วิเคราะห์การเมือง : วาทะ การเมือง วาทะ “พลังประชารัฐ” กับ 350 ส.ส.
วิเคราะห์การเมือง : การปล่อยวาทกรรม “พรรคพลังประชารัฐจะกวาด 350 ที่นั่ง” จากปาก นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ก่อให้เกิดปฏิกิริยาตามมาอย่างอึกทึกก้อง
ท่ามกลางความมั่นใจและดีใจของพรรคพลังประชารัฐ
มีคนจำนวนไม่น้อยเมื่อได้ฟังก็เห็นคล้อยตามโดยอัตโนมัติ ยิ่งเมื่อได้ฟังคำประกาศจากปาก นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ที่ว่า
“รัฐธรรมนูญนี้ดีไซน์เพื่อพวกเรา”
ยิ่งทำให้ภาพของพรรคพลังประชารัฐอันมาพร้อมกับ 4 รัฐมนตรีระดับ “ยอดกุมาร” เพิ่มความยิ่งใหญ่มากด้วยอลังการเป็นทบเท่าทวีคูณ
กระนั้น ก็ยังมีคนอีกจำนวนไม่น้อยไม่เห็นด้วยและกังขา
พาดหัวข่าวในกาลต่อมาของสื่อหนังสือพิมพ์บางฉบับถึงกับใช้คำว่า “เพ้อเจ้อ” ต่อวาทกรรมจากปากของ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์
บางความเห็นว่า คำพูดนี้มาจากสภาวะ “ตื่นสนาม”
เพราะว่า นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เป็นคนหน้าใหม่ในทางการเมือง ไม่เคยประสบบรรยากาศทางการเมืองแบบที่เห็นในโรงแรมแชงกรี-ลา เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน จึงบังเกิดอาการตื่นตาตื่นใจกระทั่งหลุดวาทกรรม
“พรรคพลังประชารัฐกวาด 350 ส.ส.แน่นอน” ออกมา
การออกมาปฏิเสธจาก นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ในวันต่อมาเท่ากับยอมรับ แม้ว่าจะเป็นการปฏิเสธ “คำพูด” ของตนเองก็ตาม
หากมองจากภูมิหลังของ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ก็น่าเห็นใจ เพราะว่านี่เป็นครั้งแรกที่อยู่ในบรรยากาศทางการเมืองอันสัมพันธ์กับพรรคการเมืองและการเลือกตั้ง
รากฐานการได้อำนาจของเขาสัมพันธ์กับ “รัฐประหาร”
นั่นก็คือ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ โดยสารมารับตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีโดยบารมีของ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ซึ่งได้ความเชื่อใจจากคสช.เป็นอย่างสูง
เท่ากับ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ แหวก “เมฆ” มา
บรรยากาศอย่างที่ประสบในโรงแรมแชงกรี-ลา จึงเป็นบรรยากาศใหม่ ทั้งยังเป็นบรรยากาศอัน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ มีส่วนในการเนรมิต
จึงสร้างความตื่นตา ตื่นใจอย่างยิ่งยวดทาง การเมือง
แม้จะมีการปฏิเสธจาก นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ใน 1 วันหลังการประกาศและในอีก 1 วันต่อมาอันแสดงถึงการยอมรับในความผิดพลาดและบกพร่องของวาทกรรม
แต่เชื่อได้เลยว่าคำพูดนี้จะยังดำรงคงอยู่
เมื่อพูดถึงพรรคพลังประชารัฐ เมื่อเอ่ยอ้างถึงบทบาทและความหมายของ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ภายในพรรคพลังประชารัฐคำพูดนี้จะปรากฏโดยอัตโนมัติ
นั่นคือ พรรคพลังประชารัฐจะกวาด 350 ส.ส.