วันอังคารที่ 19 เม.ย.2565 น้อมรำลึกครบรอบ 89 ปี ชาตกาล “พระครูโสภณปสุตคุณ” หรือ “หลวงปู่คูณ ปสุโต” อดีตเจ้าอาวาสวัดรัมณียาราม ต.เขวาไร่ อ.นาเชือก อดีตรองเจ้าคณะอำเภอนาเชือก จ.มหาสารคาม พระเถระชั้นผู้ใหญ่อีกรูปที่มีวัตรปฏิบัติเป็นที่เลื่อมใสศรัทธา

มีนามเดิมว่า คูณ ถาพิลา เกิดเมื่อวันที่ 19 เม.ย.2476 ที่บ้านหนองบัวแดง ต.เขวาไร่ อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม ครอบครัวประกอบอาชีพทำไร่
หลังจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนในหมู่บ้าน ต้องลาออกมาช่วยงานครอบครัวทำไร่ทำนา
เมื่ออายุครบบวชเข้าพิธีอุปสมบท ที่วัดดอนกลอย อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม มีพระอาจารย์พรมมา พรหมสโร วัดหัวหนองคู ต.เขวาไร่ อ.นาเชือก เป็นพระอุปัชฌาย์
จากนั้นเดินทางไปจำพรรษาที่สำนักเรียนวัดหมากหม้อ ต.หนองเม็ก อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม เพื่อศึกษาพระปริยัติธรรม สามารถสอบได้นักธรรม ชั้นตรี โทและเอก ตามลำดับ

นอกจากนี้ ยังสนใจการเทศน์ปุจฉา-วิสัชนา ได้ฝึกเรียนเทศน์กับพระอาจารย์ท่านหนึ่งที่วัดหมากหม้อ ต้องอ่านหนังสือคัมภีร์ 3 โลก ฝึกการบรรยาย หัดพูด ใช้เวลานานหลายปี จนมีความรู้แตกฉาน
พ.ศ.2514 ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัด รัมณียาราม ต.เขวาไร่ อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม ว่างลง ชาวบ้านได้นิมนต์ให้มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส

เป็นพระที่มีเมตตาธรรมต่อชนทุกชั้น ปกครองพระภิกษุ-สามเณร ด้วยความเที่ยงธรรม อีกทั้งยังให้ความสำคัญด้านการศึกษา ด้วย ผู้ที่มาบวชเรียนส่วนใหญ่มาจากครอบครัวที่ยากจน จึงตั้งสำนักเรียนพระปริยัติธรรมที่วัดรัมณียาราม โดยรับหน้าที่เป็นครูสอนเอง
จากการที่เป็นพระที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย หากพระภิกษุ-สามเณรรูปใดมีพฤติกรรมที่ออกนอกลู่นอกทางจะไม่ให้จำพรรษา อยู่ที่วัดอย่างเด็ดขาด

สมัยนั้นจึงมีพระภิกษุ-สามเณรมาจำพรรษา ศึกษาเล่าเรียนที่วัด แห่งนี้นับร้อยรูป และท่านได้ตั้งมูลนิธิพระครูโสภณปสุตคุณ เพื่อนำดอกเบี้ยช่วยเหลือการศึกษาพระภิกษุ-สามเณรที่ตั้งใจเรียน แต่ขาดทุนทรัพย์ รวมทั้งให้ทุนการศึกษาแก่เด็กนักเรียนโรงเรียนในตำบลเขวาไร่ และกลุ่มโรงเรียนบัวแดงทุกปี
ส่วนงานสาธารณประโยชน์ ท่านได้บริจาคทรัพย์ส่วนตนทุกปี เช่น จัดซื้อเตียงคนไข้ให้โรงพยาบาล สร้างถนน เป็นต้น
ด้านงานเผยแผ่ ได้รับแต่งตั้งเป็นพระธรรมทูต และออกอบรมศีลธรรมแก่เยาวชนในโรงเรียนต่างๆ ในเขต อ.นาเชือก

ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2507 เป็นเจ้าอาวาสวัดโนนเพ็ด อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา พ.ศ.2514 เป็นเจ้าอาวาสวัดรัมณี ยารามและเจ้าคณะ ต.เขวาไร่ พ.ศ.2525 เป็นพระอุปัชฌาย์
พ.ศ.2543 เป็นรองเจ้าคณะ อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2514 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโทที่พระครูโสภณปสุตคุณ พ.ศ.2543 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นโทในราชทินนามเดิม

ช่วงปัจฉิมวัย ยังรับนิมนต์แสดงธรรมโปรดญาติโยมอย่างไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย แม้บางครั้งอาพาธท่านยังฝืนสังขารรับนิมนต์
หลังจากตรากตรำงานพระพุทธศาสนามาอย่างยาวนาน ด้วยความไม่เที่ยงของสังขารท่านอาพาธบ่อยครั้งด้วยโรคชรา

ต้นปี พ.ศ.2552 มรณภาพด้วยอาการสงบ สิริอายุ 76 ปี พรรษา 54
แม้หลวงปู่คูณจะละสังขารไปนานแล้ว แต่คุณงามความดียังคงอยู่ในศรัทธาของพุทธศาสนิกชนชาวมหาสารคามไปตราบนาน

เชิด ขันตี ณ พล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน