เหมือนกับว่าวิวาทะว่าด้วย “ยิ่งลักษณ์” อันลามไปยัง “พ่อปู แม่ปู” จะเริ่มมาจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพราะว่าสัมพันธ์กับชื่อ “ยิ่งลักษณ์”

แต่เอาเข้าจริงๆ ไม่ใช่

เป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต่างหากที่เริ่มต้นพลันที่ประสบเข้ากับข้าราชการคนหนึ่งซึ่งมาต้อนรับระหว่างสัญจรไปยังจังหวัดระนอง

เนื่องจากเธอคนนั้นมีนามว่า “ยิ่งลักษณ์”

จากนาม “ยิ่งลักษณ์” นั้นเอง น้ำเสียงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงเกิดการแปรเปลี่ยนแล้วก็พลอยโยงไปยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เข้าจนได้

เท่ากับยืนยันว่ายัง “ก้าวไม่ข้าม” น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

หากกรณีนี้เลเพลาดพาดกันอยู่ระหว่าง อดีต “นายกรัฐมนตรี” กับ อดีต “ผบ.ทบ.” หรือแม้กระทั่งระหว่าง “พ่อปู” กับ “แม่ปู” ก็แล้วกันไป

แต่ในที่สุดแล้วกลับไปไกลยิ่งกว่านั้น

ความละเอียดอ่อนระหว่างความสัมพันธ์ของอดีต “นายกรัฐมนตรี” กับ อดีต “ผบ.ทบ.” ก็เปราะบางอย่างยิ่งอยู่แล้ว

เพราะนายกรัฐมนตรีคนนั้นเป็นรัฐมนตรี “กลาโหม” ด้วย

พอมาถึงการระบุว่า “แม่ปู” เดินบิดเบี้ยวพร้อมกับยืนยันว่า “พ่อปู” เดินตรง เดินดี เดินน่าเป็นตัวอย่าง ยิ่งเพิ่มสีสันเข้าไปอีกเพราะธรรมชาติของปูล้วนเดินเอียงทั้งนั้น

แต่นัยซ่อนเร้นก็คือการคงอยู่ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต่างหาก

เป็นการคงอยู่ขณะที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำหนังสือขอตัวในฐานะ “ผู้ร้าย” กับรัฐบาลอังกฤษรับรู้กันอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร

คำถามก็คือ อังกฤษเดินหน้าไปแค่ไหน เพียงใด

คำถามอันตามมาก็คือ การเดินทางของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ นายทักษิณ ชินวัตร มิได้อยู่ที่อังกฤษเพียงประเทศเดียว

หากแต่มายังสิงคโปร์ ฮ่องกงและประเทศจีน

บรรดาแฟนานุแฟนอันเป็น “มวลมหาประชาชน” พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและกปปส. ล้วนอยากรู้ว่าทำไมไม่มีประเทศใดส่งตัวมาให้เลย

คำถามนี้พุ่งตรงไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

แม้ว่าในที่สุด เรื่องราวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะค่อยๆ เงียบหายไปเหมือนกับเรื่องราวของ นายทักษิณ ชินวัตร แต่ก็เป็นความเงียบอย่างอึกทึก

กรณี “วิวาทะ” ครั้งนี้จึงเท่ากับเป็น “สัญญาณ”

หากเข้าสู่กระบวนการของ “การเลือกตั้ง” การพาดพิงระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะยิ่งมีความร้อนแรงยิ่งขึ้น

ใครเป็นฝ่ายรุก ใครเป็นฝ่ายรับ คงได้เห็นกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน