วิเคราะห์การเมือง : 2 ภาพ การเมือง ภาพ เดินคารวะแผ่นดิน กับ กรุงเทพฯ ขยับ
หากไม่มีการเคลื่อนไหวผ่านแคมเปญ “กรุงเทพฯ ขยับ” ของพรรคอนาคตใหม่ที่นำโดยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ภาพของ “เดินคารวะแผ่นดิน” ของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็มากด้วยความโดดเด่น
“กรุงเทพฯ ขยับ” จึงตีคู่กับ “เดินคารวะแผ่นดิน” โดยอัตโนมัติ
จุดขายของพรรคอนาคตใหม่คือ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จุดขายของพรรครวมพลังประชาชาติไทย คือ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ
1 คือ อนาคต 1 คือ อดีต
บรรยากาศการเคลื่อนไหวจึงแตกต่างกันเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะมองผ่าน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่ว่าจะมองผ่าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ
1 ก้าวไปข้างหน้า 1 ย้อนกลับข้างหลัง
แรกที่ไม่ว่าพรรคอนาคตใหม่ ไม่ว่าพรรครวมพลังประชาชาติไทย เผยแสดงต่อสังคมมีกลิ่นอายและลักษณะ พรรคที่ใกล้เคียงกันเป็นอย่างมาก
คือ การชู “คนรุ่นใหม่”
อ่านเกมลึกๆ พรรครวมพลังประชาชาติไทยเสนอตัว เข้ามาเพื่อเป็นคู่เปรียบเทียบกับพรรคอนาคตใหม่ซึ่งแสดงตัวอย่างแจ้งชัดว่าเป็นพรรคเลือดใหม่ในทางการเมือง
เห็นได้ชัดๆ คือ การชูภาพ “เขตรัฐ” ประกบ “เพชรชมพู”
2 คนนี้สามารถวางเรียงเคียงข้างกับภาพ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ ภาพ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ได้อย่างแน่นอน
แต่พลันที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ปรากฏก็ เรียบโร้ยยย
ถามว่าระหว่าง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ในพรรคอนาคตใหม่ กับ ภาพ “เขตรัฐ” และ “เพชรชมพู” ในพรรครวมพลังประชาชาติไทย
ภาพของใครมีความโดดเด่นมากกว่ากัน
ไม่มีใครสงสัยในความเป็น “ผู้นำ” พรรค ไม่ว่าจะโดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่ว่าจะโดย นายปิยบุตร แสงกนกกุล
แต่กรณีของ “เขตรัฐ” และ “เพชรชมพู” ยังน่าสงสัย
แม้กระทั่งบทบาทของ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล หรือ นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ หรือแม้กระทั่ง นายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง ก็น่าสงสัยอยู่เหมือนกัน
เพราะทุกอย่างรวมศูนย์มาจาก “ลุงกำนัน”
ยิ่งเมื่อภาพแห่งการเคลื่อนไหวผ่าน “กรุงเทพฯ ขยับ” ได้รับการวางเรียงเคียงอยู่ข้างกับ “เดินคารวะแผ่นดิน” ยิ่งมีความแจ่มชัด
แจ่มชัดเหมือนดำกับขาว มืดกับสว่าง
ความสดใส ร่าเริง เปี่ยมด้วยความหวัง สัมผัสได้จาก “กรุงเทพฯ ขยับ” ความขัดแย้ง ความแตกแยก อันเนื่องแต่ความพยายามฟื้นอดีต สัมผัสได้จาก “เดินคารวะแผ่นดิน”
เพราะในที่สุดแม้กระทั่ง “ประชาธิปัตย์” ก็ยังคืน “นกหวีด”
