เห็นสีหน้า ดวงตา และอาการแย้มยิ้มด้วยความบานเบิกของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่สนามช้าง อารีนา บุรีรัมย์ แล้ว ก็มั่นใจ
มั่นใจว่า การเยือน “พื้นที่” จะเกิดขึ้นถี่ยิ่งขึ้น
รู้สึกหรือไม่ว่า ลีลาการปราศรัยของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพียงได้รับการปรับแต่งเล็กน้อยก็สามารถเล่นบท “นักการเมือง” ได้สบายๆ
ยิ่งได้ “โค้ช” ระดับ นายเนวิน ชิดชอบ ยิ่งฉลุย
อย่าว่าแต่พรรคพลังชลจะรู้สึกอิจฉาเลย แม้กระทั่งกลุ่มมัชฌิมาแห่งชลบุรีก็ยังเสียดาย ขณะที่กลุ่มบ้านริมน้ำก็อยากให้ไปเยือนฉะเชิงเทราในเร็ววัน
นี่ย่อมเป็นโอกาสในการแสดงฝีมือ
ตอนที่มี “ครม.สัญจร” ที่สุพรรณบุรีอาจยังกระมิดกระเมี้ยน ไม่ว่า นายประภัตร โพธสุธน ไม่ว่า นายวรา วุธ ศิลปอาชา ยังไม่ออกอาวุธอย่างเต็มที่
เช่นเดียวกับเมื่อไปเยือนที่สุโขทัย
พลันที่เห็นภาพซึ่ง นายเนวิน ชิดชอบ จัดเต็มให้กับคณะของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผ่านสนามช้าง อารีนา บุรีรัมย์
จึงบังเกิดอาการกระบอกตาร้อนผ่าวกันถ้วนหน้า
จึงมั่นใจได้เลยว่า หากมี “ครม.สัญจร” อีกเมื่อใด เมื่อนั้นลักษณะการจัดเต็มในแบบของบุรีรัมย์จักต้องปรากฏขึ้นและโอ่อ่าอลังการยิ่งกว่า
เผลอๆ บางคนยังเรียกร้องให้ไปรอบที่ 2 ด้วยซ้ำ
เป็นเพราะบรรดานักการเมืองต้องการสำแดงพลานุภาพในพื้นที่ของตนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับรู้และสัมผัสกลิ่นอายกระนั้นหรือ
ถูกต้อง
แต่หากลงลึกไปในรายละเอียดก็จะเข้าใจได้มากยิ่งขึ้นอย่างที่ นายเนวิน ชิดชอบ ประกาศต่อหน้าคนกว่า 30,000 นั่นแหละว่า
ต้องตะโกน “ลุงตู่สู้ๆ” ดังๆ เพราะหมายถึงงบประมาณกว่าหมื่นล้านบาท
ตรงนี้ต่างหากที่อย่าว่าแต่นักการเมืองสุพรรณบุรีจะต้องการ นักการเมืองชลบุรีจะต้องการ นักการเมืองสุโขทัยจะต้องการ นัดการเมืองบุรีรัมย์จะต้องการ
เพราะหมายถึงการหาเสียง “ล่วงหน้า” เด่นชัด
ตกลงระหว่างคสช.หรือระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ บรรดานักการเมืองทั้งหลายใครอวยประโยชน์ให้กับใคร
เป็นนักการเมือง หรือเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เอ่ยอ้างได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า นี่คือประชารัฐ นี่คือ ไทยนิยมอย่างยั่งยืน นักการเมืองก็อ้างได้ด้วยน้ำเสียงเดียวกัน
เป็นอันว่า “ยั่งยืน” กันถ้วนหน้า ไม่ว่าจะ “เลือกตั้ง” เมื่อใด