เหมือนกับจังหวะก้าวของฝ่ายกฎหมายคสช.ที่เล่นงานไปยังรายการไลฟ์สด “คืนวันศุกร์ให้ประชาชน” เพื่อติดเบรกให้กับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และพรรคอนาคตใหม่

แต่เมื่อเน้นไปยังประเด็นของ “พลังดูด”

จึงเป็นเรื่องอันละเอียดอ่อนอย่างยิ่งในทางการเมือง ไม่เพียงแต่จะสัมพันธ์โดยทางอ้อมหรือโดยทางตรงกับคสช.หรือไม่ อย่างไร

หากแต่อีกด้านของตัวละครยังเป็น นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ

แม้พื้นฐานของ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ จะคือ “ซัมมิท” ขณะที่พื้นฐานของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ คือ “ไทยซัมมิท”

แต่ถึงอย่างไรก็ล้วนมาจาก “จึงรุ่งเรืองกิจ”

ต่อกรณี “พลังดูด” ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่ว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ล้วนอยู่ในสภาพ “ลอยตัว”

ทาง 1 ปล่อยให้เป็นเรื่องของ “รัฐมนตรี” บางคน

ขณะเดียวกัน ทาง 1 ปล่อยให้เป็นบทบาทที่ดำเนินการโดย “กลุ่มสามมิตร” อันมี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ กับ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รับหน้าเสื่อ

ไม่ว่าจะเป็นที่ “เลย” ไม่ว่าจะเป็นที่สนามกอล์ฟ ปทุมธานี

คล้ายกับว่าทั้ง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เล่นบทเป็นเหมือนกับ “หนังหน้าไฟ” มากกว่า

แต่เป้าหมายของ 2 ส.นั้นคือ “พลังประชารัฐ”

ความจริงบทบาทของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อันกลายเป็นประเด็นให้ฝ่ายกฎหมาย คสช.ไปแจ้งความต่อรายการไลฟ์สด คืนวันศุกร์ให้ประชาชน ก็เสมือนกับเป็นเครื่องเคียง

เพียงแต่เมื่อเน้นในประเด็น “พลังดูด” เท่านั้น

พรรคอนาคตใหม่ไม่เพียงแต่ยืนยันว่าจะไม่มีการใช้ “พลังดูด” อย่างเด็ดขาด หากแต่ยังเดินหน้าเพื่อที่จะเข้าสู่ “ไพรมารี โหวต” อย่างเต็มเปี่ยม

ตรงนี้เป็น “จุดแข็ง” และน่าจะเป็น “จุดขาย”

บทบาทและคำประกาศของพรรคอนาคตใหม่น่าจะเข้าทาง “ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง” และน่าจะได้รับการหนุนเสริม

ประหลาดที่บำเหน็จกลับเป็นการแจ้งความ กล่าวโทษ

ท่าทีของพรรคอนาคตใหม่และ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กลับไม่ได้หวั่นไหว ตรงกันข้าม กลับจะเดินหน้าในเรื่องของรายการ “คืนวันศุกร์ให้ประชาชน” อย่างเต็มที่

ตรงนี้แหละที่เหนือความคาดหมาย

ไม่ว่าจะเป็นความคาดหมายของคสช. ไม่ว่าจะเป็นความคาดหมายของคอการเมืองโดยส่วนรวม ผลก็คือ รายการ “คืนวันศุกร์ให้ประชาชน” จะตกเป็นเป้า

เป้าในการติดตาม เป้าในการติดดิสก์เบรก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน