโต) วัดเทวราชกุญชร เป็นเจ้าคณะภาค 13, พระเทพศาสนาภิบาล (แย้ม กิตตินธโร) วัดไร่ขิง จ.นครปฐม เป็นเจ้าคณะภาค 14 และ พระเทพสิทธิ วิมล(ละเอียด สุทันโต) วัดคลองวาฬ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นเจ้าคณะภาค 15 ที่วัดไตรมิตรวิทยาราม เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯในการนี้ สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนีกล่าวให้โอวาท ว่า “ขอแสดงความชื่นชมยินดี เป็นอย่างยิ่งกับทุกรูป ท่านทั้งหลายได้รับความไว้วางพระทัยจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ พระองค์ทรงมีพระราชดำริให้ แต่งตั้งท่านทั้ง 6 รูป ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะภาคในเขตการปกครองคณะสงฆ์หนกลาง เพื่อทำหน้าที่เป็นภารธุระของเจ้าคณะภาคในเขตปกครองคณะสงฆ์ในภาคนั้นๆ เพื่อปกครองสงฆ์ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ดีงาม รักษาหลักพระธรรมวินัยของพระพุทธศาสนา ส่งเสริมสนับสนุน การศาสนศึกษา การศึกษาสงเคราะห์ การเผยแผ่ การสาธารณูปการ และการสาธารณสงเคราะห์ของคณะสงฆ์”

สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนีกล่าวต่อว่า ขอฝากภารธุระหน้าที่แก่เจ้าคณะภาค ทั้ง 6 ภาค ในเขตการปกครองคณะสงฆ์หนกลาง ดังนี้

1.การปกครองคณะสงฆ์ ต้องควบคุม กำกับ ดูแล และเข้มงวดกวดขัน ให้เป็นไปตามพระธรรมวินัย กฎหมาย กฎมหาเถรสมาคม ข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่งมติ ประกาศและพระบัญชาของสมเด็จพระสังฆราชอย่างเคร่งครัดมุ่งเน้นการสร้างความรักสามัคคีในหมู่สงฆ์ รวมถึงความเคารพนอบน้อมกันและกัน

2.ควบคุม สนับสนุน ส่งเสริมการรักษาความเรียบร้อยดีงาม การศาสนศึกษา การศึกษาสงเคราะห์ การเผยแผ่พระพุทธศาสนา การสาธารณูปการ และการสาธารณสงเคราะห์, ให้ดำเนินไปด้วยดี และขอให้มุ่งเน้นการส่งเสริมสนับสนุนด้านการศึกษาสงฆ์แผนกธรรม-บาลีเป็นกรณีพิเศษ เพื่อสนองพระราชปุจฉาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่พระองค์ท่านทรงให้ความสำคัญอย่างสูงสุด

3.แก้ไขข้อขัดข้องของคณะสงฆ์ของเจ้าคณะจังหวัดให้เป็นไปโดยชอบ 4.ควบคุมบังคับบัญชาเจ้าคณะ เจ้าอาวาส พระภิกษุสามเณร โดยชี้แจงแนะนำให้ปฏิบัติหน้าที่และวางตนให้เหมาะกับสมณเพศ รักษาไว้ซึ่งศรัทธาที่งดงามตามหลักของพระพุทธศาสนา ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

5.หมั่นตรวจการและประชุมพระสังฆาธิการ โดยมีแผนการดำเนินงานที่ชัดเจนและต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง

“ขอฝากข้อคิดสำคัญให้ตระหนักซึ่งสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส ทรงนิพนธ์ไว้ ความว่า ภิกษุสงฆ์ แม้มีพระวินัยเป็นกฎหมายสำหรับตัวอยู่ส่วนหนึ่งแล้ว ก็ยังจะต้องอยู่ในใต้อำนาจแห่งกฎหมายฝ่ายอาณาจักรอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งตราไว้เฉพาะหรือเพื่อคนทั่วไป และยังคงอนุวัตจารีตของบ้านเมือง อันไม่ขัดต่อกฎหมายสองประเภทนั้นอีก สรุปความว่า ภิกษุสงฆ์มีกฎหมาย อันพึงฟังอยู่ 3 ประเภท คือ กฎหมายแผ่นดิน พระวินัย และจารีต”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน