กรรมเก่า การเมือง การเมือง ของ ประชาธิปัตย์ สุเทพ เทือกสุบรรณ : วิเคราะห์การเมือง

กรรมเก่า การเมือง – ปัญหาอันเนื่องแต่ปฏิบัติการ “เดินคารวะแผ่นดิน” ของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้เพิ่มความละเอียดอ่อนยิ่งขึ้นพลันที่เข้าไปในพื้นที่ของพรรคประชาธิปัตย์

เห็นได้จากเมื่อเข้าไปในสงขลา ตรัง พัทลุง นครศรีธรรมราช

มีท่าทีที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเข้าไปยังสงขลา เข้าไปยังนครศรีธรรมราช แต่ก็แตกต่างเมื่อเข้าไปยังตรัง เข้าไปยังพัทลุง

ทั้งหมดนี้มีรายละเอียดของ “สงขลา” เป็น “กรณีศึกษา”

ส่งผลให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะหัวหน้าพรรคมีความจำเป็นต้องเตือนไปยัง นายวิทยา แก้วภราดัย ด้วยเกรงว่าจะเป็นอย่างที่สงขลา

ทั้งหมดนี้เริ่มจาก “อดีต” เริ่มจาก “ความผูกพัน”

หากไม่มีกรณีเปรียบเทียบระหว่างการปรากฏตัวที่สงขลา กับ การปรากฏตัวที่ตรัง และการปรากฏตัวที่พัทลุง คงไม่มีเสียงเตือนไปยังนครศรีธรรมราช

เพราะว่าที่สงขลามี นายถาวร เสนเนียม

เพราะว่าที่นครศรีธรรมราชมี นายวิทยา แก้วภราดัย ซึ่งเคยร่วมเคลื่อนไหวผ่าน “กปปส.” กับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อย่างเข้มข้น

แต่ที่ตรัง นายชวน หลีกภัย เสมอเพียงร่วมเป่านกหวีด

เช่นเดียวกับที่พัทลุงแม้ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ จะมีความเห็นอกเห็นใจแต่ก็ไม่ถึงกับไปร่วมเดินร่วมปฏิบัติการกับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ

ความแตกต่างนั้นเองที่กำหนด “ท่าที”

บทเรียนจากกรณีของ นายถาวร เสนเนียม ที่สงขลาไม่เพียงแต่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ต้องเพิ่มความระมัดระวังที่นครศรีธรรมราช

แต่หากเมื่อใด นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ขึ้นเหนือก็ต้องมองไปยังพิษณุโลก

มีความพยายามจะแยกจำแนกระหว่างเรื่องของพรรคกับเรื่องส่วนตัวออกจากกัน แต่ก็ยากเป็นอย่างยิ่งที่จะทำได้อย่างเด็ดขาด

เข้าทำนอง “ขว้างงูไม่พ้นคอ”

เพราะบารมีของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ภายในพรรคประชาธิปัตย์นั้นหนาแน่นและมั่นคง เมื่อประสานกับบทบาทผ่าน “มวลมหาประชาชน” ยิ่งไพศาลยิ่งขึ้นไปอีก

ตรงนี้แหละที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องระมัดระวัง

ความระมัดระวังของพรรคประชาธิปัตย์อยู่ตรงที่พรรครวมพลังประชาชาติไทยชูธงต้านพรรคเพื่อไทยแต่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจของคสช.

ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ชูธง 2 ผืน

ผืน 1 ซึ่งเก่าแก่อย่างยิ่งคือ ธงที่ต่อต้านพรรคเพื่อไทยและเครือข่าย ขณะเดียวกันธงอีกผืน 1 ที่ทำอย่างไรผู้คนก็ไม่ค่อยจะเชื่อ คือธงต่อต้านนายกรัฐมนตรี “คนนอก”

ความเข้มต่อ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ มีรากมาจากตรงนี้