เริ่มมีความแจ่มชัดเป็นลำดับว่าในพื้นที่นครราชสีมานอกจาก นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ แล้วเป็นไปได้สูงที่กลุ่ม นายวิรัช รัตนเศรษฐ จะหลุดมือไปอยู่พรรคพลังประชารัฐ
เป็นความแจ่มชัดมาจากไหน
เบื้องต้นจับ “อาการ” อันสำแดงผ่าน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ซึ่งอยู่ในสถานะเป็นรักษาการรองโฆษก พรรคเพื่อไทย
ถามว่าเหตุใดจึงออก “อาการ” มากขนาดนั้น
มิใช่เพราะว่าเป็นรองโฆษกย่อมมี “ข้อมูล” ไหลเข้ามาอย่างท่วมท้น หากแต่ปัจจัยที่สำคัญเป็นอย่างมากก็คือ นครราชสีมาเป็นพื้นที่ของ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด
จึงมากด้วยความหงุดหงิด มากด้วยความร้อนรน
ขณะเดียวกัน ไม่เพียงแต่ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด เท่านั้นที่ออก “อาการ” หากคนที่เงียบเชียบเป็นอย่างมากอย่าง นายโกศล ปัทมะ ก็ออกมาให้รายละเอียด
คนนี้เป็นน้อง นายนพดล ปัทมะ
ข่าวที่ไหลออกมาจากพื้นที่นครราชสีมาหากไม่ออกมาจาก นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ก็จะเป็น นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด เพิ่งจะมี 2-3 วันก่อนเท่านั้นที่ นายโกศล ปัทมะ ออกโรง
และล่าสุด นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ออกมา ปิดเกมด้วยการสรุปเป็นทำนองว่าคนในเครือข่าย “รัตนเศรษฐ” ไม่น่าจะรั้งดึงไว้ได้แล้ว
นั่นก็โดยยืนยันว่าได้ตระเตรียมคนเอาไว้แล้ว
แม้ทางกลุ่ม “รัตนเศรษฐ” ยังไม่แถลงอะไรออกมา แต่กระบวนการยื้อ การถ่วง ไม่ว่าในวันที่ 30 มิถุนายน ไม่ว่าในวันที่ 5 กรกฎาคม สะท้อนความเขี้ยว ความคม ในทางการเมือง
อย่าลืมเป็นอันขาดว่า นายวิรัช รัตนเศรษฐ มีพื้นฐานมาจากพรรคชาติไทย ได้รับความไว้วางใจเป็นอย่างสูงจาก นายบรรหาร ศิลปอาชา
หลายคนคงยังไม่ลืม “ผักสวนครัว รั้วกินได้”
จากพรรคชาติไทยก็ไหลไปยังพรรคมหาชนของ นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ และ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ แล้วจึงจรมายังพรรคพลังประชาชน
มือระดับนี้ต้อง “มั่นใจ” จึงจะ “ขยับ”
หากตระกูล “รัตนเศรษฐ” ถูกดูดออกไปก็เท่ากับว่าพื้นที่นครราชสีมาของพรรคพลังประชารัฐโอ่อ่าอลังการเป็นอย่างสูง
ไม่เพียงแต่มี นายจำลอง ครุฑขุนทด หากมี นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์
ไม่เพียงแต่มี นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ เจ้าของฉายา “แรมโบ้อีสาน” อันเกรียงไกร หากยังอบอุ่นด้วย “ผักสวนครัว รั้วกินได้” จากตระกูลรัตนเศรษฐ
เป้าหมายเพื่อเอาชนะพรรคเพื่อไทยสถานเดียว
