คล้อยหลังคำสั่งกทม.แต่งตั้ง นายสกลธี ภัททิยกุล เข้าดำรงตำแหน่งเป็นรองผู้ว่าฯ กทม. คล้อยหลังมติครม.แต่งตั้ง นายสนธยา คุณปลื้ม เป็น ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี นายอิทธิพล คุณปลื้ม เป็น กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาไม่กี่วัน
บทสรุปอันเกี่ยวกับ “การดูด” ก็กลายเป็น “เรื่องใหญ่”
แม้ตอนแรกบางส่วนบางฝ่ายจะมีความรู้สึกต่อการมาของ นายสกลธี ภัททิยกุล นายสนธยา คุณปลื้ม นายอิทธิพล คุณปลื้ม เป็นเรื่องดี
ถึงกับใช้คำ “ผงาด” อธิบายการได้รับตำแหน่ง
แต่หลังจากนั้นเพียง 1 สัปดาห์ สังคมก็มี “บทสรุป” ตรงกันว่า นั่นคือ การย้อนยุคทางการเมืองอย่างชนิดน่าใจหาย
ที่ว่า “ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง” น่าจะไม่เป็น “ความจริง”
ที่คสช.และรัฐบาลนำเอาคำว่า “เพื่อชาติ” มาเป็นเหตุผลในการขยับขับเคลื่อนในกรณี นายสกลธี ภัททิย กุล นายสนธยา คุณปลื้ม และ นายอิทธิพล คุณปลื้ม
สังคมกลับ “ประเมิน” ไปในอีกทิศทาง
บทสรุปจากพรรคประชาธิปัตย์นับว่าแจ่มชัด ตรงเป้าอย่างที่สุด นั่นก็คือ นี่เท่ากับเป็นการเอา “ตำแหน่ง”ทางการเมืองมาเป็นเครื่องล่อ
ล่อให้เข้าไปอยู่ภายในเครือข่ายของ “พรรคคสช.”
แม้การเดินทางไปจัดประชุม “ครม.สัญจร” ที่จังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ จะเป็นเรื่องที่กำหนดเอาไว้ก่อนหน้านี้ แต่ความเห็น “ร่วม” อย่างมิได้นัดหมาย
นั่นก็คือ การขยาย “พลังดูด” ไปยังพื้นที่ของ “พรรคภูมิใจไทย”
อย่าได้แปลกใจที่เมื่อมีข่าวการระดมทุน 40,000 ล้านบาทลอยมาจากภายในพรรคประชาธิปัตย์สังคมจึงมองไปในทิศทางเดียวกัน
นั่นก็คือ มองว่าเป็นพื้นฐานสำคัญแห่ง “พลังดูด”
ความหงุดหงิดจากภายใน “ทำเนียบรัฐบาล” จึงเป็นสภาพที่รับรู้และประเมินได้ แต่คำถามก็คือจะสามารถทำอะไรได้เล่า เผลอๆ ชาวบ้าน “เชื่อ” ไปแล้วด้วยซ้ำ
กระบวนการปล่อยข่าวในลักษณะนี้จึงสะท้อนความสันทัดจัดเจนเป็นอย่างสูงของพรรคประชาธิปัตย์ เป้าหมายย่อมอยู่ที่ “พรรคคสช.”
เท่ากับเป็นกลยุทธ์ “ต้อนรับน้องใหม่” ในทางการเมือง
หากบรรดา “กองเชียร์” คสช. “กองเชียร์” รัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 จะหงุดหงิดก็สามารถทำความเข้าใจได้
ยิ่งคนที่รังเกียจ เดียดฉันท์ ไทยรักไทย พลังประชาชน เพื่อไทย
ยิ่งเห็นอย่างเด่นชัดว่า กระบวนท่าของ “พรรคคสช.” ก็มิได้แตกต่างไปจาก พรรคเสรีมนังคศิลา พรรคชาติสังคม พรรคสหประชาไทย พรรคสามัคคีธรรม
บทสรุปต่อกระบวนการดูดจึงไปในแนวเดียวกันโดยอัตโนมัติ
