คล้ายกับว่า บรรดาอดีตส.ส. อดีตส.ว. ที่มี นายสุพล ฟองงาม นำขบวนไปรอต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อเดินทางมาครม.สัญจร อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ยโสธร
จะเป็น “ของตาย” สำหรับ “พลังดูด”
อย่างน้อยคนจากพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่เป็นเช่นนั้น อย่างน้อยคนจากพรรคชาติไทยพัฒนา ก็ไม่เป็นเช่นนั้น
หรือแม้กระทั่ง นายสุพล ฟองงาม เองก็ “ไม่แน่”
อย่าลืมเป็นอันขาด ปูชนียบุคคลที่เปล่งคำว่า “ไม่แน่ ไม่แน่” กระทั่งติด 2 ริมฝีปาก คือ พระอาจารย์ชา สุภัทโท มหาปรมาจารย์แห่งวัดหนองป่าพง วารินชำราบ อุบลราชธานี
พระอาจารย์ถอดมาจากคำว่า “อนิจจัง”
บทบาทของอดีตส.ส.ซึ่งมาจากพรรคชาติไทยพัฒนาก็เช่นเดียวกับอดีตส.ส.จากพรรคภูมิใจไทย หรือแม้กระทั่งพรรคชาติพัฒนา
ท่วงท่าของพวกเขาเหมือนกับของ “พรรคพลังชล”
อย่าลืมเป็นอันขาดว่า การเข้าไปเป็นที่ปรึกษาฝ่ายการเมืองของ นายสนธยา คุณปลื้ม การเข้าไปเป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีของ นายอิทธิพล คุณปลื้ม
เป็นไปในลักษณะ “พันธมิตร” แห่ง “แนวร่วม”
เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนที่ นายสนธยา คุณปลื้ม จะยุบพรรคพลังชลแล้วสลายกลายเป็นองคาพยพหนึ่งแห่ง “กลุ่มสามมิตร” หรือพรรคพลังประชารัฐ
พวกเขายังต้องการรักษาฐาน “ชลบุรี” ของตนเอาไว้
นี่ย่อมเป็นท่าทีอย่างเดียวกันกับพรรคภูมิใจไทยเมื่อมีครม.สัญจรไปบุรีรัมย์ นี่ย่อมเป็นท่าทีอย่างเดียวกันกับพรรคชาติไทยพัฒนาเมื่อมีครม.สัญจรไปสุพรรณบุรี
แม้กระทั่งเมื่อครม.สัญจรไปนครราชสีมา พรรคชาติพัฒนาก็เป็นเช่นนี้
เป็นไปไม่ได้ที่พรรคเหล่านี้จะแสดงบทบาทเหมือนกับที่ นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข แสดงมาแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่พรรคเหล่านี้จะแสดงบทบาทเหมือนกับที่ นายจำลอง ครุฑขุนทด แสดงมาแล้ว
ขณะเดียวกัน พรรคเหล่านี้ก็มิได้แตะไปยัง “คสช.” เท่านั้น
ตรงกันข้าม มืออันงดงามของพวกเขาก็พร้อมแตะไปยังพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมแตะไปยังพรรคเพื่อไทย
นั่นก็ขึ้นกับ “กระแส” นั่นก็ขึ้นกับ “การเลือกตั้ง”
อย่าว่าแต่ท่าทีของพรรคชาติไทยพัฒนา พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติพัฒนา จะดำรงเอกลักษณ์ของตนเช่นนี้เลย แม้กระทั่งนักการเมืองบางคนที่เคยเปิดตัว
เมื่อ “กระแส” และแนวโน้มการเมืองมีความแจ่มชัด
แจ่มชัดไปทาง “คสช.” หรือว่าแจ่มชัดไปทาง “พรรคประชาธิปัตย์” หรือว่าแจ่มชัดไปทาง “พรรคเพื่อไทย” พวกเขาก็พร้อมแปรเปลี่ยนได้
เพราะผลของ “การเลือกตั้ง” ต่างหากที่สำคัญที่สุด