บรรยากาศการประชุมพรรครวมพลังประชาชาติไทย ณ ศาลาดนตรีสุริยเทพ เป็นบรรยากาศอันถือได้ว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ สร้างความโดดเด่น

พาดหัวข่าวพุ่งเข้าใส่ “ลุงกำนัน”

ปฏิกิริยาทั้งเห็นด้วยและคลางแคลงสงสัย เป็นปฏิกิริยาต่อการหลั่งน้ำตาของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ท่ามกลางสมาชิกและมวลชนของพรรค

เหมือนบรรยากาศบนเวทีปราศรัยของ “กปปส.”

เพียงแต่เมื่อปี 2557 เป็นการปราศรัยเพื่อจัดการกับรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่ในเดือนมิถุนายน 2561 รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้กลายเป็นอดีตไปแล้ว

แล้วเหตุใดจึงต้อง “รื้อฟื้น” ขึ้นมาอีก

หากถามบรรดาแฟนานุแฟนของกปปส. แฟนานุแฟนของพรรคพลังประชาชาติไทย (รปช.) ก็ย่อมจะประสานเสียงตอบอย่างพร้อมเพรียงกันว่า

จำเป็นต้องหลั่งน้ำตา ร่ำไห้

แม้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะกลายเป็น “อีหล่า” น้อยในต่างแดนเหมือนกับ นายทักษิณ ชินวัตร ผู้พี่ชาย แต่พรรคเพื่อไทยก็ยังอยู่

และอยู่โดยที่สังคมเชื่อว่ามีความแข็งแกร่ง มั่นคง

แข็งแกร่งมั่นคงกระทั่งคสช.เองก็หวาดกลัวว่า หากมีการเลือกตั้งเมื่อใดพรรคเพื่อไทยจะกุมชัยชนะได้เหมือนกับที่เคยกุมเมื่อเดือนกรกฎาคม 2554

จำเป็นที่ “ลุงกำนัน” ต้องออกมาหลั่งน้ำตา ร่ำไห้

ภาพของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ร่ำไห้ที่แชร์กันสนั่นหวั่นไหวผ่านโลกโซเชี่ยล มีเดีย ขณะนี้เหมือนกับเป็นภาพแห่งชัยชนะ ภาพแห่งการตัดสินใจ

แต่ก็ดำรงอยู่ในแบบชัยชนะของ “คนแพ้”

นั่นเท่ากับว่า เวลา 4 ปีภายหลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 ภารกิจในการ “ปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง” ยังไม่ประสบผลสำเร็จ

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ จึงต้องหลั่งน้ำตาออกโรงอีกครั้ง

คราวนี้มี นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ มี นายประสาร มฤคพิทักษ์ มี นายสุริยะใส กตะศิลา ยืนเรียงอยู่เคียงข้าง

3 คนนี้เข้มแข็งเกรียงไกรอย่างไรเป็นที่ประจักษ์มาแล้ว

จึงไม่เพียงแต่คสช.จะมีพรรคพลังประชารัฐ จะมีพรรคประชาชนปฏิรูป จะมีพรรคพลังชาติไทย จะมีพรรคพลังธรรมใหม่ จะมีพรรคทางเลือกใหม่

หากจำเป็นต้องมี พรรครวมพลังประชาชาติไทย

ประสานกับการเคลื่อนไหวของคสช. ประสานกับการเคลื่อนไหวของรัฐบาล เพื่อเอาชนะพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งให้จงได้

นี่คือภารกิจใหม่ของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน