ปมเงื่อน เลือกตั้ง ปัจจัยใด ที่ยัง ไม่พร้อม สังคม เริ่มเห็นชัด

วิเคราะห์การเมือง

ปมเงื่อน – ความหงุดหงิดอันแผ่รังสีอำมหิตออกมาจากภายใน 1 คสช. และภายใน 1 รัฐบาล อย่างที่ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อรรถาธิบายสามารถเข้าใจได้

เพราะว่าเวลาของการตัดสินใจ “ใกล้” เข้ามาแล้ว

แม้ว่าในเบื้องต้น การเปิดไฟเขียวให้ “กลุ่มสามมิตร” เคลื่อนไหวเพื่อก่อแสนยานุภาพของ “พลังดูด” จะดำเนินไปด้วยความคึกคัก เข้มข้นเป็นอย่างยิ่ง

ไม่ว่าจะกลางรีสอร์ตดัง จังหวัดเลย

ไม่ว่าจะสามารถระดมอดีตส.ส. อดีตส.ว. และว่าที่ ผู้สมัครจำนวนนับร้อยมาเลี้ยงสังสรรค์ ณ สนามกอล์ฟดัง จังหวัดปทุมธานี

แต่ยิ่งนานวัน ยิ่งไม่เป็นไปตามที่คาดเอาไว้

แม้บรรดาไอ้ห้อยไอ้โหนในสนช.พยายามจะขับเคลื่อนเพื่อยื้อ ถ่วง หน่วงโรดแม็ปเลือกตั้งด้วยการเสนอแก้ไขพ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง

ตั้งเป้าหมายจะยืดเวลาเลือกตั้งออกไปอีก 9 เดือน

กระนั้น ความพยายามนี้ก็ไม่ราบรื่น เพราะคล้อยหลังการเคลื่อนไหวก็มีกระแสคัดค้าน ต่อต้านดังกระหึ่มจาก ทุกสารทิศ

จำเป็น จำใจต้องถอนออก หน้าแหกกันเป็นแถว

ความพยายามครั้งนี้จึงไม่เพียงแต่ไม่ประสบความสำเร็จอย่างราบรื่น ตรงกันข้าม กลับกลายเป็นเครื่องประจานว่า “พลังดูด” ที่เคยคึกคักเสมอเป็นเพียง “การตลาด”

ยากเป็นอย่างยิ่งจะยื้อ จะถ่วง จะหน่วงต่อไปได้อีก

ยิ่งกว่านั้น การปล่อยโครงการ “กลุ่มสามมิตร” ออกมาพร้อมกับ “พลังดูด” ที่คิดว่าเป็นจุดแข็งกลับกลายเป็นจุดอ่อนตามมาอย่างรวดเร็ว

เพราะเป็นเส้นทางการเมืองในแบบ “เก่า”

ไม่เหมือนกับที่เคยร้องออกมาเป็นเพลง “เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน” การเมืองตามแผน “ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง” ก็จะปรากฏอย่างงามตา

แต่เมื่อได้คนอย่าง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ได้คนอย่าง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ

ก็เริ่มไม่แน่ใจเสียแล้วว่า “แผ่นดินอันงดงาม” จะเป็นไปตามที่ปรากฏในบทเพลงหลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 หรือไม่

ขณะเดียวกัน เวลาแห่ง “การตัดสินใจ” ก็คืบคลาน เข้ามาเป็นลำดับ

นับแต่รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ประกาศและบังคับใช้ เมื่อเดือนเมษายน 2560 เป็นต้นมา เป็นเวลา 1 ปี แล้วสังคมมองเห็นอย่างเด่นชัดขึ้น

เด่นชัดว่า ฝ่ายใดที่ขาด “ความพร้อม” ในทางการเมือง

ไม่ใช่พรรคการเมืองอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นพรรค เพื่อไทย ไม่ว่าจะเป็นพรรคชาติไทยพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นพรรคภูมิใจไทย ล้วมมีความพร้อมอย่างเต็มเปี่ยม

กระนั้น คสช.ก็ยังไม่ยอม “ปลดล็อก” ให้พรรค การเมือง

อ่านต่อ:

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน