ยิ่งติดตามสถานการณ์การดูด นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข และพวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งภายในองค์ประกอบแห่ง “กลุ่มสามมิตร” ของ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ
ยิ่งเห็นสภาวะอันเรียกได้ว่า “เหลือเชื่อ”
จากการเปิดเผยของอดีตส.ส.พรรคเพื่อไทยบางคนในพื้นที่จังหวัดเลย ปรากฏว่าเมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ครอบครัว นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข เพิ่งจัดงานบวชลูกชาย
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เดินทางไปเป็น “ประธาน” ในพิธี
ถามว่าจากปลายเดือนพฤษภาคมกระทั่งกลางเดือนมิถุนายน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ จะระแคะระคายหรือไม่ว่า นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข จะตีจากพรรคเพื่อไทย
นี่คือความลับที่ดำเนินไปอย่างชนิด “เร้นลึก”
หากจับท่าทีอันมาจากไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่ว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ล้วนปฏิเสธความรับรู้ต่อปฏิบัติการดูดครั้งนี้
ไม่เพียงแต่โยนให้เป็นเรื่องของ “นักการเมือง”
หากที่สำคัญเป็นอย่างมากยังเท่ากับยืนยันว่า ปฏิบัติการ “ดูด” ครั้งนี้ได้รอดหูรอดตาของ คสช.และรัฐบาลไปโดยอัตโนมัติ
ทั้งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นหัวหน้า คสช. เป็นหัวหน้ารัฐบาล
ทั้งที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นรองนายกรัฐมนตรี เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทั้งที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ไม่เคยปรากฏใน “รายงาน” การเคลื่อนไหวบ้างเลยหรือ
จึงอาจสรุปได้อย่างมั่นใจว่า ปฏิบัติการของ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ในนามของ “กลุ่มสามมิตร” เป็นปฏิบัติการ “ลับสุดยอด”
ไม่เพียงแต่ฝ่าย “ความมั่นคง” ไม่ได้ระแคะระคาย
หากฝ่ายของพรรคเพื่อไทยอันเป็นต้นสังกัดของ นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข และพวก ก็ไม่เคยรับรู้มาก่อน อย่างน้อยก็ภายใน 10 วันก่อนเกิดปรากฏการณ์ไม่มีใครรู้
ที่ตีปลาหน้าไซก็เสมอเป็นเพียงมีความพยายาม “ต่อสาย”
แถลงการณ์อันมาจาก นายภูมิธรรม เวชยชัย ในฐานะเลขาธิการพรรค ยืนยันว่าภายในพรรคเพื่อไทยไม่รู้ แม้กระทั่ง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่เพิ่งพบ นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข ก็ไม่รู้
ถือได้ว่าเป็นปฏิบัติการ “ลับ” ที่เยือกเย็นอย่างสุดยอด
จากกรณีของ นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข ที่จังหวัดเลย เด่นชัดยิ่งว่าพรรคเพื่อไทยจะตกอยู่ในลักษณะ “ตั้งรับ” ต่อไปอีกและน่าจะมีการตกลงที่ “ใหญ่” มากยิ่งกว่า
ลงคนระดับ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ลงมาเล่นย่อมไม่เล็ก
และเมื่อประสานขบวนการของ “3 ส.” อันสำแดงผ่าน “กลุ่มสามมิตร” ก็สามารถลากโยงไปยังอีก 1 ส. ซึ่งยังกบดานเงียบสนิทแม้ว่าจะอยู่ในฐานะตัวจริงเสียงจริงก็ตาม
นี่คือแผนลับในการสืบทอดอำนาจให้กับ “คสช.”
