คอลัมน์ มงคลข่าวสด

พระครูนนทมงคลวิศิษฐ์ : วัดอุทยาน ต.บางขุนกรอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี สร้างขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ.2200 ในสมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมที่บริเวณ แถวนี้เข้าใจกันว่าเป็นที่ส่วนของกษัตริย์สมัยพระเจ้าอู่ทองที่เสด็จหนีโรคร้ายมาประทับในพื้นที่นี้ บริเวณดังกล่าวก็น่าจะเป็นสถานที่อันเป็นอุทยานในสมัยนั้น เมื่อโรคร้ายระงับ พระมหากษัตริย์เสด็จกลับแล้ว จึงได้สร้างวัด และใช้นามตามลักษณะภูมิประเทศที่ตั้งวัด ก็คือส่วนของอุทยาน จึงได้ชื่อว่า วัดอุทยาน ต่อมามีการบูรณปฏิสังขรณ์อย่างจริงจังหลังจาก พ.ศ.2500 เป็นต้นมา เจ้าอาวาสวัดอุทยานรูปแรกคือ หลวงปู่เพิ่ม เป็นพระเถระผู้ใหญ่ ที่ได้รับความเลื่อมใสศรัทธาของประชาชนในพื้นที่มาก ร่ำลือว่าแม่ค้าพ่อค้าที่มาตักบาตร หลวงปู่เพิ่มมอบแผ่นทอง 1 แผ่นให้ไปติดหัวเรือ ปรากฏว่าทำมาค้าขายดีขึ้นจนร่ำรวยไปตามกัน ถึงสมัยกาลปัจจุบัน พระครูนนทมงคล วิศิษฐ์ หรือ พระอาจารย์ศรี โอภาโส เจ้าอาวาส ถือเป็นพระเถระชื่อดังอีกรูปในจังหวัดนนทบุรี มีวัตรปฏิบัติดี เปี่ยมด้วยเมตตาธรรม เป็นที่พึ่งพิงทางจิตใจ มีนามเดิมว่า ศรี ดอกบัว เกิดเมื่อวันที่ 17 ส.ค.2501 ที่บ้านเลขที่ 13 ต.ลานกระบือ อ.ลานกระบือ กำแพงเพชร บิดา-มารดาชื่อ นายฉ่ำและนางเลื่อน ดอกบัว มีความผูกพันกับพระพุทธศาสนามาแต่วัยเยาว์ มีโอกาสบวชเณรได้รับการปลูกฝังหลักธรรม มีโอกาสได้ฟังธรรมและศึกษาเล่าเรียนทั้งภาษาไทย-บาลี กระทั่งอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดแก้วสุริย์ฉาย อ.ลานกระบือ จ.กำแพงเพชร เมื่อวันที่ 20 เม.ย.2521 มีพระครูวินิจวชิรคุณ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระเล็ก ฐานธัมโม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ จากนั้นเริ่มต้นศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ตามลำดับ ที่สำนักเรียนคณะจังหวัดกำแพงเพชร วัดแก้วสุริย์ฉาย ในระหว่างนั้น ศึกษาตำราหลากหลายแขนงควบคู่กันไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นภาษาบาลี ภาษาอังกฤษ เป็นต้น จากนั้นมีโอกาสออกธุดงค์ไปตามสถานที่ต่างๆ ทั้งภาคเหนือ ภาคอีสาน ไม่ได้อยู่ที่ใดที่หนึ่งนานๆ กระทั่งเดินทางมายังภาคกลาง แถบจังหวัดนนทบุรี รับนิมนต์มาอยู่จำพรรษาที่วัดอุทยาน ซึ่งสภาพวัดสมัยนั้นเงียบสงบ เหมาะต่อการปฏิบัติธรรม กระทั่งย้ายมาสังกัดเมื่อวันที่ 19 ก.ค.2526 ได้รับความไว้วางใจจากเจ้าอาวาสวัดในยุคนั้น มอบหมายภารกิจสนองงานเจ้าอาวาส ทั้งในด้านการปกครอง การศึกษา การศึกษาสงเคราะห์ การเผยแผ่พระพุทธศาสนา การสาธารณูปการ และอื่นๆ อีกมากมาย แต่มิได้หยุดนิ่งในการศึกษาเพิ่มเติม สำเร็จการศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรการบริหารกิจการคณะสงฆ์ (ป.บส.), ปริญญาพุทธศาสตรบัณฑิต (พธ.บ.), ปริญญาพุทธศาสตรมหาบัณฑิต (พธ.ม.) จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ลำดับงานปกครอง พ.ศ.2540 เป็นเจ้าอาวาสวัดวัดอุทยาน พ.ศ.2551 เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2553 เป็นเจ้าคณะตำบลบางขุนกอง ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร เทียบผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นเอกที่ พระครูนนทมงคลวิศิษฐ์ พ.ศ.2558 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร เทียบผู้ช่วยเจ้าอาวาส พระอารามหลวง ชั้นพิเศษ ในราชทินนามเดิม เป็นผู้ริเริ่มประเพณี อุ้มบาตร เข้าวัด ตามโครงการ คนละ 1 บาตร บาตรละ 1 คน สร้างความสามัคคี นำปัจจัยไปพัฒนา หอสวดมนต์ หอมงคลสมรส หอฉัน อยู่ในสถานที่เดียวกัน เพื่อความร่มเย็นเป็นสุขของสาธุชนทั่วไป เพื่อให้เป็นวัดต้นแบบของการพัฒนาสังคมยุคใหม่ มีโอวาทธรรมว่า ศีลเป็นสมบัติอันล้ำค่าของมนุษย์ ศีลถือว่าเป็นแม่บทแม่แผน ที่ทำให้มนุษย์เข้าถึงแก่นธรรมอันแท้จริงและบรรลุถึงความสำเร็จ มีศีลรักษาทรัพย์สมบัติ รักษาหน้าที่การงานให้สำเร็จประโยชน์สุขทุกประการ มีศีลอย่างเดียว เป็นแก่นแท้แห่งธรรมของพระพุทธศาสนา ต้องมีศีลเป็นตัวกำหนด หลวงปู่เพิ่ม อดีตเจ้าอาวาสวัดอุทยาน มักถามญาติโยมที่มาหาอยู่เสมอว่าโยมมีศีลหรือยัง ถ้าศีลไม่มีสิ่งดีๆ จะเกิดขึ้นไม่ได้ ธรรมแท้เกิดขึ้นจากการมีศีลทุกประการ มีศีลอย่างเดียว สำเร็จหลายอย่าง ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลธนบุรี ช่วงเช้าของวันที่ 24 ส.ค. โดยก่อนหน้านั้นท่านมีอาการไอ คอแห้ง กระทั่งอาการติดเชื้อเริ่มรุนแรงขึ้น ทำให้การรักษาไม่ทันท่วงที กระทั่งวันที่ 25 ส.ค.2564 เวลา 02.40 น. มรณภาพอย่างสงบ สิริอายุ 63 ปี พรรษา 43 ยังความเศร้าโศกแก่ชาวบ้านและศิษยานุศิษย์ที่เคารพนับถืออย่างมาก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน