หลวงพ่อมาลัย อุทโย พระเกจิลุ่มแม่นำท่าจีน – วันพุธที่ 8 ก.ย.2564 น้อมรำลึกครบรอบ 81 ปี ชาตกาล “พระครูอุทัยธรรมสาคร” หรือ “หลวงพ่อมาลัย อุทโย” พระเกจิ ชื่อดังแห่งลุ่มแม่น้ำท่าจีน เจ้าคณะตำบล ท่าฉลอม และเจ้าอาวาสวัดบางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร พระเกจิอาจารย์ระดับแนวหน้าของจังหวัด มีวัตรปฏิบัติเรียบง่าย เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาต่อบรรดาคณะศิษย์
นามเดิม มาลัย แตงอ่อน เกิดวันอาทิตย์ที่ 8 ก.ย.2483 ที่บ้านเลขที่ 63 หมู่ 8 ต.แสมดำ อ.บางขุนเทียน กรุงเทพฯ มีพี่น้องร่วมกัน 6 คน
มีความผูกพันกับพระธรรมคำสอนตั้งแต่เยาว์วัย มีจิตใจเอนเอียงเข้าวัดฟังเทศน์ ได้รับการปลูกฝังให้ใกล้ชิดกับพระศาสนา
ครั้นเมื่ออายุ 21 ปี ได้เข้ารับราชการทหาร รับตำแหน่งนายสิบกองประจำการ
ต่อมาเข้ารับพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 5 มี.ค.2509 ที่พัทธสีมาวัดบางกระดี่ บางขุนเทียน กรุงเทพฯ มีพระเทพญาณมุนี วัดราชโอรสาราม เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์สง่า การวิโก วัดบางกระดี่ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูสงวน อาสโภ วัดกำพร้า เป็นพระอนุสาวนาจารย์
มีความมุมานะ อุตสาหะ ฝักใฝ่เรียนรู้ พรรษาแรกก็สามารถสวดบทสวดพระปาฏิโมกข์เป็นแบบภาษารามัญได้อย่างชัดเจน
กล่าวกันว่าในสมัยนั้นที่วัดบางหญ้าแพรก มีพระจำพรรษาอยู่ไม่มากนัก พื้นที่ของวัดรกร้างเต็มไปด้วยป่าโกงกาง ต่อมาเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2517 พระเทพสาครมุนี (หลวงปู่แก้ว) วัดสุทธิวาตวราราม (ช่องลม) มอบหมายให้เป็นเจ้าอาวาส
จากนั้นจึงเริ่มบูรณปฏิสังขรณ์พัฒนา พระอาราม
พ.ศ.2523 เดินทางไปงานมุทิตาสักการะหลวงพ่ออุตตมะ ที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
ครั้นเมื่อไปถึงได้พบสิ่งแปลกประหลาดคือ มีกอไผ่ที่ไฟไม่ไหม้ อยู่เพียง 1 กอเท่านั้น ขณะที่กอไผ่กออื่นๆ ล้วนโดนไฟไหม้หมด
จึงได้ขอไผ่กอนั้นจากหลวงพ่ออุตตมะ และนำกลับมาที่วัดบางหญ้าแพรก เพื่อที่จะเอาเนื้อของไผ่ชนิดนี้มาบรรจุผสมเข้าเพื่อจัดสร้างวัตถุมงคลอันประกอบไปด้วยไผ่มงคลทั้ง 9 ชนิด ซึ่งเป็นที่มาของ “สมเด็จไผ่” ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง
ส่วนตะกรุดตี๋ใหญ่เป็นเครื่องรางของขลังที่ได้รับกล่าวขวัญมากเช่นกัน มีที่มาคือ ในยุคที่จอมโจรชื่อดัง “ตี๋ใหญ่” เดินทางมาที่ท่าฉลอมขอพึ่งใบบุญ
สมัยนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจมักจะพูดว่า ตี๋ใหญ่เป็นผี ไม่ใช่คนธรรมดา เพราะสามารถหายตัวล่องหนได้ แต่ความจริงเชื่อว่ามีวิชาคาถามหากำบัง
หลังจากนั้นประมาณ 3 ครั้ง ตี๋ใหญ่เข้ามาขอเครื่องรางของขลังและฝากตัวเป็นศิษย์ อีกทั้งยังได้รับปากว่าจะกลับตัวเป็นคนดี จึงได้มอบตะกรุดผงว่านใบลาน ซึ่งเป็นตะกรุดที่คลึงจากมือ
ว่ากันว่าเป็นวัตถุมงคลที่ทำให้รอดพ้นแคล้วคลาดจากการถูกจับกุมอย่างเหลือเชื่อ จนเป็นที่มาของตะกรุดที่ชาวบ้านขนานนามว่า “ตะกรุดตี๋ใหญ่”
ชาวมหาชัยและจังหวัดใกล้เคียงต่างเชื่อกันว่า หากให้หลวงพ่อมาลัยได้ประพรมน้ำมนต์และเป่ายันต์เกราะเพชรแล้ว จะทำให้ชีวิตมีความเจริญรุ่งเรือง แคล้วคลาดจากภยันตรายต่างๆ
หลวงพ่อมาลัย มักจะปลุกเสกเดี่ยวเนื่องจากท่านได้ร่ำเรียนวิชาต่างๆ มาจากครูบาอาจารย์หลายท่านด้วยกัน อาทิ หลวงปู่แก้ว หลวงพ่อสุด และอาจารย์ศิลป์ วัดบางกระดี่
นำวิชาความรู้ด้านวิทยาคมเป็นกุศโลบายสำคัญในการอบรมชาวบ้านยึดหลักธรรมน้อมนำจิตใจ เข้าถึงธรรมะได้อย่างง่ายดาย
นอกจากเป็นพระเกจิชื่อดังแล้ว ยังมีความชำนาญภาษารามัญ อีกทั้งเป็นพระนักพัฒนา ก่อสร้างถาวรวัตถุภายในวัดมากมาย เช่น อุโบสถหลังใหญ่ เมรุเผาศพ ศาลาการเปรียญที่มีเอกลักษณ์ศิลปะรามัญ
มีลูกศิษย์ลูกหาที่เป็นทั้งชาวไทย ชาวจีน และชาวรามัญ ให้ความนับถือจำนวนมาก
หลวงพ่อมาลัยมรณภาพด้วยโรคมะเร็งในกระเพาะอาหาร เมื่อวันอังคารที่ 15 ก.ย.2563 เวลา 17.08 น. สิริอายุ 80 ปี พรรษา 55
หลังเข้ารับการรักษาตั้งแต่เดือน เม.ย.2563 ที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร
การจากไปของหลวงพ่อมาลัยจึงสร้างความเศร้าอาลัยเป็นอย่างยิ่ง