‘ท้าวเวสสุวัณ’วัดสามัคคีธรรม“พระครูสิริธรรมรัต” หรือ “หลวงปู่หล่ำ สิริธัมโม” อดีตเจ้าอาวาสวัดสามัคคีธรรม ถนนลาดพร้าว 64 แขวงและเขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ พระเกจิที่เคร่งครัดและเปี่ยมด้วยคุณธรรม เป็นที่พึ่งของชาวบ้านและสาธุชนโดยทั่วไป มีจิตที่เปี่ยมด้วยความเมตตา

มีนามเดิมว่า หล่ำ แซ่เจ็ง เป็นชาวไทยเชื้อสายจีน เกิดเมื่อวันที่ 31 ส.ค.2472 ที่บ้าน หมู่ที่ 1 ต.บางหญ้าแพรก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ

อายุครบ 20 ปี เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดบางหญ้าแพรก จ.สมุทรปราการ โดย มีพระครูสิริศีลคุณ เจ้าคณะจังหวัดสมุทรปราการ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูเผย เจ้าอาวาสวัดบางหญ้าแพรก เป็นพระกรรม วาจาจารย์ และพระสมุห์ผ่อง เจ้าอาวาส วัดปุณหังสนาวาส เป็นพระอนุสาวนาจารย์

อยู่ในสังกัดวัดบางหญ้าแพรก ท่องสวดมนต์ เรียนพระปริยัติธรรมและเรียนวิปัสสนากัมมัฏฐาน ในปี พ.ศ.2492 สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี

เป็นศิษย์ของหลวงพ่อเผย วัดบางหญ้า แพรก อีกทั้งได้สืบสานวิชาของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า กับอาจารย์พานต์ นนทตา และเป็นศิษย์เอกของหลวงพ่อครื้น วัดสังโฆ จ.สุพรรณบุรี

หลวงพ่อครื้นถ่ายทอดวิทยาคมและการสร้างเครื่องรางของขลัง อาทิ การสร้างยันต์ ผ้าประเจียด ตะกรุดนานาชนิด โดยเฉพาะวิชาที่เลื่องชื่อของหลวงพ่อครื้น คือ วิชาทำตุ๊กแก

จวบจนหลวงพ่อครื้นละสังขาร หลวงปู่หล่ำย้ายไปพำนักที่วัดไกรสีห์น้อยอยู่ได้ระยะหนึ่ง ญาติโยมที่วัดคลองบางปิ้ง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ นิมนต์ให้ท่านมาช่วยพัฒนาวัด

ได้ไปช่วยพัฒนาวัดคลองบางปิ้งอยู่ 2 พรรษา จนกระทั่งวัดคลองบางปิ้งมีความเจริญรุ่งเรือง ต่อมา หลวงปู่หล่ำได้รับนิมนต์จากศรัทธาญาติโยมให้มาช่วยสร้างวัดสามัคคีธรรม แขวงวังทองหลาง ที่เพิ่งเริ่มสร้างเมื่อปี พ.ศ.2510 จนวัดเริ่มเป็นปึกแผ่นมั่นคง

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2522 ได้รับพระราชทานแต่งตั้งให้เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ในราชทินนามที่ พระครูสิริธรรมรัต

วัตถุมงคลที่ได้รับการยอมรับในวงการเครื่องรางของขลัง นอกจากเครื่องรางตุ๊กแก ที่โด่งดังไม่แพ้กัน คือ เบี้ยเศรษฐี ซึ่งเป็นที่ศรัทธาของบรรดาสาธุชน เปี่ยมด้วยพุทธคุณ

มีลูกศิษย์เป็นพระที่ติดตามธุดงค์ไปกับท่าน 2 รูปคือ พระครูพิพิธพัฒนพิธาน (พระอาจารย์นา) วัดบางปิ้ง จ.สมุทรปราการ มรณภาพเมื่อปี พ.ศ.2537 และพระครูสมุทรสารคุณ (พระอาจารย์เปลว) วัดแหลม สมุทรปราการ มรณภาพเมื่อปี พ.ศ.2546

ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.2546 พระมหาวิบูลย์ กิจจสาโร ย้ายมาอยู่จำพรรษา ที่วัดสามัคคีธรรม ช่วยงานด้านทำวัตถุมงคลอยู่หลายปี จนเมื่อพระมหาวิบูลย์ เข้าไปขอเรียนวิชา หลวงปู่หล่ำจึงรับไว้เป็นศิษย์คนสุดท้ายที่ท่านถ่ายทอดวิชาตั้งแต่เริ่มแรก คือ อักขระเลขยันต์ตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงการทำตะกรุด ผ้ายันต์ เชือกคาดเอว ฯลฯ บทคาถาต่างๆ รวมถึงการฝึกจิตเพื่อปลุกเสก

นอกจากนี้ วัดสามัคคีธรรมยังมีรูปเหมือนองค์ท้าวเวสสุวัณและท้าวธตรฐ ตั้งอยู่หน้าอุโบสถ ยืนสูงเด่นเป็นสง่า

เมื่อปี พ.ศ.2550 นิมนต์พระอาจารย์จีนธรรมานุกร (เย็นเกา) ผู้ช่วยเจ้าคณะใหญ่ฝ่ายซ้ายจีนนิกาย เจ้าอาวาสวัดโพธิทัตตาราม ร่วมเป็นประธานประกอบพิธีหล่อท้าวเวสสุวัณทำให้วัดต้องจัดสร้างวัตถุมงคลท้าวเวสสุวัณมาโดยตลอด และโดยหลวงปู่หล่ำจะเป็นผู้นั่งปรกอธิษฐานจิตร่วมด้วย

มรณภาพอย่างสงบ เมื่อวันศุกร์ 22 มี.ค.2562 เวลา 03.40 น. สิริอายุ 90 ปี พรรษา 70

เครื่องรางของขลังยังคงได้รับความนิยม ในปัจจุบันยังมีศิษยานุศิษย์ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เมื่อมาที่วัดสามัคคีธรรม จะถามหาท้าวเวสสุวัณ เพื่อขอเช่าบูชากลับไปโดยตลอด

ดังนั้น วัดสามัคคีธรรมจึงจัดสร้าง พร้อมประกอบพิธีปลุกเสกท้าวเวสสุวัณ และจะนำออกให้เช่าบูชาในวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ย.2564 และจัดพิธีหล่อท้าวเวสสุวัณ ขนาดสูง 120 เซนติเมตร และพิธีฉลองท้าววิรุฬหกและ ท้าววิรูปักษ์ ขนาด ความสูง 5 เมตร ที่สร้างขึ้นใหม่ โดยมี พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย เป็นประธานฝ่ายฆราวาส

สำหรับท้าวเวสสุวัณ ที่วัดจัดสร้างและนำออกให้บูชานั้น มีด้วยกัน 3 ขนาด คือขนาดสูง 14 นิ้ว, 5 นิ้ว และ 2 นิ้ว รายได้จากการเช่าบูชาจะนำไป สมทบทุนสร้างรูปปั้นท้าววิรุฬหกและท้าววิรูปักษ์ รวมทั้งสร้างพิพิธภัณฑ์ หลวงปู่หล่ำต่อไป

สอบถามที่พระมหาวิบูลย์ กิจจสาโร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสามัคคีธรรม โทร. 0-2538-4259, 0-2514-2252 หรือเฟซบุ๊ก : samakkeetham หรือ วัดสามัคคีธรรม และไลน์ไอดี samakkee1

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน