ไม่เพียงแต่จะมีความแจ่มชัดถึง “พลังดูด” ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา หากมีความแจ่มชัดมากยิ่งขึ้นถึง “พลังดูด” ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี
เงาสะท้อนเห็นได้จาก “ครม.สัญจร”
สัมผัสจากท่าทีของอดีตส.ส.ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเครือข่ายของพรรคเพื่อไทย จะไปต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือปฏิเสธ
เหมือนที่เห็นในสุโขทัย เหมือนที่เห็นในนครสวรรค์
กระนั้น เมื่อนำมาเปรียบเทียบระหว่างบรรยากาศที่สุพรรณบุรี ที่บุรีรัมย์ กับที่เห็นในสุโขทัย เห็นในนครสวรรค์ ก็มีความแตกต่าง
เรื่องอย่างนี้ “คอการเมือง” อ่านออก
ท่าทีเมื่อ นายประภัตร โพธสุธน และ นายวราวุธ ศิลปอาชา ไปต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อไปเยือนจังหวัดสุพรรณบุรีนั้นสะท้อนความต่าง
ต่างจากสุโขทัย ต่างจากนครสวรรค์
ยิ่งเมื่อนำเอาภาพทุกช็อตอันปรากฏ ณ สนามช้าง อารีนา บุรีรัมย์ ยิ่งอยู่คนละไฟลั่มจากที่เห็นในสุโขทัย และที่เห็นในนครสวรรค์ หลายโยชน์
นี่ย่อมเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละจังหวัด แต่ละพื้นที่
เมื่อเป็นพื้นที่ของบุรีรัมย์ในแวดวงของพรรคภูมิใจไทยจะมีระยะห่าง เมื่อเป็นพื้นที่ของสุพรรณบุรีในแวดวงของพรรคชาติไทยพัฒนาจะมีระยะห่าง
ไม่เหมือนสุโขทัย ไม่เหมือนนครสวรรค์
พื้นที่ของพรรคภูมิใจไทย ณ สนามช้าง อารีนา บุรีรัมย์ เด่นชัดอย่างยิ่งว่าทุกรายละเอียดอยู่ภายใต้การจัดวางของ นายเนวิน ชิดชอบ
แม้กระทั่ง “บล็อกกิ่ง” การเดินทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
การนำเอาประชาชนกว่า 30,000 คนมาเปล่งเสียงพร้อมกันจาก 4 ด้านของอัฒจันทร์ ส่งผลให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มิอาจแสดงอย่างอื่นได้
นอกจากอยู่ใน “คอนโทรล” ของเจ้าของ “อีเวนต์”
ท่าทีของ นายเนวิน ชิดชอบ ท่าทีของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ท่าทีของพรรคภูมิใจไทย ดำเนินไปในแบบพันธมิตรที่เสมอภาคและเท่าเทียมกัน
มิได้อยู่ในแบบ “ลูกแหล่ง ตีนมือ” แน่นอน
ท่ามกลางการเคลื่อนไหวของ “ครม.สัญจร” ท่ามกลางการเดินสายใช้ “พลังดูด” ของ “กลุ่มสามมิตร” ได้แยกจำแนกสภาพการณ์ทางการเมืองออกมา
นั่นก็ขึ้นอยู่กับ “สถานะ” ของนักการเมืองแต่ละคน
อย่างที่เห็นผ่าน นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข ก็แบบหนึ่ง อย่างที่เห็นผ่าน นายจำลอง ครุฑขุนทด ก็แบบหนึ่ง ไม่เหมือนเมื่อมองไปยังสุพรรณบุรี หรือบุรีรัมย์
ภาพอย่างนี้ “ชาวบ้าน” มองออก แทงทะลุ
